“รวมไทยฯ” จัดเต็มอีเวนต์ “บิ๊กตู่” เข้าพรรค 9 ม.ค.นี้ คาด คน พปชร.- ปชป.แห่ร่วมงาน ส่งสัญญาณย้ายพรรค เผย “เอกนัฏ” เคลียร์ปัญหาทับซ้อนหลายพื้นที่จนลงตัว จ่อตั้งทีมยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่หาเสียง ดึง “สุชาติ-ธนกร” ช่วย
วันนี้ (5 ม.ค.) รายงานข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ แจ้งว่า ภายหลังที่มีกำหนดการแน่ชัดแล้วว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะสมัครสมาชิกพรรคในวันที่ 9 ม.ค.นี้ ทำให้เริ่มมีความเคลื่อนไหวของ ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ และพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีแนวโน้มจะย้ายมาอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ อาจจะไปร่วมงานเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ ด้วย แม้จะยังไม่ลาออกจากพรรคต้นสังกัดเดิมก็ตาม เพราะได้ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นเพียงการไปร่วมงานที่ไม่ถือว่ามีความผิดทางกฎหมาย
“งานเปิดตัว พล.อ.ประยุทธ์ จะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มี ส.ส. และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เข้าร่วมงานจำนวนมาก นอกจากนี้ ยังมีทีมนายก อบจ. (องค์การบริหารส่วนจังหวัด) ในหลายจังหวัด ที่คอนเฟิร์มจะมาร่วมงานกับพรรคแล้ว มาร่วมเปิดตัวด้วย” แหล่งข่าวในพรรครวมไทยสร้างชาติ ระบุ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า สำหรับบรรยากาศภายในพรรครวมไทยสร้างชาติ ที่ยังถือว่าเป็นพรรคการเมืองใหม่ แต่มีคนแจ้งความจำนงขอเข้ามาร่วมงานกับพรรคจำนวนมาก ทั้ง ส.ส.ปัจจุบัน, อดีต ส.ส. และทีมนายก อบจ.จากหลายพรรค เนื่องจากต้องการสนับสนุนการทำงานของ พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้ที่ผ่านมาได้เกิดปัญหาทับซ้อนกันในหลายพื้นที่ เพราะมีผู้เสนอตัวลงสมัคร ส.ส. ในแต่ละเขตมากกว่า 2-3 ราย เช่น บางจังหวัดในภาคใต้ ซึ่งเดิมมีการเสนอชื่อว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขตไว้แล้ว แต่เมื่อมีคนที่มีศักยภาพมากกว่าเข้ามา จึงเกิดปัญหาไม่ลงตัวกันอยู่บ้าง ทำให้ นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค ต้องคอยพูดคุยทำความเข้าใจถึงเหตุผลและเงื่อนไขความจำเป็นต่างๆ จนได้ข้อสรุปที่ทุกฝ่ายพอใจ ปัญหาจบไม่ลุกลามบานปลายกลายเป็นความขัดแย้งขยายวงไปถึงเรื่องอื่น ส่งผลบรรยากาศในพรรคเวลานี้จึงมีเอกภาพ และความกลมเกลียว ทำงานกันได้อย่างราบรื่น
“เวลามีปัญหาพื้นที่ ก็ต้องคุยกับเลขาฯ เอกนัฏ เพราะเคมีตรงกัน มีหลักการทำงานชัดเจน พูดคุยด้วยเหตุด้วยผล ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง เอาแต่คนใกล้ชิด ทุกอย่างพิจารณาตามความเหมาะสม อยู่บนจุดที่พรรคได้ประโยชน์สูงสุด เลือกคนที่ดีที่สุดตามวิธีการของพรรคลงเลือกตั้ง ไม่ให้เกิดข้อครหาตามมา ทำไมบางจังหวัดในภาคใต้ คนที่อาวุโสกว่า เป็น ส.ส.มาหลายสมัย ต้องยอมหลบให้อีกคนลงเขตแทน แล้วตัวเองไปขึ้นปาร์ตี้ลิสต์ เพราะหลักการตรงนี้ชัดเจน เลขาฯ เอกนัฏ ทำให้ทุกคนมองเห็นภาพเดียวกันคือเป้าหมายทำเพื่อพรรค” แหล่งข่าว ระบุ
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า หลังจากนี้ จะมีการจัดตั้งทีมยุทธศาสตร์เชิงพื้นที่เพื่อกำหนดทิศทางการหาเสียงและการจัดระบบภายในพื้นที่ของพรรค โดยมอบหมาย นายเอกนัฏ ร่วมกับ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และ นายธนกร วังบุญคงชนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี วางยุทธศาสตร์หาเสียง โดยมีทีมนายก อบจ. ในหลายจังหวัดร่วมคณะ เพื่อทำพื้นที่เชิงรุกด้วย