เพจ "Drama-addict" ได้ออกมาโพสต์จากคุณแม่รายหนึ่งแชร์ประสบการณ์ของลูกสาววัย 1 ขวบ 5 เดือน ที่รอดเพราะคาร์ซีต หลังเกิดอุบัติเหตุรถไหลมาชนจนรถเละทั้งคัน ย้ำผู้ปกครองคาร์ซีตเป็นสิ่งสำคัญและจำเป็น
เมื่อวันที่ 26 ธ.ค. เพจ "Drama-addict" ได้ออกมาโพสต์จากคุณแม่รายหนึ่งแชร์ประสบการณ์ของลูกสาววัย 1 ขวบ 5 เดือน ที่รอดเพราะคาร์ซีต หลังเกิดอุบัติเหตุรถไหลมาชนจนรถเละทั้งคัน โดยทางเพจระบุข้อความว่า "เรื่องที่รบกวนอาจจะฟังดูเป็นเรื่องส่วนตัวค่ะ แต่คิดว่าน่าจะเป็นตัวแทนของหลายๆ ครอบครัวเลยค่ะ ว่าด้วยเรื่องคาร์ซีตค่ะ
หนูมีลูกสาวอายุ 1 ขวบ 5 เดือนค่ะ หนูและสามีฝึกให้ลูกนั่งคาร์ซีตตั้งแต่ออกจากโรงพยาบาลค่ะ แต่ปัญหาคือเวลาออกไปข้างนอกกันหลายๆ คน หรือออกไปกับญาติผู้ใหญ่ ทุกคนมักจะบอกว่าไม่ต้องเอาคาร์ซีตไปหรอก บางครั้งก็ว่ามันเกะกะ ทำให้คนนั่งได้น้อยลง เพราะค่านิยมเดิมๆ ของผู้ใหญ่ในประเทศไทยที่ว่า ไม่เป็นไร เลี้ยงลูกมาก็ไม่เห็นเป็นอะไร แต่ก่อนไม่เห็นต้องมีเลย
ทำให้เรื่องคาร์ซีตเป็นเรื่องที่คนละเลย ตัวหนูเอง สามี และเพื่อนๆ ที่มีลูกวัยเดียวกันรู้สึกดีใจมากๆ ที่ประเทศไทยมีกฎหมายเรื่องคาร์ซีตออกมาค่ะ แต่จนแล้วจนเล่ากฎหมายข้อนี้ก็ยังไม่ได้ถูกนำมาใช้งาน หรือมีความเด็ดขาดในเรื่องนี้ อยากรบกวนจ่านำเสนอข่าวในเรื่องนี้นิดหนึ่งได้รึเปล่าคะ เพื่อที่จะเป็นกระบอกเสียง คิดว่าลำพังความคิดหรือวัฒนธรรมในประเทศไทยที่ลูกหลานเกรงใจผู้ใหญ่ยังมีอยู่มากๆ ค่ะ กฎหมายเป็นหนึ่งอย่างในการทำสิ่งที่ยังไม่ถูกต้องให้ถูกต้องมากยิ่งขึ้นค่ะ และเพื่อความปลอดภัยของลูกหลานค่ะ"
นอกจากนี้ เพจ "Drama-addict" ได้โพสต์เพิ่มเติม ระบุว่า "จากโพสต์เมื่อวานเรื่องคาร์ซีต คุณแม่ท่านหนึ่งฝากประสบการณ์ตรงมาดังนี้ครับ
สวัสดีค่ะจ่า เห็นโพสต์เรื่องคาร์ซีตแต่แปะรูปไม่ได้เลยขอส่งมาเผื่อจะมีประโยชน์ เตือนใจใครได้ อันนี้ประสบเหตุเองค่ะ วันที่ 13 สิงหาคม รถบรรทุกเบรกแตกมาชน แม่ขับ ลูก 2 คนนั่งคาร์ซีตด้านหลังคนละข้าง ลูกที่นั่งด้านที่โดนชนเต็มๆ จนประตูหายไป มีแค่รอยถลอกที่ขานิดเดียว ส่วนอีกด้านไม่เป็นอะไรเลย ทั้งหมดเป็นผลจากการนั่งคาร์ซีตจริง ๆ ค่ะ แม่คาดเข็มขัด เย็บหน้าผาก 20 เข็ม หลังศีรษะ 5 เข็ม ถ้าไม่นั่งคาร์ซีต มั่นใจว่าลูกบาดเจ็บหนักทั้งคู่แน่นอน ชนแรงมาก บินแน่ๆ ค่ะ"