ผู้อำนวยการโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยโยนสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ สอบข้อเท็จจริง ครูสอนสังคมศึกษากล่าวหาป๋าเปรมเผด็จการ ด่าเรื่องส่วนตัวและรสนิยมทางเพศ สร้างความเกลียดชังแก่นักเรียน ขณะที่อาจารย์รัฐศาสตร์ จุฬาฯ ถามหาแหล่งที่มา ถ้ามีข้อมูลจริงต้องตรวจสอบทางวิชาการว่าถูกต้องเพียงใด
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. นางสุมนา ธิกุลวงษ์ ผู้อำนวยการโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ออกเอกสารข่าว ชี้แจงการดำเนินการของโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย กรณีครูที่เป็นข่าวในสังคมออนไลน์ระบุว่าโรงเรียนได้รับคลิปวิดีโอดังกล่าวในวันพุธที่ 21 ธันวาคม 2565 ประมาณ 10.00 น. จากผู้ปกครองเพื่อสอบถามว่าใช่โรงเรียนเราหรือไม่ หลังจากได้ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเป็นการจัดการเรียนการสอนวิชาสังคมศึกษาของระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 สอนโดย นางสาวเพ็ญภาส อุทัชกุล ข้าราชการครูของโรงเรียนจริง ซึ่งในขณะนั้นโรงเรียนมีกิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ โดยนักเรียนระดับชั้น ม.2 และ ม.3 ไปเข้าค่ายลูกเสือที่ จ.สระบุรี วันที่ 21-23 ธันวาคม 2565 นักเรียน ม.1 ได้ทำกิจกรรมค่ายลูกเสือที่โรงเรียน วันที่ 22-23 ธันวาคม 2565 ในส่วนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.5-ม.6) ให้หยุดดูหนังสือสอบเพื่อประเมินผลกลางภาค ในวันที่ 26-29 ธันวาคม 2565
เมื่อโรงเรียนได้ทราบเรื่องก็มิได้นิ่งนอนใจ ได้ออกคำสั่งแต่งตั้งกรรมการสืบข้อเท็จจริงทันที และให้กรรมการได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างรอบด้านและรอบคอบอย่างรวดเร็ว กรรมการได้แจ้งให้ครูเพ็ญภาสได้ทราบถึงกรณีที่เกิดขึ้น ให้บันทึกชี้แจงรายงานต่อกรรมการสืบข้อเท็จจริง และผู้อำนวยการโรงเรียนได้รีบรายงานเหตุการณ์ถึงผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 2 และรายงานต่อเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามขั้นตอนแนวปฏิบัติของการปฏิบัติหน้าที่ทางราชการ
โรงเรียนได้เตรียมการในการทำงานตลอดเวลา เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกระทบในวงกว้างกระทบความรู้สึกของสังคมหลายกลุ่มและแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว และอาจส่งผลกระทบต่อจิตใจของนักเรียนที่เกี่ยวข้อง จึงได้ออกคำสั่งให้ครูดังกล่าวไปปฏิบัติหน้าที่ที่ห้องสำนักงานวิชาการ เพื่อมิให้กระทบต่อการเรียนการสอนในช่วงการดำเนินการสอบสวนทางราชการยังไม่แล้วเสร็จ ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 26 ธันวาคม 2565 เป็นต้นไป และได้ทำความเข้าใจกับกรรมการเครือข่ายผู้ปกครอง กรรมการสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงรายงานถึงการดำเนินการของโรงเรียนที่ได้ดำเนินการไปแล้ว
วันพฤหัสบดีที่ 22 ธันวาคม 2565 กรรมการสืบข้อเท็จจริงได้สรุปข้อมูลต่างๆ ที่ได้รับมาเสนอผู้อำนวยการโรงเรียน ลงความเห็นว่า มีข้อมูลชัดเจน ในการกระทำความผิด สมควรพิจารณาตั้งกรรมการสอบสวนทางวินัยราชการ โรงเรียนได้พิจารณาแล้ว แต่เนื่องด้วย ครูเพ็ญภาส อุทัชกุล เป็นข้าราชการมีวิทยฐานะครูชำนาญการ คศ.2 อำนาจในการตั้งกรรมการสอบสวนจึงเป็นอำนาจของผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา กรุงเทพมหานคร เขต 2 จึงได้รายงานสรุปเรื่องสืบข้อเท็จจริง ส่งให้ผู้มีอำนาจดำเนินการตามขั้นตอนทางราชการต่อไป
สิ่งที่โรงเรียนได้วางแผนในการดำเนินการต่อไป คือ ความเข้มข้นของโครงการนิเทศภายใน การเพิ่มความตระหนักของครูในเรื่องจรรยาบรรณวิชาชีพ เพิ่มช่องทางการประเมินการสอนของครูผู้สอนอย่างรอบด้าน เพื่อให้มีข้อมูลในการป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้อีก รวมถึงเน้นย้ำครูทุกคนให้ดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิดมิให้เกิดความสับสนในข้อมูล ซึ่งอาจส่งผลกระทบทางจิตใจของนักเรียนที่เกี่ยวข้อง และประชาสัมพันธ์นักเรียนและผู้ปกครองในการใช้ MOE Safety Center ที่เป็นระบบมาตรฐานความปลอดภัยในสถานศึกษาในการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ให้ได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยทั้งด้านร่างกายและจิตใจ
โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัยรู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุลักษณะเช่นนี้ ต้องขอโทษผู้ปกครอง ขอโทษสังคม ขอโทษผู้ที่ได้รับผลกระทบทุกภาคส่วน และขอขอบคุณในทุกกำลังใจที่มอบให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา ทุกคนพร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอแนะ ยินดีที่จะนำทุกคำแนะนำไปปฏิบัติให้เกิดผลดีต่อราชการต่อไป
รายงานข่าวแจ้งว่า กรณีดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการส่งต่อวิดีโอคลิปความยาว 51 วินาที ที่ระบุว่ามาจากห้องเรียนโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ถนนพหลโยธิน แขวงคลองถนน เขตสายไหม กรุงเทพฯ โดยพบว่ามีครูรายหนึ่งที่ภายหลังระบุว่าเป็น น.ส.เพ็ญภาส อุทัชกุล ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยในคลิปเป็นการฉายสไลด์หัวข้อ "ประเภทของเผด็จการ" โดยนำภาพอดีตประธานาธิบดี อีดี อามิน ของประเทศอูกานดา, พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ อดีตประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ โดยระบุข้อความว่า "1. เผด็จการอำนาจนิยม หรือเผด็จการทหาร ควบคุมเสรีภาพทางการเมืองการปกครองเท่านั้น มักมีการใช้กฎอัยการศึก หรือรัฐธรรมนูญที่กลุ่มเผด็จการทหารสร้างขึ้นเป็นเครื่องมือในการปกครอง"
แต่ที่สังคมเคลือบแคลงสงสัยมากที่สุด คือการที่ น.ส.เพ็ญภาสกล่าวหา พล.อ.เปรม ถึงเรื่องรสนิยมทางเพศและเรื่องส่วนตัวที่ไม่มีหลักฐานยืนยัน ทำให้นักเรียนชั้น ม.4 ที่อยู่ในห้องเรียนร้องโห และด่าด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย อีกครั้งกล่าวหาว่าหลังจาก พล.อ.เปรมถึงแก่อสัญกรรม (น.ส.เพ็ญภาส ใช้คำว่าตาย) ทางการสั่งรื้อบ้านสี่เสาเทเวศร์ ทั้งๆ ที่การรื้อบ้านสี่เสาเทเวศร์เมื่อเดือน ก.ย. 2563 หลังเสร็จสิ้นพิธีพระราชทานเพลิงศพ พล.อ.เปรม เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 2562 เป็นเพราะกองทัพบกได้ส่งคืนพื้นที่แก่สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และไม่ใช่เพียงแค่บ้านสี่เสาเทเวศร์ แต่สโมสรทหารบก ส่วนกลาง ที่อยู่ติดกัน ซึ่งมีทั้งหมด 8 อาคารก็รื้อถอนไปด้วย โดยปัจจุบันได้ย้ายสถานที่ไปยังสโมสรทหารบก ถนนวิภาวดีรังสิต เรื่องดังกล่าวทำให้กลุ่มที่เป็นลูกศิษย์ พล.อ.เปรม และกลุ่มผู้สนับสนุน พล.อ.เปรม ที่ได้รับชมคลิปไม่พอใจอย่างมาก
ด้าน น.ส.เพ็ญภาส อุทัชกุล ครูผู้สอน ได้ทำบันทึกข้อความ ลงวันที่ 21 ธ.ค. เรื่อง ชี้แจงข้อเท็จจริง กรณีคลิปวิดีโอเผยแพร่การจัดการเรียนการสอน รายวิชา สังคมศึกษา 2 รหัสวิชา ส 31103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/12 ถึงผู้อำนวยการโรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย ระบุว่า ข้าพเจ้า นางสาวเพ็ญภาส อุทัชกุล ครูกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ได้รับมอบหมายให้จัดการเรียนการสอนในรายวิชาสังคมศึกษา 2 รหัสวิชา ส 31103 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/12 ในวันอังคารที่ 20 ธันวาคม 2565 คาบเรียนที่ 2 ข้าพเจ้าได้ดำเนินการสอนในเนื้อหา หน่วยที่ 2 เรื่องการปกครองระบอบเผด็จการ ซึ่งมีการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนตามแผนการเรียนรู้นั้น เมื่อสอนเนื้อหาจบจึงมีเวลาเหลือ ข้าพเจ้าจึงมีการเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นดังเหตุการณ์ที่ปรากฏในคลิปวิดีโอ ซึ่งวัตถุประสงค์แท้จริงของการสอนเพื่อให้นักเรียนเข้าใจในเนื้อหาและกระบวนการปกครองระบอบเผด็จการ โดยผู้สอนคำนึงถึงขอบเขตของหลักสูตรแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการ จึงนำแนวคิดและเนื้อหาเสริมจากที่ได้ร่ำเรียนมาสอนเพิ่มเติมให้กับนักเรียน โดยมิได้มีเจตนาในการดูหมิ่นหรืออาฆาตมาดร้าย เพียงแต่เพื่อความรู้ ความเข้าใจในระบอบการปกครองรูปแบบนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งหลังจากที่ได้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนเสร็จผู้สอนตระหนักได้ถึงการเพิ่มเติมสิ่งเหล่านั้นให้กับนักเรียน ซึ่งอาจก่อให้เกิดความขัดแย้งได้โดยมิตั้งใจ และผู้สอนมีความตั้งใจจะปรับปรุงการสอนให้เหมาะสมกับหลักสูตรแกนกลางของกระทรวงศึกษาธิการและองค์ความรู้ที่เหมาะสมกับนักเรียนให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้นักเรียนเป็นพลเมืองที่ดีของสังคมโลกต่อไป จึงเรียนมาเพื่อโปรดทราบ
ต่อมาวันที่ 22 ธ.ค. กลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ศูนย์ช่วยเหลือด้านกฎหมายผู้ถูกล่วงละเมิด bully ทางสังคมออนไลน์ (ศชอ.) นำโดย นายนพดล พรหมภาสิต ได้เดินทางมาที่โรงเรียนฤทธิยะวรรณาลัย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ทางโรงเรียนกลับไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ทำให้นายนพดลเดินทางไปร้องเรียนที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากรุงเทพมหานคร เขต 2 ถนนลาดพร้าว แขวงสามเสนนอก เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ เพื่อร้องเรียนเรื่องดังกล่าว กระทั่งวันที่ 23 ธ.ค. นายนพดลได้เดินทางมาแจ้งความต่อตำรวจ สน.สายไหม เพื่อให้เอาผิด น.ส.เพ็ญภาส ขณะเดียวกันพบว่าสภาพจิตใจของนักเรียนที่ถ่ายคลิปนั้นย่ำแย่ และไม่อยากไปที่โรงเรียน ซึ่งทาง ศชอ.ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้น
ขณะที่เฟซบุ๊ก Chaiyan Chaiyaporn ของ ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความระบุว่า "ควรเปิดโอกาสให้คุณครูเพ็ญภาส ได้อธิบายถึงแหล่งที่มาของข้อมูลที่เธอกล่าวถึง พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ตามที่คุณครูได้ทำหนังสือชี้แจงว่าได้กล่าวไปตามที่ได้ร่ำเรียนมา ดังประเด็นต่อไปนี้
1. พลเอก เปรม เป็นเผด็จการ ?
2. เพศสภาพของพลเอก เปรม (ตามที่คุณครูกล่าว) ?
3. การใช้อำนาจในตำแหน่ง ในการตอบสนองความต้องการในข้อ 2 จนคุณครูเรียกบ้านพักของพลเอก เปรมว่าเป็น ฮาเร็ม ?
เราควรให้โอกาสคุณครู ก่อนตัดสินอะไรไปล่วงหน้า เป็นไปได้ว่า ข้อมูลที่คุณครูได้มาจากการศึกษาของเธอเป็นเช่นนั้นจริงๆ ถ้าเป็นเช่นนั้น เราก็ควรตรวจสอบทางวิชาการว่า ข้อมูลนั้นอ้างอิงถูกต้องเพียงใด"