xs
xsm
sm
md
lg

กลิ่นตุๆ! "เดอะเมตตาดี" เผยสาเหตุดรามาเด็กเข้า ร.ร.ผ่านที่เอกชน ที่แท้ "ครู" ใช้เด็กหาประโยชน์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"The METTAD (เดอะเมตตาดี)" เปิดเผยข้อมูลอีกด้านเกี่ยวกับดรามาเอกชนเตรียมสร้างประตูปิดตายบริเวณทางเข้าโรงเรียนบนเกาะหลีเป๊ะ ข้อเท็จจริงพบ ร.ร.มีทางเข้าติดหาด แต่ครูผลักดันเด็กเข้าทางที่เอกชนเพราะเตรียมจัดตั้งสหกรณ์เก็บค่าเหยียบเกาะบนที่เอกชน จึงใช้นักเรียนมาสร้างเรื่องดรามา

จากกรณีเพจ "The Reporters" รายงานว่า ที่โรงเรียนบ้านอาดัง เกาะหลีเป๊ะ อ.เมือง จ.สตูล เด็กนักเรียนหลายสิบคนได้พากันออกจากห้องเรียนไปยังประตูเข้า-ออก หลังโรงเรียน ภายหลังได้รับแจ้งว่าเอกชนที่อ้างกรรมสิทธิ์ในที่ดินที่อยู่ติดกับโรงเรียนได้เดินหน้าดำเนินการสร้างประตูเหล็กเชื่อมเพื่อปิดตายบริเวณทางเข้าโรงเรียน ทำให้เด็กๆ พากันเข้าไปขัดขวาง เพราะประตูดังกล่าวเชื่อมต่อกับเส้นทางดั้งเดิมที่เด็กนักเรียนชุมชนดั้งเดิมชาวอูรักลาโว้ยใช้เดินมายังโรงเรียนทุกยุคทุกสมัย โดยเด็กบางส่วนเข้าไปยื้อไม่ให้คนงานนำเหล็กเข้าไปก่อสร้าง เด็กนักเรียนบางส่วนนั่งขวางเพื่อไม่ให้รถผ่าน จนกลายเป็นประเด็นดรามาในโลกออนไลน์

นอกจากนี้ยังพบว่าทวิตเตอร์ของ “บอล ธนวัฒน์” ก็ได้ทวีตเรื่องราวดังกล่าว โดยเรียกร้องให้ทุกคนช่วยเป็นกระบอกเสียงให้แก่เด็กนักเรียน ซึ่งมียอดรีทวีตมากถึงกว่า 1 หมื่นครั้ง

อย่างไรก็ตาม วันนี้ (14 ธ.ค.) เพจ "The METTAD (เดอะเมตตาดี)" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเปิดเผยในอีกแง่มุมหนึ่งของเหตุการณ์ดังกล่าว โดยได้ระบุข้อความว่า

"ไม่งงจะงงมาก เข้า ร.ร.ได้หลายทาง แต่ทำไมมาดรามาบนที่ดินเอกชน

เห็นข่าวทีแรกก็นึกแบบ มันจะไปปิดทางเข้าโรงเรียนได้ไงวะ เลยรอดูข้อมูลสักพัก ก็เริ่มมีคนทยอยส่งมาให้ เลยขอแยกมาเป็นข้อๆ

1. ทางเข้าโรงเรียนไม่ได้ถูกปิดกั้น โรงเรียนบ้านอาดัง ที่เป็นข่าวน่ะ มีทางเข้าหลักคือหน้าหาด เปิดกว้างติดชายหาดเลย ส่วนทางที่ชาวเล นักข่าว และ NGO ดรามา คือทางเข้าด้านข้างโรงเรียน ซึ่งเป็นที่ดินของเอกชน

แสดงว่า เด็กนักเรียนยังสามารถเข้าโรงเรียนทางด้านหน้าได้ ที่บอกว่าเข้าโรงเรียนไม่ได้ต้องปีนรั้ว คือเรื่องไม่จริงครับ แบบนี้ ร้องเรียนยังไงก็ไม่ชนะ ได้แค่เน้นขายข่าวเอาดรามานั่นแหละ

2. โรงเรียนเคยมีประตูทางเข้าติดกับชุมชนชาวเล แต่กลับปิดตาย แล้วผลักดันให้นักเรียนมาเข้าผ่านทางที่ดินของเอกชนแทน อันนี้น่าสงสัยไหมครับ เพราะในเมื่อมีเส้นทางอื่นที่เดินอ้อมไปหน้าหาดได้ แต่ทำไมถึงผลักให้นักเรียนมาใช้เส้นทางที่ผ่านที่ดินของเอกชน

3. ก็เลยได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีคุณครูบางคนที่ตั้ง NGO กำลังมีกรณีพิพาท เพราะไปตั้งร้านอยู่ในพื้นที่ของเอกชน เพื่อที่จะตั้งสหกรณ์เก็บค่าเหยียบเกาะ และกำลังถูกเอกชนไล่ที่

เมื่อไล่ดูแผนที่เกาะแล้ว ก็พบว่าที่ดินของเอกชนเป็นพื้นที่ตรงท่าเรือพอดี ซึ่งถ้าคิดจะตั้งสหกรณ์เก็บค่าเหยียบเกาะ ตรงนี้ถือว่าเหมาะสมที่สุด แต่มันเป็นพื้นที่เอกชนไงครับ

ดังนั้น การผลักดันให้เด็กนักเรียนเดินอ้อมมาเข้าโรงเรียนผ่านทางที่ดินเอกชน ก็เพื่อให้สังคมกดดันให้เอกชนต้องเปิดเส้นทาง และเปิดพื้นที่ให้กลุ่ม NGO ได้โอกาสเข้าไปหาประโยชน์ โดยใช้เด็กนักเรียนปีนรั้วมาสร้างดรามา ใช่หรือไม่

คุณ ฐ. ได้ลงพื้นที่รึเปล่าครับ ถ้าหน้าโรงเรียนยังเข้าได้ ทำไมถึงรายงานข่าวว่า ถูกปิดกั้น ไม่มีทางเข้าโรงเรียน

นี่คือข้อมูลที่เจ้าของที่ดินส่งมาให้ครับ

"สวัสดีครับ ผมเป็นเจ้าของที่ดินที่ ฐ. และกลุ่ม NGO ปั่นข่าว ผมมีเอกสารบางชิ้นฝากชี้แจงให้หน่อยครับ ผมออกตัวมากไม่ได้ กระแสสังคมแรงในทางที่ผิด มีกลุ่ม NGO นำโดยคุณครูบางท่านของโรงเรียนปั่นข่าวกับคุณ ฐ.

กำลังมีการจัดตั้งสหกรณ์ชาวเล เก็บค่าเหยียบเกาะ 40 บาทจากคนทุกคนที่ท่าเรือปากบารา โดย อบจ.จะคิดค่าจัดการ 5 บาท และอีก 35 บาทมอบให้แก่สหกรณ์ชาวเล

ทั้งนี้ ชาวเลนำโดยคุณครูท่านหนึ่งกำลังจะตั้งสหกรณ์บนที่ดินของผม มีสำนักข่าวมากมายลงมาพื้นที่ และรู้ความจริงแต่ไม่ยอมออกข่าวเลย ทั้งๆ ที่ทางออกลงทะเลมีมากกว่า 2 ทางอีกนะครับ สำหรับชายหาดฝั่งซันไรส์

พยายามขายข่าวว่าโดนปิดทาง กำแพงที่เห็นเป็นกำแพงที่ผมสร้างในเขตที่ดินของผมเอง ไม่ใช่กำแพงโรงเรียนที่เป็นข่าว""




กำลังโหลดความคิดเห็น