สภาทนายความพร้อมยื่นมือช่วยสามีของ น.ส.สุภาพร ที่เสียชีวิตจากเหตุโศกนาฏกรรมหนองบัวลำภูขณะตั้งครรภ์ได้ 8 เดือน เห็นใจลูกในครรภ์ยังไม่เกิดไม่สามารถเรียกร้องได้ เชื่อศาลจะนำมาประกอบการพิจารณาให้เงินเยียวยาไม่ละเลยอย่างแน่นอน
จากกรณีสามีของ น.ส.สุภาพร เหยื่อ "โศกนาฏกรรมหนองบัวลำภู" โพสต์ข้อความทวงความยุติธรรมให้ลูกในท้องภรรยาอายุครรภ์ 8 เดือนที่เสียชีวิตในวันเกิดเหตุ ที่ไม่ได้รับการเยียวยาเพราะรัฐไม่นับผู้ที่ยังไม่เกิดเป็นผู้เสียชีวิต ด้านชาวเน็ตเผยหากยอมรับว่าทารกในครรภ์มารดามีชีวิตในทางกฎหมาย ความวุ่นวายก็จะไปตกที่กฎหมายการทำแท้ง
ล่าสุดวันนี้ (7 พ.ย.) มีรายงานว่า อุปนายกฝ่ายเทคโนโลยีและสารสนเทศ และรองโฆษกสภาทนายความ "นายวีรศักดิ์ โชติวานิช" ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยชี้ว่า น.ส.สุภาพร ถือเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ซึ่งมีสิทธิได้รับเงินเยียวยาตาม พ.ร.บ.ค่าตอบแทนผู้เสียหาย ค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา โดยจะได้รับเงินสูงสุดประมาณ 2 แสนบาทจากกรมคุ้มครองสิทธิ์ กระทรวงยุติธรรม และตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีก็มีกองทุนเยียวยาอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งเงินเยียวยาทั้ง 2 ส่วนนี้ผู้เสียหายหรือทายาทสามารถรับได้เลย ไม่จำเป็นต้องรอให้ศาลตัดสิน เพราะเป็นเรื่องที่รัฐต้องดูแลพลเมืองเต็มที่
อย่างไรก็ตาม ในกรณีที่รัฐเยียวยาแล้ว แต่ผู้เสียหายต้องการเรียกร้องค่าเสียหายเพิ่มเติม ก็คงต้องใช้สิทธิดำเนินการทางแพ่งในชั้นศาล ซึ่งสภาทนายความพร้อมช่วยเหลือด้านคดีและให้คำปรึกษาในเรื่องนี้ ซึ่งผู้เสียหายสามารถติดต่อสภาทนายความจังหวัดหนองบัวลำภูได้ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจศาลว่าจะให้ผู้ก่อเหตุชดใช้ค่าเสียหายเท่าไหร่ หากผู้ก่อเหตุเสียชีวิต ก็ต้องดูว่าทายาทได้มรดกของผู้ก่อเหตุมาแค่ไหน ซึ่งค่าเสียหายต้องไม่เกินจากมรดกที่ได้รับ
ขณะที่ผู้เสียหายที่มีสิทธิได้รับเงินเยียวยาต้องมีสภาพเป็นบุคคล ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ระบุไว้ว่าสภาพบุคคลเริ่มตั้งแต่คลอด และอยู่รอดมาเป็นทารก แม้จะอยู่รอดเพียง 1 วินาทีก็ถือว่าครอบคลุมตามหลักกฎหมาย แต่กรณีที่เด็กเสียชีวิตก่อนคลอด ไม่ถือว่าเป็นบุคคล พ่อไม่สามารถเรียกร้องแทนลูกได้ แต่ศาลก็จะนำมาประกอบสำนวนในการพิจารณาเงินเยียวยาที่พ่อเรียกร้องค่าเสียหายแทนแม่