กรมชลฯ จัดจราจรน้ำ ฝั่งตะวันออก เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำเจ้าพระยา ยันไม่เข้า กทม.

กรมชลประทานจัดการจราจรน้ำเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ระบายน้ำโดยใช้ระบบชลประทานฝั่งตะวันออกแม่น้ำเจ้าพระยา รับน้ำลงสู่คลองระพีพัฒน์ ก่อนลำเลียงน้ำลงสู่คลอง 13 และคลองในแนวเหนือ-ใต้ เพื่อเร่งระบายน้ำออก ช่วยลดปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา

วันนี้ (9 ต.ค.) เพจ "ศูนย์ปฏิบัติการน้ำอัจฉริยะ (SWOC)" ได้โพสต์ประกาศระบุข้อความว่า "ขอรายงานว่าปัจจุบันเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์มีปริมาณน้ำเต็มความจุ จำเป็นต้องระบายน้ำเพื่อรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงของเขื่อน ในอัตราประมาณ 901 ลบ.ม./วินาที ซึ่งปริมาณน้ำนี้จะไหลลงไปรวมกับน้ำที่มาจากคลองชัยนาท-ป่าสัก ก่อนจะไหลผ่านเขื่อนพระรามหก

โดยได้ใช้ระบบชลประทานฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยารับน้ำส่วนหนึ่งผ่านประตูระบายน้ำพระนารายณ์ อ.ท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา ลงสู่คลองระพีพัฒน์ ตามศักยภาพของคลองที่รับได้ ก่อนจะลำเลียงน้ำลงสู่คลอง 13 และคลองในแนวเหนือ-ใต้ เพื่อเร่งระบายน้ำออกสู่แม่น้ำนครนายก แม่น้ำบางปะกง และอ่าวไทยตามลำดับ เพื่อช่วยลดปริมาณน้ำในลุ่มน้ำเจ้าพระยา ที่ปัจจุบันมีปริมาณน้ำค่อนข้างมาก รวมถึงช่วยบรรเทาและลดผลกระทบในพื้นที่ด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ โดยปริมาณน้ำดังกล่าวไม่ได้ผ่านเข้าสู่พื้นที่เทศบาลนครรังสิต จังหวัดปทุมธานี แต่อย่างใด

ส่วนปริมาณน้ำที่เหลือจะควบคุมให้ไหลผ่านท้ายเขื่อนพระรามหกในอัตรา 1,043 ลบ.ม./วินาที และไหลมาบรรจบกับแม่น้ำเจ้าพระยาที่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยปัจจุบันที่สถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา มีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,982 ลบ.ม./วินาที