นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ โพสต์ขอบคุณพลตรี กฤษณ์ จันทรนิยม รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหาร หลังปักป้ายเตือนห้ามเข้าโพรงไม้ใน จ.นครศรีธรรมราช ป้องกันไม่ให้คนติดเชื้อรานี้เพิ่ม เผย เตรียมนำมาวิจัย ถอดรหัสพันธุกรรมว่าแตกต่างจากเชื้อรา Histoplasma ที่พบในประเทศและทวีปอื่นหรือไม่
จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ออกมาเปิดเผยว่าพบคณะศึกษาธรรมชาติติดเชื้อราฮิสโตพลาสมา แคปซูลาตุม (Histoplasma capsulatum) ในปอดหลังเดินเข้าไปในโพรงต้นไม้ใหญ่ในป่าเพื่อชมค้างคาวในเวลาเพียง 2-15 นาที พร้อมให้คำแนะนำคนที่จะเข้าถ้ำหรือโพรงต้นไม้ต้องใส่หน้ากากอนามัยแบบแพทย์ใส่ในห้องผ่าตัด เพื่อป้องกันหายใจเอาสปอร์ของเชื้อราเข้าปอด
ล่าสุดวันนี้ (6 ต.ค.) นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาอัปเดตความคืบหน้า หลังมีเจ้าหน้าที่นำป้ายไวนิลไปติดไว้บริเวณหน้าถ้ำ เพื่อเตือนถึงความอันตรายในการเข้าไปในโพรงต้นไม้ เสี่ยงติดเชื้อราจากมูลค้างคาว โดย "หมอมนูญ" ได้ระบุข้อความว่า
"ผมต้องขอบพระคุณ พลตรี กฤษณ์ จันทรนิยม รองเจ้ากรมกิจการพลเรือนทหารเป็นอย่างสูง ที่เป็นผู้ประสานงานระหว่างหน่วยทหารพัฒนาภาค 4 ที่ทำป้ายไวนิล “อันตราย! ห้ามเข้าในโพรงต้นไม้ อาจติดเชื้อราจากมูลค้างคาว” เดินเท้าเข้าไปติดตั้งป้ายที่หน้าโพรงต้นไม้ต้นนี้ เมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2565 (ดูรูป) ร่วมกับส่วนท้องถิ่น นายก อบต.นาหลวงเสน อ.ทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช และช่วยเก็บดินในโพรงต้นไม้เพื่อนำไปวิเคราะห์หาเชื้อราต่อที่ รพ.ศิริราช
จุดมุ่งหมายของการทำงานนี้ เพื่อป้องกันไม่ให้คนติดเชื้อรานี้เพิ่ม นอกจากนี้ ทางชมรมเชื้อราทางการแพทย์ประเทศไทย ซึ่งผมเป็นประธาน จะทำการวิจัยถอดรหัสพันธุกรรมเชื้อรา Histoplasma ที่แยกจากผู้ป่วย และจากดินในโพรงต้นไม้นี้ (gene sequencing) เพื่อทราบสปีชีส์ (species) หรือชนิด ว่าแตกต่างจากเชื้อรา Histoplasma ที่พบในประเทศและทวีปอื่นหรือไม่ ผลการศึกษาจะรายงานในวารสารเชื้อรานานาชาติต่อไป"
