นารา เครปกะเทย ครวญ ข่าวที่ออกมามีแต่ตัวคนเดียว คดีกลูต้าชาร์มาร์อ้างเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ ไม่รู้เรื่องหลังบ้าน ทุกอย่างมาจากโรงงาน ก่อนร่ำไห้ไม่เหลืออะไรอีกแล้ว คดี 112 เครียด เจอคนบอกยังไงก็ไม่รอด ขอโอกาสแกนนำ ศปปส.-ศรีสุวรรณ และขอความเมตตาผู้ใหญ่ขอให้หลุดพ้น ขอโทษที่เคยเฟียสตอนไลฟ์สด ต่อไปจะไม่ทำอีกแล้ว
วันนี้ (28 ก.ย.) จากกรณีที่ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา บุกจับกุมนายอนิวัต ประทุมถิ่น หรือนารา เครปกะเทย อายุ 23 ปี เน็ตไอดอลชื่อดัง และพวกในข้อหาร่วมกันจำหน่ายวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 1 (2-ไดเฟนิลเมทิลโพโรลิดีน) โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นการกระทำทางการค้า หลังพบว่าผลิตภัณฑ์ “ชาร์มาร์ กลูต้า” ที่นารา เครปกะเทย รับงานโฆษณาและขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ต่างๆ มีส่วนผสมของสารดังกล่าว ซึ่งจะมีอาการประสาทหลอน หวาดระแวง หรือมีพฤติกรรมรุนแรง ม่านตาขยาย และเกิดภาวะหัวใจเต้นเร็วผิดปกติได้ ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านประกอบ : รวบ “นารา เครปกระเทย” เครือข่ายอาหารเสริมผสมสารอันตราย
ปรากฏว่า นารา เครปกะเทย ได้ออกมาไลฟ์สดความยาวประมาณ 36 นาที ระบุว่า ข่าวที่ออกไปมีชื่อนารา เครปกะเทย ทั้งหมด ตนเหนื่อยมากที่สุดในโลก ก่อนจะร้องไห้ออกมา และกล่าวว่า ข่าวที่จะเอาไปลงขอให้ลงตามความเป็นจริง ไม่ให้คนมาด่าตน ที่สำคัญ ขอให้ไม่เอาคลิปเก่าหรือคลิปที่ไม่เกี่ยวข้องมาลงเป็นเรื่องเดียวกัน เพราะจะห้ามไม่ให้อ่านคอมเมนต์ก็ไม่ได้ พอตนอ่านแล้วก็จิตตก จึงขอว่าข่าวที่จะเอาไปทำตนไม่ว่า แต่ช่วยเขียนข่าวหรือพาดหัวที่เป็นความจริง เพราะคนที่โดนด่าคือตน จริงๆ ไม่เกี่ยวกับตนเลย แต่ข่าวที่ออกคือ รวบนารา เครปกะเทย, นารา เครปกะเทย เป็นเจ้าของ ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นชื่อตนหมดเลย
นารา เครปกะเทย ชี้แจงว่า วันนี้ทุกคนจะได้รู้ข่าวเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์กลูต้าชาร์มาร์ ไม่ใช่กลูต้านารา โดยกลูต้าชาร์มาร์ ตนเป็นแค่พรีเซ็นเตอร์ เพราะตั้งแต่ตนผอมลงหรือสวยขึ้น ตนคิดที่จะทำอาหารเสริมลดน้ำหนักแบรนด์เดียว ไม่คิดจะทำกลูตา กระทั่งมีเจ้าของแบรนด์มาจ้างตนบ่อยมากตั้งแต่ 2 ปีที่แล้ว เมื่อเห็นว่าตนสวยขึ้นจึงให้มาเป็นพรีเซ็นเตอร์กลูต้าชาร์มาร์ ซึ่งตนรับงานทุกอย่างที่ไม่ใช่ยาลดน้ำหนัก เพราะตนจะทำเอง คนถามว่ามีสารได้อย่างไร ไม่ได้ตรวจสอบหรือ ขั้นตอนแรกวันที่เซ็นสัญญาตนดูเอกสารการผลิต ซึ่งเอกสารที่เจ้าของแบรนด์มีอยู่ อย.ให้ผ่านเรียบร้อย จึงมั่นใจว่าปลอดภัย อย.ให้การรับรองถูกต้อง จึงตัดสินใจรับเป็นพรีเซ็นเตอร์เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งจะหมดสัญญาในวันที่ 30 ก.ย.ที่จะถึงนี้ ก็รับเป็นพรีเซ็นเตอร์และทำมาเรื่อยๆ
การเป็นพรีเซ็นเตอร์ของนารา สิ่งที่ต้องทำมี 2 อย่าง คือ ไลฟ์สดทางเฟซบุ๊ก 4 ครั้ง ลงรูป 4 ครั้ง นอกจากนั้นแล้วแต่ตน ซึ่งสัญญาอยู่ที่ตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว การตลาดของนาราไม่มีในไอจี ไม่มีในติ๊กต็อก แต่มีแถมลงสตอรีให้ ซึ่งนารากินผลิตภัณฑ์ก่อนนอน ถ้ารู้ว่ามีสารอันตรายแต่แรกตนจะกินทำไม กระทั่งสีแคปซูลเปลี่ยนไป ตอนที่เป็นพรีเซ็นเตอร์แต่แรก ผลิตภัณฑ์เป็นแคปซูลสีชมพูเข้ม ต่อมาขายดีมากเพราะเอาตนไปยิงโฆษณาในติ๊กต็อก แต่พบว่ากลูตาที่โฆษณาไม่มีของนาราเลย ตนไม่เคยขาย 1 แถม 1 ผ่านช่องทางที่ตนรับเงินเอง ไม่เคยรับตัวแทนจำหน่าย เพราะรายได้จากการขายเข้าบริษัทเจ้าของแบรนด์หมดเลย
วันที่ตนโดนจับกุมได้ถามเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสินค้าที่ตรวจเจอสารคือล็อตไหน ตำรวจตอบว่าล็อตที่ 4 ที่ตรวจพบสาร ซึ่งล็อตที่ 1-3 ไม่มีปัญหา ถามว่าตำรวจแกล้งไหม เห็นว่าตำรวจไม่ได้แกล้ง เพราะที่ผ่านมาได้รับเรื่องจากทางเพจบ้าง คนที่ติดตามบ้าง คนที่ซื้อจากตัวแทนจำหน่ายแล้วแจ้งว่าแกะออกมาแล้วเป็นแบบนี้ ตนจึงรับเรื่องแล้วส่งไปให้เจ้าของแบรนด์เคลียร์เอาเอง ตนไม่มีส่วนเกี่ยวข้องตรงนี้ ซึ่งผลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ตรวจพบสารในล็อตที่ 4 ซึ่งไม่เป็นกลูตา 4 สีแล้ว จากที่ตนโฆษณาว่ามี 4 สี ได้แก่ ชมพูเข้ม ชมพูอ่อน สีขาว สีส้ม ตนไม่รู้ว่าทำมากี่ล็อตแล้ว แต่ล็อตล่าสุดเป็นสีขาวหมดเลย วันที่ตำรวจจับกุม ตนถามเจ้าของแบรนด์ว่ามีสารได้อย่างไร ได้คำตอบว่าไม่รู้ ตนก็ตกใจ รวมทั้งตัวแทนจำหน่าย คนที่รู้มีคนเดียวคือโรงงานผลิตสินค้า เป็นไปไม่ได้ว่าจะมีสารตั้งแต่ล็อตแรก เพราะ อย.จะไม่ให้ผ่าน พอมาถึงล็อตที่ 4 ก็ออกมาตามนั้น
"วันที่ตำรวจมารวบที่บ้าน หนูตกใจมาก เราก็คิดว่า เขามารวบเราเรื่องอะไร ตำรวจก็ยังไม่ถาม กระทั่งเขาก็บอกให้เราว่า กลูตาตัวนี้มีสารตัวนี้ๆ นะ เราก็ตกใจว่ามันมีได้อย่างไร เราเป็นพรีเซ็นเตอร์มาตั้งนานแล้ว จนสิ้นเดือนจะหมดสัญญาแล้ว 6 เดือน ล็อต 1-3 ไม่มีปัญหา ซึ่งการผลิตนาราไม่ทราบว่าเจ้าของแบรนด์คุยกับโรงงานอย่างไร ไม่รู้ว่าสูตรเขาคืออะไร เรามีหน้าที่ขาย มีหน้าที่โปรโมต เพราะหนูเป็นพรีเซ็นเตอร์ หนูจะทำยังไงให้คนเขามาซื้อ ไลน์แอดสินค้า ทำยังไงให้มีลูกค้าเข้ามาซื้อของเขา เพื่อเขาจะได้ต่อสัญญาหนูไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วเราทำหน้าที่ของเราให้ดีที่สุดนั่นก็คือการโปรโมต
แม้กระทั่งมีปัญหา หนูก็ยังตกใจว่ามีได้ยังไง เพราะถ้ารู้ตั้งแต่แรกว่ามีหนูคงจะไม่ทำ อย.ก็คงไม่ให้ผ่าน สินค้าหนูทำมา เซรัมที่เป็นตัวของหนูทำมาเอง ก็ไม่มีสารสเตียรอยด์ ไม่มีสารผิดกฎหมาย ตัวอาหารเสริมลดน้ำหนักที่หนูทำมาก็ไม่มีสารที่ผิดกฎหมาย ไฟเบอร์ก็ไม่มีสารที่ผิดกฎหมาย เพราะแต่ละตัวทำโรงงานคนละที่กันเลย แต่ตัวที่มีก็คือตัวกลูตา ก็เป็นอีกโรงงานหนึ่ง ซึ่งเหตุการณ์ที่เกิดมาทั้งหมด ข่าววันนี้ที่ลงทั้งหมดเป็นแบบนี้ ถ้าตั้งใจจะใส่สารจริง ก็ใส่ตั้งแต่เซรัมแล้ว เพราะหนูจริงใจกับลูกค้าว่าจะใส่ทำไม มีสินค้าหลายตัวที่เราสามารถทำให้ผิวกระจ่างใสโดยที่ไม่ต้องใช้สารที่เสี่ยงคุกทำไม หนูจะให้ตัวเองเสี่ยงคุกทำไม" นารา เครปกะเทย กล่าว
นารา เครปกะเทย กล่าวว่า ตำรวจออกหมายจับ มีเจ้าของแบรนด์ มีตัวนารา มีบัญชีคนที่รับเงินโอน ที่โดนแน่ๆ ตอนนี้คือ 3 คน แต่ตนแสดงความบริสุทธิ์ใจ มีหลักฐานทุกอย่างว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลิต ไม่รู้ว่าหลังบ้านคุยกันยังไง เขาทำด้วยวิธีไหน ซึ่งตนยืนยันว่าเจ้าของแบรนด์ก็ไม่รู้ว่ามีสารตัวนี้ได้อย่างไร ซึ่งต้องให้ชี้แจงเพราะเขาเป็นคนเดียวที่คุยกับโรงงานผลิต ส่วนตนไม่เคยขายเอง คนที่ทักมาในเพจไม่เคยมีการบอกขาย 1 แถม 1 ราคา 290 บาท และไม่เคยเปิดรับสมัครตัวแทนของกลูต้าชาร์มาร์ ตนทำอย่างเดียวคือทำหน้าที่เป็นพรีเซ็นเตอร์ในการโปรโมตสินค้า เพราะเป็นสัญญาว่าจะต้องทำอะไรบ้าง ส่วนเรื่องการผลิตขึ้นอยู่กับโรงงานและเจ้าของแบรนด์ เพราะหลักฐานที่ตนมีอยู่ส่งให้ตำรวจทั้งหมด สิ่งที่ทำได้คือขอโทษทุกคน ลูกค้าที่สั่งซื้อไปแล้วเกิดความกังวลใจ ซื้อมาจากไหนให้ไปเคลมกับตัวแทนคนนั้น เพราะตัวแทนจำหน่ายจะส่งเรื่องไปยังเจ้าของแบรนด์ และเจ้าของแบรนด์จะรับผิดชอบให้ผู้บริโภคทุกคนที่ซื้อมา
ระหว่างไลฟ์สด นาราได้ร้องไห้ตลอดเวลา ในตอนหนึ่งกล่าวว่า ตั้งแต่โดนคดี 112 มีแต่คนบอกว่าไม่รอดแน่ เพราะวงในบอกมาว่าจะต้องเข้าคุก ตนถามคนที่ถูกดำเนินคดีมาแล้ว ก็กล่าวว่ายังไงก็ไม่รอด แต่ใจตนไม่ได้ทำแบบนั้น แต่สู้อะไรไม่ได้เพราะตัวคนเดียว ไม่มีใครมาช่วยตั้งแต่เกิดเรื่องมา ตนเสียค่าทนายไปเป็นล้านๆ ของที่มีก็ขายไปหมด เพราะ 3 คนที่โดน 2 คนรอดแล้วเพราะศาลสั่งไม่ฟ้อง คนที่สั่งฟ้องคนเดียวก็คือตน นอนไม่หลับ เครียด มีเรื่องทั้งกลูตา โดนยกเลิกพรีเซ็นเตอร์ ไม่มีงานเข้ามา เซรัมขายไม่ได้ ล่าสุดโดนตำรวจยึดของที่ทำกล่องสุ่มไปทั้งหมด ตนไม่มีช่องทางทำมาหากินแล้วตอนนี้ สู้ตัวคนเดียวไม่รู้จะสู้ยังไงแล้ว ตนเหนื่อยที่สุด ไม่เคยบอกแม่ ไม่เคยบอกใคร เวลามีความสุขเกิดข้อสงสัย ไหนบอกหมดไง แต่ไม่เคยเห็นว่าตนสู้แค่ไหน เวลาขายของได้กำไรก็บริหารจัดการ ขายสมบัติที่มีเพื่อโปะหนี้และรับผิดชอบทั้งหมด ไม่รู้จะสู้ยังไงแล้ว ของก็โดนยึดไม่มีอะไรจะขาย คนพูดกรอกหูว่าหนูไม่รอดแน่ เขาเอามึงแน่ ตนนอนไม่หลับมา 5 วันแล้ว ไม่รู้ว่าจะต้องโดนอะไรอีก
"วันนี้ทำให้หนูรู้เลยว่า 112 ที่หนูโดน กระทบกับหนูหลายอย่างมาก หนูเลยอยากจะขอโอกาสจากผู้ใหญ่ หนูขอคุณอานนท์ กลิ่นแก้ว (แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า ศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน หรือ ศปปส.) ท่านศรีสุวรรณ (จรรยา นายกสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย) ที่ฟ้องหนูมา ถ้าหนูทำอะไรไม่ดี หรือทำให้หนูขัดใจท่าน หนูขอโทษไว้ ณ ที่นี้ ในวันที่หนูไลฟ์สด หรือในวันที่หนูคิดว่าผิดพลาดในสายตาผู้ใหญ่ วันที่หนูเฟียสหรืออะไรก็ตาม หนูขอโทษ ณ ที่นี้ ท่านผู้ใหญ่คนไหนที่จะทำร้ายอะไรหนูอีก หนูขอโอกาสให้หนูได้มีช่องทางในการทำมาหากิน หนูรู้สึกผิดหมดแล้วทุกอย่าง ทุกอย่างที่หนูทำไปหนูไม่เคยคิดร้ายกับใคร หนูไม่เคยคิดที่จะฆ่าใคร ทุกเรื่องทุกราวที่หนูมีส่วนเกี่ยวข้อง หนูขอสัญญาและสาบาน หนูขอโอกาสจากพวกท่าน อย่าได้ทำอะไรให้หนู ... อีกเลย หนูขอให้ของของหนูได้กลับมาเลี้ยงชีพตัวเองต่อ
และหนูขอให้คดี 112 ให้ท่านได้เห็นถึงความยุติธรรมหรือความจริง หนูขอโอกาสจากใครที่มีอำนาจ ท่านศรีสุวรรณ คุณอานนท์ หรือ ... หรือใครก็ตามที่สามารถทำให้หนูหลุดพ้นได้ เพราะเจตนาที่หนูทำไม่มีความตั้งใจอย่างที่เป็นหมายออกมาเลย หนูรู้สึกผิดและหนูสัญญาว่าหนูจะไม่กลับไปทำอะไรแบบนั้น หนูจะไม่ขอยุ่งเกี่ยว หนูจะจำเป็นบทเรียน หนูขอโอกาสให้หนูได้อยู่เลี้ยงพ่อเลี้ยงแม่ ให้หนูได้ทำโอกาสดีๆ กับสังคม หนูสัญญาว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยว จะไม่ทำอีก หนูขอโอกาสให้หนูได้กลับไปลืมตาอ้าปาก ให้หนูได้ขายของอย่างมีความสุข ให้หนูได้มีเงินไปช่วยเหลือสังคม ... ขอให้ผู้ใหญ่เมตตาหนูด้วยเถิด
หนูเชื่อว่าผู้ใหญ่ดูอยู่ เพราะตอนนี้หนูไม่มีอะไรแล้ว หนูไม่เหลืออะไรแล้ว จำเป็นบทเรียนหมดแล้ว หนูขอโอกาส ถ้าหนูทำผิดอย่างที่หนูพูด ท่านทำกับหนูได้เลย หนูขอโอกาสให้กลับไปแก้ตัว ให้หนูได้กลับไปเลี้ยงครอบครัว ให้หนูได้ลิ้มรสชาติความสุข หนูขอโทษจริงๆ และวันที่หนูไลฟ์สด หนูเฟียสหลังจากเกิดเหตุการณ์ หนูขอโทษ และหนูจะไม่ทำทุกอย่างที่ขัดใจพวกท่านอีกต่อไป เพราะหลายคนบอกว่าหนูไม่รอดแน่นอน หนูกลัว หนูขอโอกาสจากท่าน ... หนูขอให้ผู้ใหญ่เมตตาหนูหน่อย เพราะหลังจากนี้หนูไม่มีหนทางแล้ว หนูสัญญาว่าหนูจะไม่กลับไปทำอีก หนูสัญญาว่าหนูจะไม่ทำอย่างนี้จริงๆ และต่อไปหนูจะช่วยเหลือสังคมเต็มที่ด้วยใจของหนู" นารา เครปกะเทย กล่าว