เดือนนี้ใครเห็นบิลค่าไฟแล้วกุมขมับไม่ต้องแปลกใจ ขึ้นค่าเอฟทีจากเดิม 24.77 สตางค์ เป็น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ทำค่าไฟขึ้นเฉลี่ย 4.72 บาทต่อหน่วย พบเดือนที่แล้ว กกพ.เคยออกมาบอกสัดส่วนก๊าซ LPG เพิ่มสูงขึ้นและราคาผันผวน
วันนี้ (19 ก.ย.) ในโลกโซเชียลฯ มีการวิจารณ์กรณีค่าไฟที่เพิ่มสูงขึ้น อันเนื่องมาจากการปรับขึ้นค่าไฟฟ้าผันแปร หรือค่าเอฟที (Ft) โดยผู้ใช้เฟซบุ๊ก Chetta Boonjarito โพสต์ภาพใบแจ้งค่าไฟฟ้า เปรียบเทียบค่า Ft เดือนสิงหาคม 0.2477 บาทต่อหน่วย แต่เดือนกันยายนขึ้นเป็น 0.9343 บาทต่อหน่วย ส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเกือบ 2,500 บาท
ส่วนผู้ใช้เฟซบุ๊ก บังซัน จะบังติกอ โพสต์ภาพใบแจ้งค่าไฟฟ้า เปรียบเทียบค่า Ft เดือนสิงหาคม 0.2477 บาทต่อหน่วย แต่เดือนกันยายน ขึ้นเป็น 0.9343 บาทต่อหน่วยเช่นกัน ผู้ใช้ไฟฟ้ารายนี้ใช้ไฟเท่าเดิม คือ 574 หน่วย คิดเป็นค่าพลังงานไฟฟ้า 2,312 บาท แต่เมื่อค่า Ft ต่างกัน ส่งผลทำให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากเดิมประมาณ 420 บาท
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ชี้แจงว่าค่าเอฟทีในรอบเดือนกันยายน ถึงธันวาคม 2565 ปรับเพิ่มอีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วย รวมเป็น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเฉลี่ยอยู่ที่ 4.72 บาทต่อหน่วย สาเหตุมาจากสัดส่วนการใช้ก๊าซธรรมชาติเหลวในตลาดจร (Spot LNG) เพิ่มสูงขึ้น เพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและพม่าที่ปริมาณลดลง รวมทั้งความผันผวนของ Spot LNG ในตลาดโลกในช่วงสงครามรัสเซีย-ยูเครน
นอกจากนี้ การผลิตก๊าซจากพม่ามีแนวโน้มที่จะไม่สามารถผลิตได้ตามกำลังการผลิตเดิม และมีแนวโน้มที่จะลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี 2565 และต้นปี 2566 อีกทั้งผู้ผลิต LNG ชะลอการลงทุน เนื่องจากมีความต้องการใช้พลังงานน้อยในช่วงโควิด-19 ปลายปี 2564 แต่หลังจากที่หลายประเทศเริ่มฟื้นตัว ทำให้ความต้องการใช้ LNG มีมากกว่ากำลังการผลิตในตลาดโลก ส่งผลกระทบต่อราคาและการเจรจาสัญญาซื้อขาย LNG เริ่มตั้งแต่ปลายปี 2564 และต่อเนื่องตลอดปี 2565 และปี 2566