ผอ.ขสมก ลงพื้นที่อู่ท่าอิฐ แก้ปัญหารถเมล์สาย 18 รอนาน พบแผนปล่อยรถไม่กับสถานการณ์ และจำนวนผู้ใช้บริการ สั่งปรับแผนเดินรถใหม่ทันที ผ่านไปวันเดียวรถมาถี่ ใช้เวลารอไม่นานไม่มีผู้ใช้บริการตกค้าง อีกด้านไปอู่ฟาร์มจระเข้ แก้ปัญหารถเมล์วิ่งไกลรอนาน ประเดิมสาย 142 เป็นต้นแบบ ปรับแผนลดเที่ยวช่วงกลางวัน-บ่าย เกลี่ยจำนวนรถมาเพิ่มช่วงเย็น
วันนี้ (17 มิ.ย.) จากกรณีที่มีการร้องเรียนผ่านทางสื่อโซเชียลว่า ในช่วงเวลา 20.00 น. ของทุกวัน ประชาชนต้องรอรถโดยสารประจำทางนานหลายชั่วโมง เมื่อรถประจำทางมาถึงพบว่าผู้โดยสารเต็มคันรถ ขึ้นไม่ได้ บางวันที่ฝนตกต้องเดินทางอย่างยากลำบาก และบางเส้นทาง ขสมก.เคยมีเดินรถกะสว่าง แต่เมื่อกรมการขนส่งทางบกให้เอกชนเดินรถแทน กะสว่างกลับหายไปก็มี จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไข
กระทั่งนายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ชี้แจงว่า ขสมก. มีรถโดยสารประจำการ จำนวน 2,885 คัน ลดลงจากเดิมประมาณ 200 คัน เนื่องจากสิ้นสุดสัญญาเช่ารถโดยสาร แต่ ขสมก. ไม่สามารถนำรถออกวิ่งให้บริการได้ทั้งหมด เพราะต้องสำรองรถโดยสาร 5% เผื่อสำหรับกรณีฉุกเฉิน ทำให้ ขสมก. มีรถโดยสารออกวิ่งในแต่ละวันเพียง 95% หรือวันละประมาณ 2,740 คัน นอกจากนี้ ขสมก. ยังขาดอัตรากำลังพนักงานขับรถโดยสารอีกกว่า 700 คน ส่งผลให้ ขสมก. มีอัตรากำลังพนักงานและจำนวนรถโดยสาร ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ
อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาหลัง 20.00 น. ยังคงมีรถโดยสารของ ขสมก. วิ่งให้บริการ ซึ่ง ขสมก.ไม่ได้มีการปรับลดเที่ยววิ่งจากสถานการณ์น้ำมันเชื้อเพลิงมีราคาสูงแต่อย่างใด แต่เนื่องจากในบางเส้นทางอยู่ระหว่างปรับปรุงการจัดเดินรถให้มีความสอดคล้องกับความต้องการของผู้ใช้บริการ อาทิ ความถี่ในการปล่อยรถ จำนวนเที่ยววิ่ง จำนวนรถโดยสาร และจำนวนพนักงานประจำรถ ทำให้เกิดปัญหาดังกล่าว จึงต้องขออภัยประชาชนผู้ใช้บริการในความไม่สะดวก ขสมก. จะเร่งปรับปรุงแก้ไขปัญหาโดยเร็วที่สุด ซึ่งใช้เวลาประมาณ 15 วัน พร้อมเปิดช่องทางรับฟังความเห็นของประชาชน จัดทำแบบสอบถามออนไลน์ ผ่าน QR Code ในการแจ้งเรื่องร้องเรียน หรือ ติชมการให้บริการของ ขสมก. เป็นต้น
ล่าสุด เมื่อวันที่ 16 มิ.ย. เฟซบุ๊ก "ขสมก. พร้อมบวก" เปิดเผยว่า นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ออกพื้นที่ไปยังอู่ท่าอิฐ ตำบลบางรักน้อย อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี เพื่อประชุมแก้ไขปัญหารถเมล์สาย 18 ท่าอิฐ – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ขาดระยะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนเย็น พบว่า สาเหตุที่รถหายช่วงเวลาเร่งด่วน เพราะแผนปล่อยรถไม่เหมาะสมกับสถานการณ์บนท้องถนน และจำนวนผู้ใช้บริการ
จึงสั่งการเปลี่ยนแผนปล่อยรถใหม่ ให้ตอบโจทย์การเดินทางของประชาชน โดยทดลองวิ่งและประเมินผล เพื่อให้ประชาชนไม่ต้องคอยรถเมล์นานอีกต่อไป พบว่าเมื่อเย็นที่ผ่านมา หลังจากปรับแผนเดินรถแล้ว พบว่ารถมาถี่ ใช้เวลารอไม่นาน สามารถให้บริการอย่างต่อเนื่อง ช่วงค่ำไม่มีผู้ใช้บริการตกค้างในเส้นทาง อย่างไรก็ตาม ยังได้สำรวจปัญหาที่บริเวณป้ายเพชรรามา และสถานีรถไฟฟ้า BTS ราชเทวี พบรถเมล์ สาย 11, 36 และสาย 34 ขาดระยะ ทำให้ผู้ใช้บริการรอนาน ซึ่งจะต้องมีการปรับแผนในเส้นทางดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพขึ้นต่อไป
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่ (1)
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่ (2)
อีกด้านหนึ่ง นายกิตติกานต์ ออกพื้นที่ไปอู่ฟาร์มจระเข้ ตำบลท้ายบ้าน อำเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อประชุมแก้ไขปัญหาการเดินรถโดยสารปรับอากาศ สาย 142 (ปากน้ำ-อู่แสมดำ) ขาดระยะในช่วงเวลาเร่งด่วนเย็น พบต้นเหตุปัญหา จึงสั่งการปรับแผนเดินรถใหม่ ทดลองวิ่งทันที เพื่อเป็นสายต้นแบบของรถวิ่งไกล โดยลดเที่ยวช่วงกลางวันและช่วงบ่าย เพื่อเกลี่ยจำนวนรถมาเพิ่มช่วงเย็นแทน พร้อมเปลี่ยนและเพิ่มจุดตัดเสริมใหม่ ให้รับส่งผู้โดยสารได้จำนวนมากขึ้น และสามารถหมุนเวียนรถมาเติมในเส้นทางได้ตามเวลา โดยจะทดลองวิ่งและประเมินผล เพื่อลดปัญหารถวิ่งเสริมจนคนปลายทางไม่เจอรถ
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่