อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติสวนกลับนายพิธา แนะให้ดูบำนาญ ส.ส. ทำงาน 2 ปีก็ได้ ภาระมากกว่าไหม ชี้เงินอาจเพิ่มอีกหากแก้ไขกฎหมายเพิ่มเงินเดือนตัวเอง พร้อมยุให้เลิกเงินบำนาญ ส.ส.
วันนี้ (6 มิ.ย.) นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัว “Nantiwat Samart” ในประเด็นการอภิปรายในสภาฯ เรื่องบำนาญของข้าราชการ เปรียบเหมือนช้างป่วยเป็นภาระทางงบประมาณ โดยก่อนหน้านี้ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล ได้ออกมากล่าวถึงปัญหาการใช้เงินของประเทศที่หมดไปกับรายจ่ายบุคลากร ไม่ว่าจะเป็นเงินเดือน ค่ารักษาพยาบาล บำเหน็จบำนาญ
ทั้งนี้ นายนันทิวัฒน์ได้ระบุข้อความว่า ท่าน ส.ส.ใหญ่อภิปรายในสภาฯ เรื่องบำนาญของข้าราชการ เปรียบเหมือนช้างป่วยเป็นภาระทางงบประมาณ
นักการเมืองที่ดีแต่พูด สร้างวาทกรรม คำพูดสวยๆ เก๋ๆ ที่คิดว่าจะโดนใจพรรคพวก รู้ทั้งรู้ว่า ข้าราชการที่เกษียณอายุจะได้รับบำนาญต้องรับราชการมาไม่น้อยกว่า 25 ปี นั่นแปลว่า ข้าราชการที่จะได้รับบำนาญต้องเสียสละ อดทน อุทิศตัวเพื่องานราชการนานเพียงใด ต้องไม่มีเรื่องด่างพร้อย ไม่ถูกไล่ออกจากราชการ แปลว่า มีแต่คนดี คนที่ทำงานราชการจนเกษียณเท่านั้นที่จะได้รับบำนาญ แต่นักการเมืองไม่เห็นคุณค่าของคนที่อุทิศตัวให้กับงาน กลับมองว่าเป็นภาระ
แต่พอถูกเปิดเผยว่า ส.ส.ก็มีบำนาญเหมือนกัน เงียบเป็นเป่าสาก แถมทำงานแค่เพียง 2 ปีเท่านั้นก็จะได้บำนาญ 20% ของเงินเดือนเดือนสุดท้าย และจำนวนเปอร์เซ็นต์นำมาคิดคำนวณบำนาญจะเพิ่มขึ้นเป็นขั้นบันไดตามจำนวนปีที่ได้เป็น ส.ส. และจะได้บำนาญสูงสุด 70% ของเงินเดือน
เงินเดือน ส.ส. เจ็ดหมื่นหนึ่งพันบาท และเงินเพิ่มอีกสี่หมื่นสอง แต่คิดบำนาญเฉพาะเงินเดือน 20% ของเจ็ดหมื่น เท่ากับประมาณหนึ่งหมื่นสี่พันบาท แต่เงินบำนาญจะเพิ่มมากขึ้น ถ้า ส.ส.แก้ไขกฎหมายเพิ่มเงินเดือนตัวเอง เพิ่มเปอร์เซ็นต์การคำนวณบำนาญ เงินจำนวนนี้ก็จะเพิ่มมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ในขณะนี้
เงินเดือนเจ็ดหมื่นบาทเท่ากับเงินเดือนของปลัดกระทรวง ซึ่งข้าราชการที่จะได้รับเงินเดือนระดับนี้นับจำนวนคนได้เลยมีไม่เกิน 200 คนเท่านั้น แต่ ส.ส.มี 500 คิดว่าใครเป็นภาระมากกว่ากัน
ช่วยกันรณรงค์ให้เลิกเงินบำนาญ ส.ส.กันดีมั้ย คนที่สมัครมาเป็น ส.ส.ขันอาสาเข้ามาเอง ไม่มีใครบังคับให้มาเป็น ส.ส. ดังนั้น ต้องเสียสละ ส.ส.ต้องไม่ใช่อาชีพนักการเมืองที่จะได้บำนาญแบบข้าราชการ