ผบช.ภ.1 เผย ยินดีให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีแตงโม ชี้ การสืบสวนสอบสวนต้องทำตามพยานหลักฐาน มั่นใจทำตามกรอบกฎหมาย ฝากถามกลับหากตรวจสอบแล้วไม่ผิด ผู้ร้องจะพูดอย่างไรกับสังคม
วันนี้ (19 พ.ค.) เมื่อเวลา 13.15 น. ที่ กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 (บช.ภ.1) พล.ต.ท.จิรพัฒน์ ภูมิจิตร ผบช.ภ.1 เปิดเผยถึงกรณี นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลืออาชญากรรม ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบตำรวจชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของ น.ส.นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม ดาราสาวชื่อดัง จนกระทั่งมีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว ว่า ตนเองรับราชการมาเป็นเวลานาน จนปัจจุบันรับตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการ ไม่เคยมีเรื่องด่างพร้อย ทุจริต คอร์รัปชันทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต และดูแลรับใช้พี่น้องประชาชนมาโดยตลอด การสืบสวนสอบสวนทุกคดี ต้องทำการสืบสวนสอบสวนไปตามพยานหลักฐาน และการเสาะแสวงหาพยานหลักฐาน หรือพยานบุคคล พยานแวดล้อม พยานผู้ชำนาญการ และวัตถุพยาน ก็ต้องดำเนินการโดยรอบคอบ การตรวจสอบเป็นเรื่องดี เพราะทำให้สังคมคลายสงสัยได้ซึ่งตำรวจเป็นองค์กรหนึ่งในกระบวนการยุติธรรมในการที่สามารถตรวจสอบได้ สังคมก็จะได้เกิดความมั่นใจ และมีความเชื่อมั่นในการทำงานในวิชาชีพของตำรวจมากยิ่งขึ้น
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่า การสืบสวนสอบสวน จะเอาตามความเข้าใจไม่ได้ แต่ต้องดำเนินการไปพยานหลักฐาน โดยเฉพาะในคดีนี้ ต้องฟังความคิดเห็นของแพทย์ ผู้ตรวจพิสูจน์ศพเป็นหลัก
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยอีกว่า ยินดีที่จะให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว เมื่อมีผู้ร้องเรียนไปยัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ซึ่งเป็นกระบวนการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว อย่างที่แจ้งว่า เราเป็นตำรวจ เป็นองค์กรนึ่งในกระบวนการยุติธรรม สามารถตรวจสอบได้ ก็เป็นขั้นตอน และเมื่อรับเรื่องแล้วก็ต้องส่งให้ผู้มีอำนาจในการตรวจสอบก็เป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ส่วนการกำหนดวันให้เข้าไปชี้แจงข้อเท็จจริงนั้น เบื้องต้นเท่าที่ทราบ พรุ่งนี้ (20 พ.ค.) จะมีการสอบข้อเท็จจริง ผกก.สภ.เมืองนนทบุรี แต่ในส่วนของตนนั้น ก็แล้วแต่ผู้เกี่ยวข้อง เพราะเป็นเรื่องของจเรตำรวจ ขอยืนยันว่า ไม่กังวล การตรวจสอบเป็นเรื่องดี ทำให้สังคมคลายสงสัย
พล.ต.ท.จิรพัฒน์ เปิดเผยต่อว่า การสืบสวนสอบสวนในทุกคดี เอาตามความคิดไม่ได้ ทางตนก็มั่นใจในคณะทำงานทุกคน ก็ทำงานด้วยความมั่นใจในการดำเนินคดี เป็นไปตามกรอบของกฎหมายและระเบียบที่กำหนด การรวบรวมและการเสาะแสวงหาพยานหลักฐานต่างๆ ก็เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวนอยู่แล้ว เพื่อรวบรวมสำนวนสั่งฟ้องไปยังพนักงานอัยการ ไม่ได้เสียกำลังใจ ส่วนประเด็นที่ถูกร้องเรียนมาใน 4-5 ประเด็นนั้น ก็สามารถชี้แจงได้หมด เพราะทุกอย่างอยู่ในสำนวน ซึ่งกระบวนการของอัยการจะมีการทำความเห็นไป และย้ำว่าทุกอย่างทำตามขั้นตอนถูกต้องครบถ้วน
ส่วนจะมีการดำเนินการฟ้องกลับหรือไม่ ยังไม่ขอพูดถึงในตอนนี้ แต่หากผลการตรวจสอบของคณะกรรมการออกมาถูกต้อง แล้วคณะทำงานไม่มีความผิด ก็ฝากไปถามด้วยว่า ผู้ร้องเขาจะพูดอย่างไรกับสังคม
