xs
xsm
sm
md
lg

ขนส่งให้ไทยสมายล์บัสเดินรถ 71 สายใหม่ภายใน ต.ค.นี้ บริษัทแม่เตรียมเพิ่มทุน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.บียอนด์เผยกรมการขนส่งทางบกให้เดินรถเส้นทางใหม่ 71 เส้นทางที่ได้รับการประมูลภายในเดือนตุลาคม 2565 ชี้ต้องบรรจุรถ 2,130 คัน เตรียมพิจารณาเสนอขายหุ้นเฉพาะราย จัดซื้อรถ สร้างอู่ใหม่ และทำระบบตั๋วร่วม

เมื่อวันที่ 31 พ.ค. นางออมสิน ศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) กล่าวในการจัดกิจกรรมบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ผ่านระบบไลฟ์สตรีมมิ่ง ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ถึงความคืบหน้าการดำเนินธุรกิจรถโดยสารไฟฟ้าของไทยสมายล์บัสว่า แผนการลงทุนอยู่ภายใต้บริษัทร่วม คือ บริษัท เอซ อินคอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ACE ที่บริษัทฯ ถือหุ้น 49% เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่ให้ธุรกิจหลักทรัพย์ไปลงทุนในกิจการอื่นได้ไม่เกิน 50%

โดยการดำเนินธุรกิจแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สายการเดินรถภายใต้สัญญาเดิม 10 เส้นทาง บรรจุรถบัสไฟฟ้าแล้ว 8 เส้นทาง ส่วนอีก 2 เส้นทาง (รถร้อนสาย 132 เคหะบางพลี-พระโขนง และสาย 365 ปากน้ำ-โรงไฟฟ้าบางปะกง) ยังใช้รถแบบเดิม โดยว่าจ้าง Sub-Operation ไปเดินรถแทน ซึ่งมีแผนที่จะซื้อรถบัสไฟฟ้าเพิ่มอีก 225 คันเพื่อให้ครบตามแผนภายในปี 2566 โดยการบรรจุรถจะมอนิเตอร์ว่าสายไหนให้ผลประกอบการที่ดี มีผู้โดยสารเพิ่มขึ้น ภาพลักษณ์ดี ได้รับความนิยม อุบัติเหตุน้อย

ส่วนเส้นทางใหม่ กรมการขนส่งทางบกเปิดประมูล 77 เส้นทาง ไทยสมายล์บัสได้มา 71 เส้นทาง เมื่อบวกกับเส้นทางเดิม รวม 79 เส้นทางที่จะใช้รถโดยสารไฟฟ้า โดยได้ติดต่อขอใบอนุญาตแล้ว ซึ่งตามเงื่อนไขภายใน 180 วันจะต้องบรรจุรถเข้าไปสูงสุดถึง 2,130 คัน และสามารถเดินรถได้ตามที่กำหนดภายในปลายเดือนตุลาคม 2565 ซึ่งจะทำให้ไทยสมายล์บัสขึ้นแท่นเป็นผู้ประกอบการรถโดยสารเอกชนอันดับหนึ่ง ซึ่งมีแผนจะทำระบบเครือข่ายการเดินรถเพื่อครอบคลุมการเดินทางมากยิ่งขึ้น

"เราพยายามที่จะเชื่อมโยงเส้นทางการเดินรถทั้งหมด ภายใต้ใบอนุญาตของเราที่มี และเจรจากับผู้ประกอบการรายอื่นเพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อผู้โดยสาร ด้วยความสบายใจกับคุณภาพ ความปลอดภัย และค่าโดยสารที่สมเหตุสมผล จึงนำไปสู่ความจำเป็นในการเพิ่มทุนเพื่อนำเงินไปใช้ลงทุนตามแผน" นางออมสิน กล่าว

นางออมสินได้เผยแพร่ประมาณการแผนการใช้เงินทุนในไทยสมายล์บัส ได้แก่ จัดซื้อรถโดยสารไฟฟ้า 10 สายในปัจจุบันเพิ่มเติม 225 คัน และ 71 สายใหม่ 2,130 คัน คันละ 6.9 ล้านบาท รวมประมาณการลงทุน 16,249.50 ล้านบาท ส่วนอีก 100 ล้านบาทจะสร้างอู่จอดรถ สำนักงาน และระบบการดูแลรักษา อีก 200 ล้านบาทจะเป็นเงินลงทุนในโครงการทำระบบตั๋วร่วม โดยได้พิจารณาเสนอขายหุ้นเฉพาะราย (PP) ซึ่งจะมีความชัดเจนหลังการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 30 มิ.ย. 2565
กำลังโหลดความคิดเห็น