เผยประวัติผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครคนที่ 17 ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม วัย 56 ปี น้องชายฝาแฝด จากเกียรตินิยมอันดับ 1 ถึงไวรัล "รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี"
จากกรณีที่การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 22 พ.ค. 2565 ที่ผ่านมา พบว่านายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อดีต รมว.คมนาคม ผู้สมัครอิสระ ได้รับเลือกให้เป็นผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร คนที่ 17 ด้วยคะแนนกว่า 1.3 ล้านคะแนน กลายเป็นที่คาดหวังว่าจะเกิดความเปลี่ยนแปลงในมหานครแห่งนี้
อ่านประกอบ : "ชัชชาติ" นั่งแท่นผู้ว่าฯ กทม.ทิ้งอันดับ 2 เป็นล้าน-เลือก ส.ก.เพื่อไทยกวาด 19 ที่นั่ง
หมายเลข 8 รศ.ดร.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้สมัครอิสระ
สำหรับประวัติโดยย่อของนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ชื่อเล่นชื่อทริป เกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2509 (56 ปี) เป็นชาวกรุงเทพฯ บุตรของ พล.ต.อ.เสน่ห์ สิทธิพันธุ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล กับนางจิตต์จรุง สิทธิพันธุ์ (กุลละวณิชย์) มีพี่สาวคือ รศ.ดร.ปรีชญา สิทธิพันธุ์ อดีตอาจารย์ประจำภาควิชาสถาปัตยกรรม คณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
ส่วนพี่ชายฝาแฝด คือ รศ.ดร.นพ.ฉันชาย สิทธิพันธุ์ ชื่อเล่นชื่อทัวร์ เป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย และอุปนายกแพทยสภา คนที่ 2 วาระ พ.ศ. 2564-2566 เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุกรรมโรคปอด ระบบทางเดินหายใจและทรวงอก
นายชัชชาติ เป็นศิษย์เก่าโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา จบการศึกษาจากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมโยธา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เกียรตินิยมอันดับ 1 ต่อมาได้รับทุนอานันทมหิดล ในระดับปริญญาโท สาขาวิศวกรรมโครงสร้างจากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเซตส์ (MIT) และระดับปริญญาเอก ที่มหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ เออร์แบนา-แชมเปญจน์ สหรัฐอเมริกา
เริ่มต้นชีวิตทำงาน เป็นวิศวกรโครงสร้างในบริษัทเอกชน เข้ารับราชการเป็นอาจารย์ประจำคณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาฯ ในปี 2538 จากนั้นเป็นผู้ช่วยอธิการบดี ฝ่ายจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในปี 2548-2555 รวมทั้งเป็นกรรมการในรัฐวิสาหกิจหลายแห่ง เช่น การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.), บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด นอกจากนี้ ยังเป็นกรรมการบริษัท เช่น แลนด์แอนด์เฮ้าส์, โฮมโปร ฯลฯ
เข้าสู่แวดวงการเมือง เป็นที่ปรึกษากระทรวงคมนาคม สมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร (สมัยที่ 2) และรัฐบาลสมัคร สุนทรเวช กระทั่งปี 2555 สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้รับการแต่งตั้งเป็น รมช.คมนาคม ก่อนจะเป็น รมว.คมนาคม มีส่วนผลักดัน พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่ง เช่น ก่อสร้างรถไฟทางคู่ 11 สาย รถไฟความเร็วสูง กรุงเทพฯ-เชียงใหม่, หนองคาย, ปาดังเบซาร์, อู่ตะเภา แต่ถูกตั้งครหาเรื่องความโปร่งใส และศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่าขัดรัฐธรรมนูญ
กระทั่งพ้นจากตำแหน่งในปี 2557 หลังคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เข้าควบคุมอำนาจการปกครอง นายชัชชาติผันตัวมาเป็นผู้บริหารบริษัทเอกชน ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ควอลิตี้เฮ้าส์ (Q House) ก่อนจะลาออกจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 1 ม.ค. 2562 เพื่อไปทำงานเป็นทีมเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทย แต่ภายหลังลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย และเปิดตัวเป็นผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. ที่ลานกิจกรรมชุมชนโรงหมู เขตคลองเตย เมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2562
อ่านประกอบ : "ชัชชาติ" ลั่นพร้อมชิงผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ ลาออกจากเพื่อไทยแล้ว ไม่ทราบ "แม้ว" ไม่พอใจ (30 พ.ย. 2562)
"ชัชชาติ" ลาออกจาก "คิวเฮ้าส์" คุมทีมเศรษฐกิจเพื่อไทยโดยตรง (29 ธ.ค. 2561)
ชีวิตครอบครัว นายชัชชาติ สมรสกับ นางปิยดา สิทธิพันธุ์ (สกุลเดิม: อัศวฤทธิภูมิ) พนักงานการบินไทย มีบุตรชายหนึ่งคน คือ นายแสนปิติ สิทธิพันธุ์ ผู้พิการทางการได้ยินตั้งแต่กำเนิด ได้รับการผ่าตัดประสาทหูเทียมเมื่อปี 2545
นายชัชชาติได้รับฉายาจากชาวเน็ตว่า "รัฐมนตรีที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี" จากภาพที่เจ้าตัวสวมเสื้อยืดแขนกุด กางเกงขาสั้น เดินเท้าเปล่าถือถุงแกงภายในวัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ สมัยที่ยังเป็น รมว.คมนาคม ระหว่างลงพื้นที่จังหวัดสุรินทร์เพื่อดูงานด้านโครงสร้างพื้นฐาน เกิดกระแสไวรัลภาพตัดต่อจากชาวเน็ตอย่างสนุกสนาน ซึ่งที่ผ่านมาเจ้าตัวไม่ถือโทษโกรธเคืองใดๆ
ต้องคอยดูว่านับจากนี้ ชัชชาติจะยังคงแข็งแกร่งเป็นอมตะ ในฐานะ "ผู้ว่าฯ กทม.ที่แข็งแกร่งที่สุดในปฐพี" อีกหรือไม่?