xs
xsm
sm
md
lg

นาทีระทึก! ชายคลั่งบุกลานจอดเครื่องบินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ชมคลิป)

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นาทีระทึก เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไล่จับชายคลั่งขี่จักรยานยนต์บุกเดี่ยวเข้าไปพื้นที่แอร์ไซด์ หลุมจอดเครื่องบิน ฝั่งอาคารเทียบเครื่องบิน A หลังฝ่าเจ้าหน้าที่ผ่านช่องทาง 3 ไปยังเขตการบิน สุดท้ายจบลงที่ถูกควบคุมตัวเอาไว้ได้

วันนี้ (3 พ.ค.) ในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์และส่งต่อคลิปเหตุการณ์ที่เจ้าหน้าที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และบริษัท รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ บรท. ร่วมกันไล่จับคนร้ายที่พกอาวุธคล้ายมีดขวานและอาวุธปืน มีอาการคลุ้มคลั่งวิ่งหนีแบบไม่เลือกหน้า เหตุเกิดบริเวณหลุมจอดภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ต.หนองปรือ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา จากคลิปจะเห็นคนร้ายกำลังวิ่งหนีเจ้าหน้าที่บริเวณหลุมจอดเครื่องบิน โดยมีเจ้าหน้าที่คอยไล่กวดและต่อสู้ ก่อนจะขึ้นบันไดไปยังประตูขึ้นเครื่องบิน

อ่านเพิ่มเติม : สุวรรณภูมิระทึก! ชายคลั่งขี่รถจักรยานยนต์บุกถึงลานจอดเครื่องบิน ใช้ขวานทุบประตูขึ้นเครื่องแตกกระจาย

รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า คนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ หมายเลขทะเบียน 5 กษ 3226 กรุงเทพมหานคร เป็นยานพาหนะ พยายามที่จะเข้าไปที่ช่องทาง 3 (Control Post 3) ที่เป็นช่องทางจากถนนสุวรรณภูมิ 5 ไปยังเขตการบิน (Airside) ที่เต็มไปด้วยหลุมจอดเครื่องบิน (Bay) แต่ถูกพนักงานบริษัท รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ บรท. และเจ้าหน้าที่บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้ร่วมกันผลักดันออกนอกพื้นที่มาแล้ว 2 ครั้ง กระทั่งครั้งที่ 3 คนร้ายอาศัยจังหวะที่พนักงาน บรท.กำลังทำการตรวจรถยนต์อยู่พยายามฝ่าเข้าไป เจ้าหน้าที่ ทอท.ได้เข้าสกัด แต่คนร้ายได้แสดงอาวุธสิ่งเทียมคล้ายขวานและอาวุธปืน ก่อนเข้าไปที่เขตการบิน เจ้าหน้าที่จึงแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องได้ทราบ ต่อมาคนร้ายได้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าไปในหลุมจอด หมายเลข A4 เชื่อมกับอาคารเทียบเครื่องบิน A (Concourse A) วิ่งขึ้นบันไดไปยังทางขึ้นเครื่อง เอาสิ่งเทียมคล้ายขวานจามประตูกระจก กระทั่งเจ้าหน้าที่ บรท.และ ทอท.จับกุมตัวได้ในที่สุด โดยทราบภายหลังว่าอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นปืนบีบีกัน รวมทั้งกรรไกร และสิ่งเทียมคล้ายขวาน


ด้านนายกิตติพงศ์ กิตติขจร ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (3 พฤษภาคม 2565) เวลาประมาณ 11.50 น. ได้เกิดเหตุมีบุคคลภายนอกขับขี่รถจักรยานยนต์ พกอาวุธ ฝ่าฝืนมาตรการรักษาความปลอดภัยบุกรุกเข้าไปในพื้นที่หวงห้ามภายในเขตการบิน โดยเมื่อได้รับแจ้งเหตุ ศูนย์รักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ได้ติดตามตัวผู้ก่อเหตุผ่านกล้องโทรทัศน์วงจรปิดตลอดเหตุการณ์ พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยขับรถยนต์สายตรวจเข้าตามสกัดจับผู้บุกรุก แต่เนื่องจากผู้บุกรุกมีอาวุธทางเจ้าหน้าที่จึงต้องใช้กำลังในการควบคุม โดยสามารถจับกุมผู้ก่อเหตุได้ในเวลา 12.03 น. และนำส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ก่อนที่ผู้บุกรุกจะพยายามหนีเข้าไปในสะพานเทียบอากาศยาน ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุเป็นชายไทย อายุ 34 ปี ขณะจับกุมบุคคลดังกล่าวยังมีอาการมึนเมาจากการเสพยาเสพติด โดยเจ้าหน้าที่สามารถยึดของกลางเป็นสิ่งเทียมอาวุธปืนสั้น และของมีคม (ขวานเหล็ก, กรรไกร) พร้อมด้วยยาบ้า 1 เม็ด

นายกิตติพงศ์กล่าวว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ไม่ส่งผลต่อการให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบิน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทสภ.ได้ปฏิบัติหน้าที่เข้าระงับเหตุได้อย่างทันท่วงทีและเป็นไปตามขั้นตอน ทั้งนี้ เนื่องจากผู้ก่อเหตุมีอาวุธจึงทำให้ผู้ก่อเหตุและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย และได้รับการรักษาพยาบาลเบื้องต้น ขณะที่ผู้ก่อเหตุได้ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุนอกจากจะถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกเข้าไปในเขตพื้นที่หวงห้ามภายในท่าอากาศยานแล้ว จะต้องถูกดำเนินคดีจากข้อหากระทำความผิดต่อพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ. 2558 ตามมาตรา 19 ด้วยข้อหาใช้อาวุธหรือวัสดุอื่นใดกระทำการอันอาจเป็นอันตรายหรือน่าจะเป็นอันตรายต่อความปลอดภัยของท่าอากาศยานบุกรุก ซึ่งมีระวางโทษหนักอาจถึงประหารชีวิตหรือจำคุกตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่สิบห้าปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่หกแสนบาทถึงแปดแสนบาท นอกจากนี้ยังมีความผิดในการทำลายทรัพย์สินของท่าอากาศยานจนได้รับความเสียหาย รวมทั้งมีความผิดเนื่องจากเสพและมียาเสพติดไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมายอีกด้วย ซึ่งจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ส่งผลให้มีทรัพย์สินส่วนหนึ่งของ ทสภ.ได้รับความเสียหาย โดยตรวจพบประตูกระจกตรงช่องทางเข้าอาคารเทียบเครื่องบิน แตกเสียหายจำนวน 2 บาน เนื่องจากผู้บุกรุกได้ใช้อาวุธทุบประตูกระจกเพื่อพยายามหลบหนีเข้าไปในอาคารแต่ถูกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยสกัดจับได้เสียก่อน

นายกิตติพงศ์กล่าวในตอนท้ายว่า ทสภ.ปฏิบัติตามขั้นตอนด้านการรักษาความปลอดภัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ และผู้โดยสารเป็นสำคัญ
กำลังโหลดความคิดเห็น