ลำพูน - ตำรวจลำพูน ประสาน ตร.อยุธยา ตามรวมคาวัดไก่เตี้ย ผู้ต้องหาร่วมก่อเหตุอุกอาจ ควงปืนปล้นร้านทองใหญ่กลางเมืองเจ้าแม่จามเทวี ก่อนนั่งเครื่องหนีเข้ากรุง พบเป็นหลาน “เฮียแดง หรือเฮียยุต” หัวโจก ผ่านงานปล้น ติดคุกมาแล้ว 15 ปี
วันนี้ (27 เม.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดลำพูน ได้รับตัวนายนพรัตน์ เอี่ยมสะอาด อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ร่วมกับนายศุภกร แก้วเกิด หรือเฮียแดง หรือชื่อในวงการพนันว่า เฮียยุต อายุ 64 ปี ขับรถยนต์กระบะใช้อาวุธลูกซองยาว และอาวุธปืนสั้นแบบลูกโม่ บุกจี้ชิงทองร้านทองนริศรา กาดจตุจักร ต.ป่าสัก อ.เมืองลำพูน ได้ทองรูปพรรณไปน้ำหนักรวม 53 บาท
หลังก่อเหตุนายศุภกร ได้นำทองไปซุกซ่อนไว้ในบ้าน ซึ่งเป็นที่ทำการ หจก. แล้วเปลี่ยนรถพานายนพรัตน์ ไปส่งขึ้นเครื่องบินที่สนามบินเชียงใหม่ไปลงที่ดอนเมืองเพื่อหลบหนี โดยได้นำสร้อยคอทองคำน้ำหนัก 5 บาท ที่ชิงทรัพย์มาได้ติดตัวไป 1 เส้น
ส่วนทองรูปพรรณที่เหลืออีก 49 เส้น นายศุภกร เก็บซุกซ่อนไว้ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะกดดันอย่างหนัก กระทั่งให้ลูกสาวกล่อมให้มอบตัว และสารภาพว่าได้เป็นผู้ก่อเหตุจี้ชิงทองจริงร่วมกับนายนพรัตน์ ซึ่งเป็นหลานของตัวเอง และเคยมีประสบการณ์ในการปล้น เคยถูกจับติดคุกที่เรือนจำจังหวัดพิษณุโลก 15 ปี เพิ่งพ้นโทษมาเมื่อเดือนธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา
และเดิมทีนั้นได้ชวนคนรู้จักอีกคนหนึ่งเพื่อร่วมกันก่อเหตุปล้น แต่อีกคนมาดูลาดเลาแล้วเกิดถอดใจไม่ขอร่วมก่อการ จึงขอถอนตัวกลับไปก่อน นายศุภกร จึงร่วมกับนายนพรัตน์หลานชายเพียง 2 คน ลงมือก่อเหตุดังกล่าว
หลังจากนั้น นายนพรัตน์ หลบหนีโดยขึ้นเครื่องที่สนามบินเชียงใหม่ ลงสนามบินดอนเมือง แล้วหลบหนีวนเวียนอยู่ในกรุงเทพฯ และได้ปิดมือถือ แต่ยังเล่นเฟซบุ๊กอยู่ โดยเข้ามาส่งสติกเกอร์ตอบคอมเมนต์เพื่อนในเฟซบุ๊กส่วนตัว แล้วหลอกล่อเจ้าหน้าที่โดยการเช็กอินอยู่แถวกรุงเทพฯ แต่ได้หลบไปอยู่ที่วัดไก่เตี้ย หมู่ที่ 2 ต.บ้านรุน อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสืบทราบว่ามาหลบซ่อนตัวอยู่ในวัด จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดพระนครศรีอยุธยา บุกเข้าจับกุมได้ที่วัดดังกล่าวเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (26 เม.ย.) ก่อนควบคุมตัวจากจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มาถึง สภ.เหมืองจี้ เมื่อเวลา 12.10 น.ที่ผ่านมาและเตรียมนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป