นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับคดีบุกรุกป่าที่ราชบุรี พร้อมพลิกกฎหมายยืนยัน 'ที่ดินธนาธร' ห่างไกลกับการบุกรุกป่าในคดีอาญาเพราะขาดเจตนา มีเอกสารสิทธิ น.ส.3 ที่รัฐเป็นคนออกให้ แต่เมื่อพบภายหลังว่าเป็นพื้นที่ป่าก็สั่งเพิกถอน
จากกรณี นางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิต มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หลังตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกที่ดินป่าสงวนใน จ.ราชบุรี 3 พันกว่าไร่
ต่อมา นายอดิศร นุชดำรงค์ อธิบดีกรมป่าไม้ นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่า เข้าร้องทุกข์ต่อ พล.ต.ต.พิทักษ์ อุทัยธรรม ผบก.ปทส. พ.ต.อ.พิบูลย์ เวียงจันทร์ รอง ผบก.ปทส. พ.ต.อ.ศราณุ โสมทัต ผกก.5 บก.ปทส. และคณะพนักงานสอบสวน บก.ปทส. เพื่อให้ดำเนินคดีต่อนางสมพร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท ไทยซัมมิต มารดานายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า หลังตรวจสอบพบว่ามีการบุกรุกที่ดินใน จ.ราชบุรี พร้อมพ่วงดำเนินคดี จนท.รัฐออกเอกสารสิทธิให้โดยไม่ชอบ
อย่างไรก็ตาม วันนี้ (19 เม.ย.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ สมาชิกพรรคสร้างอนาคตไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ" พลิกกฎหมายยืนยัน 'ที่ดินธนาธร' ห่างไกลกับการบุกรุกป่าในคดีอาญา โดยได้ระบุข้อความว่า
"ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กับคดีบุกรุกป่าที่ราชบุรี
- คุณธนาธร คงถูกดำเนินคดีอยู่หลายคดี ผมไม่กล่าวถึงคดีอื่น แต่ขอกล่าวถึงคดีที่คุณธนาธรและครอบครัวถูกกล่าวหาว่า โกงชาติ โกงแผ่นดิน โกงป่า กรณีครอบครองที่ดินรัฐ ต่อมากรมที่ดินเพิกถอนการซื้อขายที่ดินนั้น
- ผมทราบว่า คุณธนาธร และครอบครัวซื้อที่ดินนี้มาตั้งแต่ปี 2533 โดยมีการบันทึกไว้ว่า ที่ดินนี้อาจจะอยู่ หรือไม่อยู่ในเขตป่าก็ได้ แต่หากอยู่ในเขตป่าจะถูกเพิกถอนได้ในภายหลัง
- ที่ดินที่มีการซื้อขายและต่อมาถูกเพิกถอนในภายหลังในแต่ละปีมีแบบนี้เยอะครับ การเพิกถอนแบบนี้ถือเป็นคำสั่งทางปกครอง หรือเป็นคดีแพ่ง เป็นคนละเรื่องกับการบุกรุกที่ดินที่เป็นคดีอาญา ผมทราบว่าในกรณีของคุณธนาธร หน่วยงานที่รับผิดชอบมีความเห็นสั่งไม่ฟ้องคดีอาญา และอยู่ระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ
- ผมสรุปอย่างนี้ครับ
1. การเพิกถอนเนื่องจากเป็นที่ป่า เรื่องนี้ตรวจสอบได้ด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ มันเป็นวิทยาศาสตร์ หากอยู่ในที่ป่าก็เพิกถอนไป เรื่องก็จบ
2. ส่วนการบุกรุกที่เป็นคดีอาญา ยากครับที่คุณธนาธรและครอบครัวจะมีเจตนาบุกรุกที่จะเป็นคดีอาญา เพราะขณะซื้อ เจ้าหน้าที่ที่จดทะเบียนโอนก็ไม่แน่ใจว่าอยู่ในที่ป่าหรือไม่ การจะผิดอาญา ต้องเป็นกรณีที่รู้โดยแน่ชัดขณะซื้อว่าเป็นที่ป่าแล้วยังซื้อ อย่างนี้จึงมีเจตนาบุกรุก
3. น.ส.3 เป็นเอกสารเกี่ยวกับที่ดิน ที่รัฐเป็นคนออกให้ เมื่อยังไม่ถูกเพิกถอนก็เป็นเอกสารที่ถูกต้อง หากเราไม่เชื่อเอกสารที่ออกโดยเจ้าหน้าที่รัฐการทำนิติกรรมต่างๆ เกี่ยวกับที่ดินก็ทำไม่ได้เลย เรื่องนี้หากจะผิดเจ้าหน้าที่รัฐที่ออก น.ส.3 นั่นแหละผิด จะโทษประชาชนไม่ได้
4. เปรียบได้กับกรณีอดีตนายกรัฐมนตรี พลเอก สุรยุทธ์ ที่ปลูกบ้านในที่ป่า แล้วต่อมาเมื่อทราบว่าเป็นที่ป่าท่านก็รื้อบ้านออกไป อัยการสั่งไม่ฟ้องอ้างว่าท่านขาดเจตนา นั่นเป็นการซื้อที่ดินมือเปล่าไม่มีเอกสารสิทธิใดๆ เลย แต่ของคุณธนาธรซื้อที่ดินที่มี น.ส.3 ด้วยซ้ำ จึงห่างไกลกับการบุกรุกป่าในคดีอาญาเยอะมาก
- ในระบอบประชาธิปไตย "ทุกคนต้องเสมอภาคกันต่อหน้ากฎหมาย" หากเราไม่มีอคติทางการเมือง ก็ลองใช้ดุลพินิจดู หากเห็นด้วยกับผม ก็เพียงแสดงความเห็นว่า "เห็นด้วย" หากไม่เห็นด้วย ก็แสดงความเห็นว่า "ไม่เห็นด้วย" แต่ต้องแสดงเหตุผลด้วยว่าท่านไม่เห็นด้วยเพราะเหตุใด อย่าใช้ความรู้สึกชอบหรือไม่ชอบทางการเมือง อย่าใช้คำหยาบคาย ด้อยค่าคนใดคนหนึ่ง ไม่ว่าผมจะอยู่ที่ไหนเรื่องแบบนี้ผมตรงไป-ตรงมาเสมอครับ มิใช่ว่าพอถอดเสื้อแจ็กเก็ตพรรคหนึ่งผมจะเปลี่ยนไป เรื่องแบบนี้เราต้องวางหลักให้สังคม ขอขอบคุณท่านที่อ่านมาถึงบรรทัดสุดท้ายอย่างตั้งใจ ต้องยินดีว่าวันนี้ ท่านเป็นคนไทยที่อ่านเกิน 7 บรรทัดแล้ว"