คืบหน้าหนุ่มโรงแรมวัย 34 ปี ตำแหน่ง Night Shift Manager รีสอร์ตหรูลักชัวรีภูเก็ต แอบดูลูกค้าอาบน้ำพร้อมสำเร็จความใคร่ ตำรวจแจ้ง 2 ข้อหา ฐานบุกรุกและคุกคามทางเพศ ด้านผู้เสียหายเผยทางโรงแรมไม่นิ่งนอนใจ ช่วยแจ้งความ-เยียวยาไม่พอ ให้ GM คืนวันนั้นลาออกจากงาน แฉผู้ก่อเหตุมีเมียมีลูก 2 คนขอยอมความ แต่เจ้าตัวยันถ้านึกถึงลูกเมียจริงต้องไม่ทำแต่แรก
วันนี้ (8 เม.ย.) จากกรณีที่ในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาเตือนภัยพฤติกรรมของผู้จัดการกะกลางคืน (Night Shift Manager) ของรีสอร์ตหรูระดับลักชัวรี 5 ดาวราคาคืนละกว่า 1 หมื่นบาทแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต ที่มีลักษณะห้องพูลวิลลาอยู่บนเนินเขาชันขึ้นไปเป็นหลัง เป็นห้องวิวทะเล (Ocean View) ปรากฏว่าหลังขับรถบัคกี้ส่งลูกค้าเสร็จ กลับแอบดูลูกค้าทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำ พร้อมกับสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง อีกทั้งเมื่อขอความช่วยเหลือ ผู้จัดการทั่วไปของรีสอร์ต (General Manager) กลับไล่ให้ไปนอน ไม่ให้ความช่วยเหลือใดๆ อ้างว่ารบกวนเวลาพักผ่อน แล้วจะกลับมารับเรื่องตอน 8 โมงเช้า เหตุเกิดเมื่อวันที่ 4 เม.ย. เวลา 03.10 น. ตามที่ได้นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
อ่านเพิ่มเติม : รีสอร์ตลักชัวรีที่ภูเก็ตยังกล้า! แฉพนักงานกะกลางคืนแอบดูลูกค้าอาบน้ำพร้อมช่วยตัวเอง
รายงานข่าวเพิ่มเติมระบุว่า ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ตออกเอกสารข่าวชี้แจงว่า เหตุการณ์ดังกล่าวผู้เสียหายได้เข้าพบกับ พ.ต.ท.ภาณุกร แว่นแก้ว สารวัตร (สอบสวน) สภ.เมืองภูเก็ต ต่อมา พล.ต.ต.เสริมพันธุ์ ศิริคง ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้รับทราบแล้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.สราวุธ ชูประสิทธิ์ ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต ตรวจสอบคดีดังกล่าว จากการสืบสวนสอบสวนคดีดังกล่าว ทราบชื่อผู้ต้องหาคือ นายนพดล (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี และพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ต้องหาทราบการกระทำของผู้ต้องหาเป็นความผิดฐานบุกรุกเข้าไปในอสังหาริมทรัพย์ของผู้อื่นในเวลากลางคืน เข้าไปกระทำการใด อันเป็นการรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของเขาโดยปกติสุข และกระทำการอันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม หรือกระทำให้อับอายหรือเดือดร้อนรำคาญในลักษณะส่อไปในทางล่วงเกินทางเพศ การกระทำดังกล่าวเสียหายต่อภาพลักษณ์ของจังหวัดภูเก็ต ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยว ผู้กระทำยังต้องรับโทษทางอาญาและหมดอนาคต และขอเตือนมายังผู้ที่คิดจะกระทำความผิดในลักษณะดังกล่าวต่อไป
ด้านเฟซบุ๊กผู้เสียหายระบุว่า หลังจากที่เกิดเรื่องขึ้น เจ้าของโรงแรมได้ติดต่อกลับมาและพร้อมให้ความช่วยเหลือ และขอโทษกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นแล้ว สัญญาว่าจะเยียวยาสภาพจิตใจให้ด้วย ทางโรงแรมไม่นิ่งนอนใจ แจ้งความต่อผู้กระทำความผิดโดยตรงเพราะสร้างความเสียหายให้ทางโรงแรมในด้านชื่อเสียงและด้านอื่นๆ ด้วย ขณะเดียวกันยังให้ผู้จัดการทั่วไป (General Manager) ลาออกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งตนพอใจที่ทางโรงแรมไม่เข้าข้างคนผิด และไม่เข้าข้าง GM ที่ละเลยกับเรื่องใหญ่ขนาดนี้ ซึ่งทางโรงแรมสนับสนุนผู้เสียหายไปในทางเดียวกัน และยังสัญญาว่าจะนำเรื่องนี้ไปเป็นบทเรียนปรับปรุงในด้านความปลอดภัยต่อไป ตนไม่อยากให้สังคมโฟกัสว่าเป็นโรงแรมไหน เพราะโรงแรมจ้างคนไม่มีทางรู้ว่าคนไหนนิสัยอย่างไร ส่วนที่ทางโรงแรมรับผิดชอบ ไล่พนักงานออกและลงโทษ GM ถือว่าพอใจ คนผิดก็โดนลงโทษไป คนละเลยงานก็ลาออกไป
ทั้งนี้ ตนอยากให้สังคมโฟกัสไปที่การดูแลตัวเองเวลาเดินทางไปไหนมาไหน และอยากจะปลุกจิตสำนึกถึงเรื่องการคุกคามทางเพศ ไม่ว่าในรูปแบบใด คำพูด สายตา หรือแม้แต่การกระทำ ไม่ควรเงียบ ไม่ควรนิ่งหรือเก็บไว้เพราะเป็นเหยื่อ แต่คนที่ควรอายคือคนที่ทำ ไม่เช่นนั้นจะกระทำในที่ลับหรือ ถ้าโดนจับขึ้นมาคนทำผิดเอาหน้าไปไว้ไหนไม่ได้อยู่แล้ว เคสของตน คนที่ทำผิดมีครอบครัว มีลูก 2 คน อยากให้ตนยอมความ แต่ตนไม่ยอมและจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด ถ้านึกถึงลูกเมียจริง สติสำคัญที่สุด ไม่ควรคิดที่จะไปปีนตั้งแต่แรกแล้ว ถ้าตัดสินใจปีนขึ้นมาแอบดู แปลว่าเลือกความเสี่ยงที่จะโดนจับ พร้อมกันนี้ ยังขอบคุณทุกกำลังใจและให้ความช่วยเหลือเต็มที่
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่