ชาวเน็ตแห่แชร์โพสต์จากผู้เสียหายรายหนึ่ง เตือนภัยพักวิลลาในรีสอร์ตหรูระดับลักชัวรีคืนละหมื่นที่จังหวัดภูเก็ต เจอพนักงานกะกลางคืนที่มีเพียงคนเดียว แอบดูตอนอาบน้ำพร้อมสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองตอนตีสาม ขณะที่ผู้จัดการทั่วไปกลับไล่ให้ไปนอน อ้างว่ารบกวนเวลานอน
วันนี้ (7 เม.ย.) ในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์ข้อความจากผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งออกมาเตือนภัยพฤติกรรมของผู้จัดการกะกลางคืน (Night Shift Manager) ของรีสอร์ตหรูระดับลักชัวรี 5 ดาวแห่งหนึ่งในจังหวัดภูเก็ต แอบดูลูกค้าทำธุระส่วนตัวในห้องน้ำพร้อมกับสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง อีกทั้งผู้จัดการทั่วไปของรีสอร์ต (General Manager) ไม่ให้ความช่วยเหลือ โดยได้โพสต์ภาพขณะที่เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดภูเก็ตเข้าตรวจสอบบริเวณอ่างอาบน้ำด้านนอกเพื่อเก็บหลักฐานของคนร้าย
เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. ของคืนวันหนึ่ง หลังจากผู้เสียหายออกไปข้างนอกกับพี่ชาย กลับมาถึงรีสอร์ตเมื่อเวลา 02.40 น. พนักงานโรงแรมมาส่งที่วิลลาด้วยรถบัคกี้ของรีสอร์ต ระหว่างที่กำลังอาบน้ำโดยที่ปิดมู่ลี่เรียบร้อย พบเห็นเงาชายรายหนึ่งอยู่ตรงระเบียง ยืนอยู่บนอ่างอาบน้ำด้านนอก (Outdoor Bathtub) ที่ติดกับมู่ลี่ ยืนจ้องผ่านซี่มูลี่เข้ามาและผ่านขอบข้างๆ ตรงที่มู่ลี่ปิดไม่ถึง ยืนสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเองนาน 10-15 นาที
เมื่อผู้เสียหายพบเห็นเกิดตกใจ ชายคนนี้รีบกระโดดไปทางสระว่ายน้ำส่วนตัว (Private Pool) ของห้อง รีบปลุกพี่ชายให้ไปล็อบบี้พร้อมเรียกตำรวจ พอไปถึงล็อบบี้กลับไม่มีคนอยู่เลยสักคน ต้องยืนรอประมาน 5 นาทีกว่าจะมีคนมา ซึ่งตอนที่พนักงานโรงแรมเดินกลับมาที่ล็อบบี้ กลับพบว่าเป็นคนเดียวกับที่แอบดูตนเองและยืนสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง เป็นคนเดียวกับที่ขับรถบัคกี้มาส่งที่วิลลา ซึ่งมีตำแหน่ง Night Shift Manager ดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าในตอนกลางคืน แต่เจ้าตัวไม่ยอมรับ อ้างว่าออกไปตรวจตราความเรียบร้อยของโรงแรมอยู่
เมื่อโทร.เรียกผู้จัดการทั่วไปของรีสอร์ต (General Manager) ในช่วงเกิดเหตุให้เข้ามารับเรื่อง กลับไล่ให้ไปนอน กล่าวว่า "มันเวลาพักผ่อนของผม ผมไม่เข้าไปดู" แล้วบอกจะมารับเรื่องนี้ตอน 8 โมงเช้า ทั้งๆ ที่รีสอร์ตดังกล่าวมีพนักงานคนเดียวที่ดูแล คือคนที่แอบดูผู้เสียหายอาบน้ำ มีมาสเตอร์คีย์สามารถเข้าได้ทุกห้อง จึงนอนหลับไม่ลง
ผู้เสียหายอธิบายลักษณะรีสอร์ตดังกล่าวว่าเป็นรีสอร์ตระดับลักชัวรี (Luxury) ตนพักห้องพูลวิลลา ที่ไม่ใช่ห้องถี่ๆ หลายห้องติดกัน คนปีนขึ้นมาไม่ได้ง่ายๆ เพราะห้องพักค่อนข้างห่างกัน และอยู่บนเนินเขาชันขึ้นไปเป็นหลัง ลักษณะเปิดโล่งแบบอาบน้ำเห็นวิว ข้างนอกมีกระจกใสกั้นอยู่ และมีมู่ลี่หรือม่านรูดปิดอีกที ห้องที่พักเป็นห้องวิวทะเล (Ocean View) จะอยู่สูงกว่าห้องอื่นๆ ถ้าปีนเสาขึ้นมาคือสูงระดับ 4-5 เมตร และเสาอยู่ใต้ตึกอีกที ยากที่จะเอื้อมตัวขึ้นมาได้ง่าย อีกทั้งในยามค่ำคืนมืดมาก ต้องชำนาญและทำบ่อยรู้จุดว่าต้องขึ้นตรงตำแหน่งไหน ห้องค่อนข้างเป็นส่วนตัว และทุกครั้งที่ออกจากห้องหรือจะไปไหน จะต้องมีคนรับ-ส่งด้วยรถบัคกี้ เพราะห้องไกลจากล็อบบี้และห้องอาหาร
พร้อมกันนี้ยังเตือนภัยว่า การไปพักโรงแรมที่เคลมว่าเป็นลักชัวรี 5 ดาว คืนละนับหมื่นบาท ไม่ได้แปลว่าจะปลอดภัย 100% ควรสังเกตสิ่งรอบตัว เพราะคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้จัดการยังกล้าทำขนาดนี้ ถ้าใครไปพักที่โรงแรมไหนก็ตาม อยากให้ตรวจดูรอบๆ ให้ดีก่อนว่าม่านปิดมิดชิดหรือไม่ก่อนถอดเสื้อผ้า และประตูล็อกดีไหม เพราะเราไม่มีทางรู้เลยว่าใครจะเข้ามาทำอะไรหรือแอบดูเราเมื่อไหร่ก็ได้ โดยเฉพาะห้องน้ำแบบเปิดโล่ง และเข้าถึงแบบไม่จำกัด อันตรายมาก โชคดีที่ผู้ก่อเหตุไม่ได้เข้ามาในห้องน้ำ ถึงแม้ว่าแค่เอื้อมมือเดียวก็สามารถถึงตัวผู้เสียหายแล้ว
"สิ่งนี้ไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากับผู้หญิงหรือผู้ชาย หรือคนไหนๆ sexual harassment ไม่ว่ารูปแบบใดๆ ไม่ควรเกิดขึ้นทั้งนั้น ถ้าเราไม่ยินยอม และไม่ควรเงียบให้เรื่องจบ อยากให้ใครก็ตามถ้าโดนลวนลามทางเพศไม่ว่ารูปแบบใด ทั้งสายตา คำพูด หรือแม้แต่การกระทำ physically (ทางร่างกาย) เราไม่ควรให้มันเงียบ เพราะถ้าเงียบ เท่ากับเรายอมรับให้เขาทำ และทำให้สังคมหล่อหลอมว่ามันเป็นแค่คดีเล็กๆ ไม่ใช่ฆ่าคนตาย อยากให้ทุกคนระวังไว้ เพราะถ้าเป็นต่างประเทศเรื่องนี้ใหญ่มาก" ผู้โพสต์ระบุ
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
สำหรับโพสต์ดังกล่าวมีคนแชร์กว่า 300 ครั้งแล้ว ต่างสอบถามหรือค้นหาข้อมูลว่ารีสอร์ตที่เกิดเหตุเป็นรีสอร์ตแห่งใด จะได้ไม่หลงไปใช้บริการ และวิจารณ์ว่าขนาดรีสอร์ตหรู 5 ดาวระดับลักชัวรียังบริหารจัดการแย่มาก อย่างไรก็ตาม เมื่อตรวจสอบไปยังรีสอร์ตหรูดังกล่าวที่ชาวเน็ตตั้งข้อสงสัย กลับพบว่ายังไม่มีการแถลงข้อเท็จจริงแต่อย่างใด