xs
xsm
sm
md
lg

Epson Monna Lisa ก้าวแห่งอนาคตของธุรกิจงานพิมพ์สิ่งทอ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“ก้าวแรกที่อิตาลี สู่การพัฒนาที่ญี่ปุ่น เพื่อนำพาอนาคตที่ดีกว่าไปทั่วทั้งโลก” เป็นคำอธิบายที่ดีที่สุด หากจะพูดถึง Monna Lisa เครื่องพิมพ์สิ่งทอแบบ direct-to-fabric (DTF) ระบบดิจิทัลของเอปสัน เพราะในปี 2016 เอปสัน ผู้นำด้านเทคโนโลยีการพิมพ์จากญี่ปุ่น ได้เข้าซื้อกิจการของฟราเตลลิ โรบัสเตลลิ (Fratelli Robustelli) ที่ขณะนั้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมการพิมพ์สิ่งทอของอิตาลี พร้อมกับนำเครื่องพิมพ์เรือธงของโรบัสเตลลิเข้ามาพัฒนาเพิ่มศักยภาพและทำตลาดจนประสบความสำเร็จไปทั่วโลก และในวันนี้ Monna Lisa ได้มาถึงไทยแล้ว และมีโรงงานพิมพ์ผ้าทั้งขนาดกลางและใหญ่เริ่มนำเข้าไปใช้ในระบบกันมากขึ้น

จุดเด่นของ Monna Lisa ที่เป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการสิ่งทอ ก็คือ หัวพิมพ์ PrecisionCore Micro TFP ที่มีความละเอียดสูง ใช้งานง่าย เป็นเทคโนโลยีหัวพิมพ์ที่ผสานทั้งความเร็ว ความทนทาน และคุณภาพ เข้าด้วยกันอย่างลงตัว ในส่วนหมึกพิมพ์ที่ใช้ ได้แก่ หมึก Genesta ที่มีถึง 8 เฉดสี ประกอบด้วย สีไซแอน มาเจนต้า เหลือง ดำ แดง ฟ้า ส้ม และเทา ซึ่งมากกว่าคู่แข่งรายอื่นในตลาด ทำให้สามารถผสมสีออกมาได้มากกว่า 3 ล้านล้านสี และมีให้เลือกใช้ทั้งหมึก Acid, Reactive, Disperse และ Pigment จึงรองรับการพิมพ์สิ่งทอได้หลากหลายประเภท สามารถตอบโจทย์ทุกความต้องการของลูกค้า หมึกพิมพ์ Genesta แต่ละประเภทเหมาะกับการใช้พิมพ์ผ้าที่แตกต่างกัน ได้แก่ หมึก Acid เหมาะกับผ้าที่มีเส้นใยจากสัตว์ เช่น ผ้าขนสัตว์ หนังสัตว์ ผ้าไหม ผ้าไนล่อน และหมึก Reactive นิยมใช้กับผ้าฝ้าย ผ้าไหม ผ้าเรยอน ขณะที่หมึก Disperse เหมาะกับใช้พิมพ์บนผ้าโพลีเอสเตอร์ ส่วนหมึก Pigment ใช้สำหรับพิมพ์ผ้าฝ้ายและผ้าฝ้ายผสม เช่น ฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์และฝ้ายผสมเรยอน


เมื่อ Monna Lisa ผสานรวมความล้ำสมัยของเทคโนโลยีหัวพิมพ์และน้ำหมึกเข้าด้วยกัน ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการพิมพ์
ประสิทธิภาพสูง แม่นยำ ให้งานพิมพ์คุณภาพสูง ทั้งยังลดระยะเวลาในการผลิต พร้อมกับเพิ่มจำนวนการผลิตได้มากขึ้น การจัดตำแหน่งสีแบบสมมาตร (symmetrical alignment) ช่วยให้มั่นใจได้ว่าการพิมพ์แบบสองทิศทาง (bidirectional printing) จะรักษาตำแหน่งของสีที่ทับซ้อนกัน ทำให้การสร้างสีและลวดลายมีความสม่ำเสมอ แม้ในบริเวณที่มีสีทึบ การสร้างลวดลายวิจิตรหรือทรงเรขาคณิตก็สามารถแสดงผลได้อย่างคมชัด สวยงาม นอกจากนี้ หัวพิมพ์ PrecisionCore Micro TFP ที่สามารถควบคุมการหยดหมึกได้อย่างแม่นยำสูงยังช่วยให้สามารถพิมพ์งานที่มีลายเส้น หรือมีขอบได้คมชัดมากยิ่งขึ้น พร้อมปรับโทนสีให้สว่างสดใสขึ้น ไม่ว่าจะพิมพ์ลงบนสิ่งทอใดๆ หมึก Genesta ก็สามารถพิมพ์ลวดลายได้อย่างแม่นยำ ตั้งแต่โทนสีที่ละเอียดอ่อนไปจนถึงโทนสีที่สว่างสดใส

ไม่เพียงเท่านั้น Monna Lisa ยังมาพร้อมกับซอฟต์แวร์ที่ช่วยในการทำงานต่างๆ เช่น Epson Edge Print Textile ซอฟต์แวร์ RIP ที่พัฒนาขึ้นเองโดยเอปสัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพหัวพิมพ์ PrecisionCore Micro TFP และหมึกพิมพ์ Genesta โดยเฉพาะ ในด้านการเพิ่มความคมชัดและจัดการไฟล์ภาพ และซอฟต์แวร์ ColorBlend ที่ช่วยในการสร้างรูปแบบสีต่างๆ (Colorways) ควบคุมการไหลของน้ำหมึก สร้างโปรไฟล์ ICC และขั้นตอนอื่นๆ ในการเตรียมความพร้อมก่อนการพิมพ์ แต่ไม่ใช่แค่ศักยภาพและประสิทธิภาพเท่านั้นที่ทำให้ Monna Lisa กลายเป็นมาตรฐานใหม่ของเครื่อง พิมพ์สิ่งทอระบบอิงค์เจ็ทดิจิทัลคุณภาพสูงในอุตสาหกรรม แต่ยังเป็นเรื่องความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมที่สร้างความแตกต่างจากเครื่องพิมพ์แบรนด์อื่น และช่วยรักษามาตรฐานคุณภาพชีวิตภายในโรงงาน เช่นหมึก Genesta ที่ได้การรับรองจาก Eco Passport มาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกสำหรับการพิมพ์ผ้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากนี้ หมึกประเภท Acid ยังได้การรับรองจาก Bluesign® มาตรฐานอุตสาหกรรมด้านการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมและความปลอดภัยของผู้บริโภคที่ใช้ในสหภาพยุโรป ขณะที่หมึก Reactive และ Pigment ได้รับการรับรอง GOTS จาก ECOCERT สถาบันรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ออร์แกนิก


นายยรรยง มุนีมงคลทร ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท เอปสัน (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “เมื่อก่อนโรงงานพิมพ์ผ้าขนาดกลางและใหญ่ส่วนใหญ่ยังคงใช้ระบบการพิมพ์แบบดั้งเดิมหรืออะนาล็อกกับงานทุกออเดอร์ แต่เมื่อเกิดกระแส Digital Transformation ที่ค่อยๆ ดิสรัปท์อุตสาหกรรมสิ่งทอ เครื่องพิมพ์สิ่งทอระบบอิงค์เจ็ทดิจิทัลจึงไม่ใช่สิ่งแปลกใหม่อีกต่อไป เริ่มต้นผู้ประกอบการอาจจะลองลงทุนเพื่อนำมาใช้สนับสนุนการทำงานของเครื่องพิมพ์แบบดั้งเดิม แต่ต่อมาเริ่มพบว่าทั้งรูปแบบการออกแบบของดีไซเนอร์และพฤติกรรมของผู้บริโภคแตกต่างไปจากเดิม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการใช้สีสันที่เพิ่มขึ้น หรือลักษณะการออเดอร์ที่เป็นแบบออนดีมานด์มากขึ้น เพราะต้องการชิ้นงานที่มีแบบที่หลาก หลายยิ่งขึ้นแต่ในจำนวนที่น้อยลง เครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัลจึงกลายเป็นกลยุทธ์ทางธุรกิจ เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น”

“ปัจจุบัน เครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัลกลายเป็นธุรกิจใหม่หรือเป็นทางรอดของบางโรงงานไปแล้ว โรงงานที่ยังใช้เครื่องพิมพ์ระบบดั้งเดิมจำเป็นต้องประหยัดมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่าจ้างพนักงาน ค่าเปิดเครื่องพิมพ์ ค่าไฟ ค่าน้ำที่ใช้ในการกระบวน การพิมพ์ ซึ่งล้วนแต่เป็นต้นทุนที่สูง และไม่คุ้มกับออเดอร์ที่อาจไม่มากเท่าเดิม นอกจากนี้ ยังมีข้อจำกัดอื่นๆ ของระบบการพิมพ์แบบดั้งเดิมที่เสียเปรียบเครื่องพิมพ์ระบบดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดเรื่องจำนวนสีที่ใช้ได้ต่องานหนึ่งชิ้น หรือเวลาในขั้นตอนการผสมสีที่ใช้เวลานาน เวลาในการวอร์มเครื่องพิมพ์ที่ต้องใช้หลายชั่วโมง การลงทุนกับกระบวนการบำบัดน้ำเสียและพื้นที่ขนาดใหญ่สำหรับเก็บวัสดุเหลือใช้จากกระบวนการพิมพ์ เช่น บล็อก หรือ สีตัวอย่าง ไปจนถึงการพิมพ์ชิ้นงานตัวอย่างที่ไม่สามารถทำชิ้นเล็กได้ ซึ่งข้อจำกัดเหล่านี้จะไม่มีในเครื่องพิมพ์สิ่งทอระบบดิจิทัล”

Monna Lisa เริ่มเข้ามาในไทยเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และได้รับความสนใจมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่แค่จากโรงงานพิมพ์ผ้าเท่านั้น แต่มีโรงย้อมผ้าจำนวนไม่น้อยในปัจจุบันที่ต้องการขยายธุรกิจมาเป็นผู้รับพิมพ์ลายผ้าเช่นกัน ซึ่งMonna Lisa มีด้วยกัน 4 ขนาดตามจำนวนหัวพิมพ์ ได้แก่ 8 หัวพิมพ์ ที่เหมาะกับผู้ประกอบการที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจพิมพ์ผ้า ส่วนรุ่น Monna Lisa Evo Tre 16 และ Evo Tre 32 ที่ใช้หัวพิมพ์ 16 และ 32 หัว เหมาะกับงานระดับมืออาชีพและต้องการความเร็วในการพิมพ์สูงขึ้น และล่าสุด เอปสันได้เปิดตัว Monna Lisa ML-64000 รุ่น 64 หัวพิมพ์ ที่ให้ประสิทธิภาพการพิมพ์สูงสุด เหมาะสำหรับการพิมพ์ผ้าขนาดใหญ่และพิมพ์ปริมาณมาก มีกลไกการทำความสะอาดขั้นสูงเพื่อการทำงานที่ราบรื่นยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ผู้ประกอบการไทยยังจะได้รับบริการให้ความช่วยเหลือและคำแนะนำ ตั้งแต่การสาธิตการใช้งานอุปกรณ์ ตัวอย่างการผลิต ไปจนถึงคำแนะนำและเทคนิคเกี่ยวกับขั้นตอนก่อนและหลังการพิมพ์ จากผู้เชี่ยวชาญของศูนย์โซลูชั่นสิ่งทอของเอปสัน (Epson Textile Solution Centers) ที่มีอยู่ทั้งในอิตาลี และญี่ปุ่น

“ความต้องการของทั้งซัพพลายเชนและผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมสิ่งทอต้องปรับตัวให้ทัน ด้วยการลงทุนกับเทคโนโลยีที่ชาญฉลาดเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ สามารถรองรับความต้องการที่หลาก หลายจากลูกค้า ทั้งยังช่วยประหยัดต้นทุนการผลิตในด้านต่างๆ ในขณะที่เรื่องของความยั่งยืนและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมก็เริ่มทวีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ ต่ออุตสาหกรรมสิ่งทอ ซึ่งการเพิกเฉยต่อผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมจะสร้างปัญหาที่ร้ายแรงตามมาต่อธุรกิจได้ เอปสันพร้อมที่จะนำเสนอนวัตกรรมที่เป็นมิตรกับธรรมชาติและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนเพื่อรองรับก้าวแห่งอนาคตของธุรกิจสิ่งทออยู่เสมอ เช่นเดียวกับเครื่องพิมพ์ Epson Monna Lisa ที่เป็นโซลูชันเพื่อการพิมพ์ direct-to-fabric ที่สมบูรณ์แบบ” นายยรรยง กล่าว






กำลังโหลดความคิดเห็น