เฟซบุ๊ก A&W Thailand กล่าวขอขอบคุณลูกค้าที่ให้การสนับสนุน ส่งกำลังใจให้พนักงาน หลังข่าวสะพัดปิดกิจการในไทย พบปี 2564 ขาดทุน 70 ล้านบาท
วันนี้ (9 มี.ค.) เฟซบุ๊ก A&W Thailand โพสต์ภาพหมีรูทตี้ ซึ่งเป็นมาสคอตของทางร้าน ระบุข้อความว่า "ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้การสนับสนุนและส่งกำลังใจให้พนักงานหน้าร้าน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Inbox นะครับ" ระบุว่า "พี่หมีรูทตี้ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านมากๆ นะครับ ที่ให้การสนับสนุน มาอุดหนุน A&W และส่งกำลังใจให้พนักงาน พนักงานทุกคนยินดีให้บริการลูกค้าทุกท่านอย่างเต็มที่ แต่หากมีข้อผิดพลาด ได้รับอาหารช้า หรือเมนูบางรายการหมด พี่หมีต้องขออภัยลูกค้าทุกท่านเลยนะครับ ไม่คิดว่าจะมีคนรักเราเยอะขนาดนี้ ขอบคุณมากๆ เลยครับ"
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
รายงานข่าวแจ้งว่า สืบเนื่องมาจากสื่อมวลชนหลายสำนักรายงานข่าวว่า ร้านอาหาร A&W จะยุติกิจการในประเทศไทย จากการตรวจสอบพบว่า บริษัท โกลบอล คอนซูเมอร์ จำกัด (มหาชน) ได้รายงานคำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ สำหรับปี 2564 ถึงกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ลงวันที่ 1 มี.ค. 2565 ที่ผ่านมา ในตอนหนึ่งระบุว่า ผลประกอบการในปี 2564 เมื่อยังไม่รวมผลประกอบการจากธุรกิจร้านอาหาร A&W บริษัทจะมีผลประกอบการคิดเป็นกำไรประมาณ 60 ล้านบาท อย่างไรก็ตามเมื่อรวมเข้ากับผลประกอบการในส่วนของธุรกิจร้านอาหาร A&W ซึ่งมีผลขาดทุน ประมาณ 70 ล้านบาท
ประกอบกับการที่บริษัทตัดสินใจยุติการดำเนินการธุรกิจร้านอาหาร A&W ซึ่งมีผลประกอบการขาดทุนมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน และยิ่งได้รับผลกระทบมากขึ้นในภาวะการระบาดของ covid-19 บริษัทจึงมีการตั้งสำรองสินทรัพย์รวมถึงตั้งสำรองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการหยุดดำเนินงานในธุรกิจนี้เป็นจำนวนเงินประมาณ 90 ล้านบาท และทางฝ่ายบริหารได้พิจารณาให้ปิดร้านอาหาร Kitchen Plus ที่บริษัทบริหารเองที่เหลืออยู่ทั้งหมดอีก 2 สาขาในเดือนมกราคม 2565 ด้วย ซึ่งมีผลให้บริษัทต้องตั้งสำรองสินทรัพย์ในบริษัทที่ดำเนินกิจการร้านอาหาร Kitchen Plus อีกประมาณ 68 ล้านบาท
ดังนั้น บริษัทจึงได้ดำเนินการตั้งสำรองทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจร้านอาหาร เช่น สินทรัพย์ถาวร ค่าความนิยม สินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่นๆ เช่น เครื่องหมายการค้า เป็นต้น รวมถึงตั้งสำรองค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องเป็นจำนวนรวมทั้งสิ้นประมาณ 160 ล้านบาท ในปี 2564 เมื่อรวมผลประกอบการทั้งหมดทำให้ในปี 2564 บริษัทมีผลขาดทุนอยู่ที่ 166.63 ล้านบาท ซึ่งผลขาดทุนนี้บริษัทรับรู้ทั้งหมดเพียงครั้งเดียว เมื่อหยุดดำเนินกิจการ บริษัทจึงคาดว่าในอนาคตจะไม่มีการตั้งสำรองผลขาดทุนในส่วนร้านอาหารนี้อีก
เมื่อพิจารณาจากงบการเงินจะแสดงให้เห็นผลประกอบการจากการดำเนินงานในส่วนของธุรกิจอื่นๆ ที่เหลือของบริษัท ซึ่งถ้าไม่รวมผลขาดทุนที่เกิดจากผลประกอบการของ A&W จำนวน 70 ล้านบาท จะเห็นว่าธุรกิจอื่นๆ ของบริษัทมีผลประกอบการเป็นกำไรรวมประมาณ 60 ล้านบาท อีกทั้ง บริษัทเล็งเห็นว่าแนวโน้มการขยายธุรกิจของกลุ่มบริษัทเน้นไปที่การผลิตในอุตสาหกรรมอาหารซึ่งบริษัทมีความชำนาญมากกว่า อีกทั้งยังสามารต่อยอด สนับสนุนและสามารถบริหารทรัพยากรที่มีร่วมกันภายในกลุ่มบริษัทได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่า ซึ่งน่าจะส่งผลให้บริษัทสามารถบริหารต้นทุนและค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
ในขณะที่ปี 2563 บริษัทมีผลขาดทุนสำหรับปี 57.62 ล้านบาท ในจำนวนนี้รวมผลขาดทุนจากการตั้งสำรองสำหรับการย้ายโรงงานอาหารแช่แข็ง และตั้งสำรองสำหรับการปิดสาขาของร้านอาหาร คิทเช่น พลัส ที่ไม่สามารถทำกำไรได้ จำนวน 25.37 ล้านบาท ดังนั้นบริษัทจึงมีขาดทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ 32.25 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในส่วนของการวิเคราะห์เปรียบเทียบในงบแสดงฐานะการเงิน ระบุว่า จากสถานการณ์ COVID-19 ที่ครอบคลุมเวลายาวนานมากว่า 2 ปี ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อธุรกิจร้านอาหาร เนื่องจากการปิดห้างสรรพสินค้ารวมถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งด้วยเหตุดังกล่าวบริษัทจึงมีผลการดำเนินงานขาดทุนมาโดยตลอด ซึ่งทางฝ่ายบริหารเห็นว่าบริษัทไม่สามารถรับผลขาดทุนต่อไปได้ จึงตัดสินใจนำเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อขออนุมัติหยุดดำเนินกิจการร้านอาหารในส่วนของ A&W
และทางฝ่ายบริหารได้พิจารณาให้ปิดร้านอาหาร Kitchen Plus ที่บริษัทบริหารเองที่เหลืออยู่ทั้งหมดอีก 2 สาขาในเดือนมกราคม 2565 ดังนั้นบริษัทจึงได้ดำเนินการตั้งสำรองทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจร้านอาหาร เช่น สินทรัพย์ถาวร ค่าความนิยม สินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่นๆ เช่น เครื่องหมายการค้า เป็นต้น จึงมีผลให้บัญชีเหล่านี้ที่แสดงอยู่ในงบการเงินลดลง
อนึ่ง สำหรับร้านอาหาร A&W เป็นร้านอาหารบริการด่วน แฟรนไชส์เก่าแก่จากสหรัฐอเมริกา เมนูหลักของ A&W ได้แก่ เครื่องดื่มรูทเบียร์ วาฟเฟิล เคอร์ลีฟรายส์ แฮมเบอร์เกอร์ โดยมีลักษณะเฉพาะและเลือกใช้วัตถุดิบที่มีคุณภาพนำเข้าจากต่างประเทศ เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย นอกจากนี้ยังมีเมนูไก่ทอด เมนูข้าวต่างๆ เช่น ข้าวปลาลุยสวน ข้าวลาบไก่กรอบ เป็นต้น ที่ตรงความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย ชุดอาหารเช้า ของกินเล่น และของหวาน เพื่อสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม โดยให้บริการครบทุกรูปแบบทั้งการรับประทานในร้าน (Dine In), รับกลับบ้าน (Take Away) และบริการส่งถึงที่ (Delivery)