แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทยยื่นหนังสือถึงเอกอัครราชทูตจีน ยืนยันความสัมพันธ์ไทย-จีนยาวนาน พร้อมตรวจสอบรัฐบาลประยุทธ์ ลงนามวิสัยทัศน์ระหว่างไทย-สหรัฐฯ 2020 เป็นพันธมิตรร่วมต่อต้านศัตรู หลังทำเนียบขาวเผยรายงาน สหรัฐฯ ต้องเป็นผู้นำในภูมิภาคเอเชีย จีนต้องไม่มีบทบาท ใส่ชื่อไทยเป็นพันธมิตรใกล้ชิด หวั่นถูกเลือกข้างกระทบความสัมพันธ์
วันนี้ (21 ก.พ.) ที่สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำประเทศไทย ถนนรัชดาภิเษก นายนิติธร ล้ำเหลือ และนายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่มประชาชนคนไทย ยื่นหนังสือถึง นายหาน จื้อ เฉียง เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทย เพื่อแสดงจุดยืนและเสนอข้อพิจารณาต่อสถานการณ์ในภูมิภาค และความสัมพันธ์ไทย-จีน
สืบเนื่องจากทำเนียบประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีการเผยแพร่รายงานยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ของสหรัฐอเมริกา (INDO-PACIFIC STRATEGY OF THE UNITED STATES) จัดทำโดยกระทรวงกลาโหมและกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา โดยระบุถึงประเทศไทยว่าเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ในฐานะพันธมิตรของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ ณ จุดศูนย์กลางอาเซียน
นอกจากนี้ ยังระบุว่าภูมิภาคเอเชียจะมีความมั่นคง ต้องหมายถึงว่าจีนต้องไม่มีบทบาท และสหรัฐอเมริกาต้องเป็นผู้นำแห่งเอเชียแปซิฟิก สหรัฐฯ จึงจะเกิดความมั่นคง นอกจากนี้ในเอกสารยังระบุว่า ไทยเป็น 1 ใน 5 ประเทศพันธมิตรใกล้ชิด ด้วยสนธิสัญญาที่แข็งแกร่ง คือ ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย
รวมทั้งก่อนหน้าในเดือนพฤศจิกายน 2562 พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีของไทยได้ร่วมลงนามในแถลงการณ์วิสัยทัศน์ร่วมระหว่างไทย-สหรัฐอเมริกา ค.ศ. 2020 ว่าด้วยการเป็นพันธมิตรด้านการป้องกันประเทศเพื่อร่วมต่อต้านศัตรู จนกระทั่งทำเนียบขาวนำชื่อประเทศไทยไปใส่ไว้ในรายงานยุทธศาสตร์อย่างเป็นทางการว่า เป็นพันธมิตรใกล้ชิดที่มีสนธิสัญญาผูกพันกัน
กลุ่มประชาชนคนไทยติดตามสถานการณ์ต่างๆ เหล่านี้ด้วยความห่วงกังวลว่าจะเกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนว่า ประเทศไทยจะไม่รักษาดุลยภาพของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ หากเกิดความขัดแย้งด้วยกำลังอาวุธขึ้นภายในภูมิภาคนี้ ด้วยเหตุดังกล่าว กลุ่มประชาชนคนไทยจึงขอเรียนมายังเอกอัครราชทูตจีน เพื่อส่งผ่านความปรารถนาดี และสื่อสารข้อเท็จจริงมายังรัฐบาลและประชาชนของสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า
1. ประชาชนไทยยังคงความเป็นมิตรกับจีนนับแต่อดีตมาจนถึงปัจจุบัน อันถือเป็นความสัมพันธ์ต่อเนื่องยาวนานที่มากยิ่งขึ้นด้วยความอบอุ่นงดงาม บนพื้นฐานความร่วมมือในหลากหลายมิติ เพื่อพัฒนาความมั่นคง ความเจริญของประเทศ และคุณภาพชีวิตที่ดีของประชาชน โดยต่างยึดถือหลักคุณธรรม เคารพยอมรับความมีอธิปไตยให้เกียรติซึ่งกันและกันอย่างจริงใจ
2. ขณะนี้สหรัฐฯ พยายามสร้างสถานการณ์ซับซ้อนหลากรูปแบบหลายวิธีการ โดยเฉพาะการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร เพื่อก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ความขัดแย้งระหว่างประเทศ อันจะนำไปสู่การเผชิญหน้ากันด้วยความรุนแรงโดยใช้ตัวแทน ภายใต้การกดดันด้วยการคว่ำบาตร การสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ กองกำลังทหาร บนพื้นฐานที่ประเทศต่างๆ และประชาคมโลกเป็นผู้จ่ายต้นทุน สูญเสียทรัพยากร และแบกรับความเสียหายแทนสหรัฐฯ กลุ่มประชาชนคนไทยจึงมีข้อห่วงกังวลต่อพฤติกรรมของสหรัฐฯ อันจะมีผลในทางไม่พึงประสงค์ต่อมิตรภาพ ความสัมพันธ์อันดีงามระหว่างไทยกับจีน
3. กลุ่มประชาชนคนไทย จะใช้กลไกต่างๆ เพื่อติดตามตรวจสอบสนธิสัญญา และแถลงการณ์ต่างๆ ที่รัฐบาลไปลงนาม และมีผลกระทบต่อความสัมพันธ์อันดีกับมิตรประเทศ โดยที่ประชาชนไม่ทราบในรายละเอียดและข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด
4. บรรดาการดำเนินการใดที่รัฐบาลซึ่งนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กระทำโดยอาจก่อให้เกิดข้อสงสัยในความสัมพันธ์อันดีงามของประเทศไทยกับประเทศจีน และมิตรประเทศอื่นๆ อันเสมือนหนึ่งเป็นการเลือกข้างนั้น ย่อมจักเป็นการกระทำโดยไม่ได้รับฉันทานุมัติจากประชาชนชาวไทย และประชาชนชาวไทยจะร่วมคัดค้านอย่างถึงที่สุด
กลุ่มประชาชนคนไทยจึงเรียนมาเพื่อขอยืนยันว่า ประชาชนไทยยึดมั่นในนโยบายต่างประเทศอย่างสันติมีความเป็นอิสระเป็นตัวของตัวเอง และพร้อมเป็นพันธมิตรกับทุกประเทศโดยเคารพยอมรับอธิปไตยให้เกียรติซึ่งกันและกันอย่างเท่าเทียม ยึดมั่นในเส้นทางของการพัฒนาอย่างสันติ ภายใต้แนวคิดการสร้างผลประโยชน์ร่วมกันด้วยหลักเมตตาคุณธรรมแบ่งปันค้ำจุน ยึดถือหลักนิติธรรมและความเป็นธรรม ยืนหยัดต่อความถูกต้อง เพื่อความก้าวหน้าอย่างยั่งยืนของมนุษยชาติ
ประการสำคัญ กลุ่มประชาชนคนไทยขอแสดงความขอบคุณต่อบรรดาความสนับสนุนต่างๆ ของจีน ที่ก่อเกิดประโยชน์อย่างแท้จริงต่อประเทศและประชาชนชาวไทย ซึ่งจะอยู่ในความทรงจำและระลึกถึงอยู่เสมอ