การจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดที่อายุน้อยกว่า 50 ปี หรือ “Young University Rankings 2022” ของ Times Higher Education สำนักจัดอันดับชื่อดังจากประเทศอังกฤษ ที่ประกาศเมื่อวันอังคารที่ 15 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ปรากฏชื่อสถาบันการศึกษาจากจีนแผ่นดินใหญ่ถึง 11 แห่ง
ได้แก่ Southern University of Science and Technology (SUSTech), Shenzhen University, Xi’an Jiaotong-Liverpool University, Guangzhou University, Shantou University, Wuhan University of Technology, Zhejiang University of Finance and Economics, Jianghan University, Yangzhou University, Chengdu University, และ University of South China ตามลำดับ จากการจัดอันดับมหาวิทยาลัยรุ่นเยาว์ทั่วโลกกว่า 790 แห่งนั้น SUSTech ของจีนทำคะแนนได้ดีที่สุดซึ่งอยู่ในอันดับที่ 13 จากการจัดอันดับในปีนี้
ตัวชี้วัดการจัดอันดับที่สำคัญครั้งนี้มาจาก 5 ส่วนหลักที่สำคัญ ได้แก่ การอ้างอิงผลงานในวารสารนานาชาติ ร้อยละ 30 ชื่อเสียง รายได้ และจำนวนงานวิจัย ร้อยละ 30 การสอน ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมที่เอื้ออำนวยต่อการสอน ร้อยละ 30 คะแนนความเป็นนานาชาติจากสายตาคนนอก ไม่ว่าจะเป็นทีมคณาจารย์จากหลายเชื้อชาติ นักเรียนต่างชาติ และงานวิจัยระดับนานาชาติ ร้อยละ 7.5 และรายได้จากภาคอุตสาหกรรม ร้อยละ 2.5
ปีนี้มหาวิทยาลัยที่ได้คะแนนสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ Paris Sciences et Lettres หรือ PSL Research University Paris ซึ่งได้คะแนนไปถึง 76.6 คะแนน ตามมาด้วย Nanyang Technological University จากประเทศสิงคโปร์ The Hong Kong University of Science and Technology จากเขตปกครองพิเศษฮ่องกง Erasmus University Rotterdam จากเนเธอร์แลนด์ และ Hong Kong Polytechnic University จากสิงคโปร์ตามลำดับ ส่วนมหาวิทยาลัยของไทยที่ติดอันดับในครั้งนี้มีอยู่ด้วยกัน 3 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง อันดับที่ 201-250 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี อันดับที่ 351-400 และ มหาวิทยาลัยนเรศวร อันดับที่ 401+
สำหรับสาธารณรัฐประชาชนจีนนั้น ได้มีนโยบายส่งเสริมด้านการศึกษาที่สำคัญ ซึ่งประธาณาธิบดี สี จิ้นผิง ได้ประกาศเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ภายใต้ยุทธศาสตร์การศึกษาจีนสู่ความทันสมัยปี 2035 (China's Education Modernisation 2035 Plan หรือ 2035 Plan) โดยส่งเสริมการศึกษาในทุกภาคส่วน ในระดับมหาวิทยาลัยนั้นโครงการสำคัญอย่าง Double First Class หรือ 世界一流大学和一流学科建设 โดยได้ถูกพัฒนาจากโครงการก่อนหน้าอย่าง Project 211 และ Project 985 เพื่อให้มหาวิทยาลัยจีนเข้าไปติดอันดับโลกมากขึ้นภายในปี 2050 ซึ่งปัจจุบันมีสถาบันอุดมศึกษาจีนจำนวนกว่า 140 แห่งเข้ามาอยู่ภายใต้โครงการนี้
หนึ่งในนั้นคือ มหาวิทยาลัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีภาคใต้ หรือ Southern University of Science and Technology (SUSTech) ก่อตั้งขึ้นในปีพ.ศ. 2554 (อายุ 10 ปี) โดยรัฐบาลมณฑลกวางตุ้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาการศึกษาระดับอุดมศึกษารูปแบบใหม่ที่ทันสมัยทัดเทียมกับมหาวิทยาลัยชื่อดังในฝั่งตะวันตก และกลายเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยระดับโลกอีกแห่งในเมืองหลวงด้านเทคโนโลยีของจีนอย่างเซินเจิ้น มณฑลกว่างตงของจีน ปัจจุบัน SUSTech มีนักศึกษาระดับปริญญาตรีประมาณ 4,239 คน และบัณฑิตศึกษาจำนวน 2,178 คน โดยมีสาขาวิชาที่โดดเด่น ได้แก่ วิศวกรรมควอนตัม วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ วิศวกรรมอวกาศยาน สาขาทางด้านฟิสิกส์ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ข้อมูล เทคโนโลยีและนวัตกรรมด้านสารสนเทศ เป็นต้น
ผู้เขียนตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการที่ภาครัฐของจีนให้ความสำคัญกับการศึกษาจนสามารถผลักดันในกลายเป็นวาระแห่งชาติได้อย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นนโยบายด้านแหล่งเงินทุนที่เอื้อโอกาสให้นักศึกษาต่างชาติจากทั่วโลกสามารถเข้าถึงองค์ความรู้จากจีนเพิ่มมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นโอกาสในการเรียนภาษาด้วยทุนจากสถาบันขงจื้อและทุนรัฐบาลในระดับปริญญา การสนับสนุนทุนวิจัยให้กับคณาจารย์และนักศึกษาในการผลิตผลงานระดับนานาชาติที่เพิ่มขึ้นทุกปี สวัสดิการที่พักและประกันสังคมที่ครอบคลุมสุขภาพในหลายมิติ ประกอบกับการเชื้อเชิญนักวิชาการและนักวิจัยทั่วโลกที่มีความสามารถมาทำงานที่จีนพร้อมค่าตอบแทนที่คุ้มค่า น่าจะเป็นอีกกลไกในการขับเคลื่อนระบบอุดมศึกษาคุณภาพได้อย่างน่าสนใจ
...
บทความโดย อ.ดร.ธีรติร์ บรรเทิง คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า)