xs
xsm
sm
md
lg

สาวโอด! โดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเงินกว่า 3 แสน ชี้ไม่ใช่เคสแรกทำไมยังจับไม่ได้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สาวผู้เสียหายโอด หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำอะไรกันอยู่ หลังตนเองโดน "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" เล่นใหญ่ หลอกโอนเงินกว่า 3 แสนบาท ชี้นี่ไม่ใช่เคสแรก โดนกันเยอะเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว แต่ทำไมยังจับตัวคนร้ายไม่ได้

เมื่อวันที่ 18 ม.ค. ผู้ใช้เฟซบุ๊ก "Nicharee Inoue" ได้ออกมาโพสต์ข้อความเตือนภัย หลังโดนมิจฉาชีพมาในคราบ "แก๊งคอลเซ็นเตอร์" หลอกเงินไปมากกว่า 3 แสนบาท หลังเล่นใหญ่ อ้างมีเอี่ยวคดีฟอกเงิน ชี้ไม่ใช่เคสแรก เกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว แต่ทำไมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องถึงยังจับตัวคนร้ายไม่ได้เสียที โดยผู้โพสต์ได้ระบุข้อความเล่าว่า

"โอเค ต่อไปนี้จะขอเล่ามหากาพย์เรื่องที่เพิ่งเจอสดๆ ร้อนๆ กับตัวเอง แบบพีกมากก แล้วก็ได้โปรดทุกคนอย่าด่าดิฉัน เพราะด่าตัวเองในหัวมามากพอแล้ว TT อะเริ่ม

เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวานมีเบอร์ระบบโทร.มา เป็นเสียง Call Center บอกว่ามีพัสดุของเราตกค้าง จริงๆ ก่อนหน้านี้ก็มีแบบนี้โทร.มาครั้งหนึ่ง ตอนนั้นพอได้ยินเสียงระบบเลยตัดสาย ครั้งนี้โทร.มาอีกเลยรู้สึกว่า เอ๊ะ หรือมันจะมีของเราที่ค้างอยู่จริงๆ เลยกด 1 เพื่อติดต่อเจ้าหน้าที่ไป

ปลายสายรับแล้วบอกว่า มาจากไปรษณีย์ไทย เราก็บอกชื่อ เบอร์ไทร.ไปให้เขาเช็กพัสดุ เจ้าหน้าที่ก็เช็กให้แล้วบอกว่า พัสดุชื่อเราถูกจัดส่งจากชลบุรีไปเชียงใหม่ แต่ถูกตีกลับ เพราะข้างในมีของผิดกฎหมาย โดยมี passport 12 เล่ม สมุดบัญชี 9 เล่ม และบัตร ATM 9 ใบ แล้วบอกชื่อที่อยู่ปลายทางที่อยู่เชียงใหม่ และชื่อที่อยู่จากจุดส่งแบบละเอียดมาก

ซึ่งตอนนั้นพอได้ยินก็ช็อกมากๆๆๆ ทางนั้นก็ถามเราว่ายืนยันนะว่าไม่ใช่เราส่งจริงๆ เราก็บอกไม่ใช่ ไม่รู้จักชื่อที่อยู่ปลายทางเชียงใหม่เลย แล้วเจ้าหน้าที่เลยแนะนำว่า ให้ไปแจ้งตำรวจ สน.ใกล้บ้านหรือชลบุรี เรื่องจะได้เร็วขึ้นเพราะเป็นเขตกับที่เกิดเหตุ โดยเขาบอกว่าจะโอนสายไปให้

จากนั้นเราก็คุยกับตำรวจหญิง นางก็ให้เราเล่าว่าเกิดไรขึ้น พร้อมบอกชื่อที่อยู่เบอร์โทร. และเลขบัตร ปชช. ทีนี้นางก็บอกว่าโอเค เดี๋ยวจะเช็กให้นะ แล้วทำเป็นวอกับอีกคนหนึ่ง บอกว่าณิชารีย์ อิโนอูเอะ มีคดีอะไร แล้วเราก็ได้ยินเสียงวอคุยกันไปๆ มาๆ และพูดว่า ณิชารีย์ อิโนอูเอะ มีคดีเปิดบัญชีปลอมเพื่อฟอกเงินจำนวนหลักล้าน แล้วตำรวจก็กลับมาคุยกับเราต่อ แล้วบอกว่า ตอนนี้ชื่อเราอันตรายแล้วนะ เพราะถูกใช้มาเปิดบัญชีปลอม มีทำบัตร ปชช.หาย หรือชอปออนไลน์อะไรงี้มั้ย เราก็บอกว่า ไม่ได้ทำหาย แต่ก็ชอปบ่อย เลยไม่รู้ข้อมูลมันรั่วไหลไปรึเปล่า

แล้วตำรวจก็ถามย้ำเราอีกรอบว่า อันนี้คือเรายืนยันนะว่าไม่ได้สมรู้ร่วมคิดจริงๆ เราก็ยืนยันไป แล้วตำรวจก็บอกโอเค งั้นเราต้องมีใบบริสุทธิ์นะถึงจะพ้นคดีได้ ถ้าไม่มีแล้วมีหมายเรียกจับ อาจต้องติดคุกทั้งจำทั้งปรับ 12 ปี คือฉันได้ยินแล้วแบบกลัวมากๆๆๆ

แล้วตำรวจก็เลยบอกว่า งั้นเดี๋ยวจะออกใบบริสุทธิ์ให้ โดยจะให้เราคุยกับผู้กำกับฯ นะ แล้วเล่าว่าเรื่องราวเป็นยังไง แล้วขอให้เขาออกใบบริสุทธิ์ให้หน่อย แล้วเราก็ได้ยินเสียงนางเดินไปเคาะประตูห้อง ผกก.แล้วถามว่าว่างไหม มีคดีฟอกเงินของชื่อเราที่อยากขอใบบริสุทธิ์ แล้วเราได้ยินเสียง ผกก.ตอบว่าไม่ว่าง ตำรวจหญิงเลยบอกว่าโอเคงั้นเดี๋ยวพิมพ์ใบให้ ขอเดินกลับไปเข้าห้องแป๊บหนึ่งนะ (เอกการละครมากกก)

หลังจากนั้นตำรวจขอคุยกับเราผ่านไลน์ เพื่อจะ video call ยืนยันตัวตนเรา ตอนคุยคือตำรวจหญิง ก็คือใส่ชุดตำรวจ แล้วแบ็กกราวนด์โต๊ะทำงาน เอกสารทุกอย่าง พร็อพเหมือนสถานีตำรวจจริงมาก

พอวิดีโอเสร็จ นางก็คุยกับเราผ่านการโทร.ไลน์ แล้วส่งรูปที่จับกุมคนร้ายฟอกเงิน+ยาเสพติดได้ 4 คน แล้วหนึ่งในนั้นบอกว่ามีชื่อเราไปเปิดบัญชีปลอม พร้อมกับวงกลมรูป ผช.คนนั้นให้เราดู แล้วมีหัวโจกชื่อนที ปานทอง หลบหนีได้ ซึ่งตำรวจก็บอกว่าอย่าเพิ่งบอกใครนะ เพราะตอนนี้เรายังไม่ได้เปิดคดีให้คนอื่นรู้เพราะกลัวว่าคนร้ายจะหลบหนีได้

ไอ้เราก็เชื่อ เพราะมันเนียนมากจริงๆ จนถึงตอนนี้ก็ไม่เอะใจอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว แล้วตำรวจก็บอกว่า ตอนนี้เดี๋ยวตำรวจจะขอให้เราให้ความร่วมมือในการตรวจสอบบัญชี ให้เราบอกบัญชีที่เราใช้จริงไปทั้งหมด พร้อมยอดเงิน และรายการล่าสุด เลขบัญชี 4 ตัวสุดท้าย พร้อมสาขาที่เปิดบัญชี เพื่อยืนยันว่าบัญชีทั้งหมดของเราอันนี้เป็นบัญชีที่ไม่ได้เปิดเพื่อฟอกเงิน หลังจากนั้นตำรวจจะได้ไปตรวจสอบบัญชีที่เราไม่ได้แจ้ง

แล้วนางก็บอกว่า เดี๋ยว DSI จะขอตรวจบัญชีของเรา โดยที่ให้เราย้ายเงินมาไว้ที่บัญชีของทางฝั่งเขาก่อน ให้บัญชีเป็น 0 เพื่อเมกชัวร์ว่าเราบริสุทธิ์จริง และไม่มีเงินเข้าออกหลังจากนั้นแล้วจริงๆ

นี่ก็แบบ ความรู้สึกตอนนั้นมันมีแต่ความกลัวมากกว่าความระแวงอะ เพราะมันก็บอกว่า ถ้าเราไม่รีบดำเนินเรื่อง ชื่อเราจะเสียหาย คือนี่ก็แบบ แพลนว่าอยากไปเรียนที่ ญป.ก็ไม่อยากให้มีคดีอะไร ก็เลยเชื่อ 100% เราก็เลยโอนให้เขาทั้งหมดเลยที่เรามี จำนวนเงินทั้งหมด 340K บาท!!!

พอโอนเสร็จตำรวจก็บอกว่าจะขอตรวจสอบภายใน 1-3 ชม. หลังจากนั้นจะโอนเงินคืนให้ และขอทราบรุ่นโทรศัพท์เพื่อ track GPS และดักฟังเผื่อเราบอกข้อมูลของคนร้ายกับคนอื่น แล้วทำให้ตามจับยาก แล้วก็บอกว่า หลังจากวางสายให้เราส่งสติกเกอร์หาเขาเป็นระยะๆ เพื่อความปลอดภัย เราก็ตกลง

จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่เอะใจ เพราะจังหวะที่เราหายไม่ส่งสติกเกอร์ นางก็ทักมาหาเราว่ารอแป๊บหนึ่งนะ กำลังพิมพ์ใบอยู่ พอผ่านไป ชม.หนึ่ง เราเลยเริ่มรู้สึกแปลกๆ เลยลองหาในเน็ตเล่นๆ ดู สรุปมีคนเจอแบบเรา เป็นข่าวเยอะมาก!!

ตอนนั้นเลยเริ่มกลัว ทักไปหา และผ่านไปสอง ชม.ก็ยังตอบกลับมาว่า รอ ผกก.เคลียร์คดีอื่นอยู่ แล้วว่างจะรีบเซ็นให้ทันที ตอนนั้นเราแบบ ไม่ไหวแล้ว อยู่คนเดียวด้วยตอนนั้น โทร.ไปเล่าให้พี่ฟัง แต่ทุกอย่างมันก็ไม่ทันแล้วอะ โอนเงินไปแล้ว
คือเราเชื่อสนิทใจมากกกก เราแค่กลัวว่ามันจะกระทบกับงานเรามั้ย หรือประวัติเรารึเปล่าถ้าเราอยากไป ตปท. อะไรงี้ คือไม่นึกเลยว่ามันจะหลอกได้เนียนขนาดนี้จริงๆ คือฉันนึกว่าละครเวที มีหลายตัวละครเหลือเกิน ในหัวตอนรู้ตัวว่าโดนหลอกคือแบบ หนักอึ้ง แล้วก็คิดกับตัวเองตลอดว่า ทำไมวะ ทำไมๆๆๆ รู้งี้ตอนนั้นน่าจะเอะใจ หรือถ้าตอนนั้นใจเย็นลงกว่านี้ก็ดี แต่แบบ คิดแบบนี้ไปก็เท่านั้นจริงๆ เพราะเรื่องมันเกิดขึ้นมาแล้ว มันกลับไปแก้อะไรไม่ได้แล้ว ทุกคนรอบตัวก็บอกว่า เราไม่ผิดเลยเว้ย เราทำงานสุจริต เราไม่ได้โง่ แต่เป็นอิพวกมาหลอกคนอื่นต่างหากที่ควรโดนด่า

ล่าสุดตอนนี้เราแจ้งความแล้ว พร้อมอายัดบัญชีปลายทาง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะได้เงินคืนมั้ย เพราะคนโดนแบบเราก็เยอะ ตอนไปโรงพักตำรวจก็บอกว่ามีเคสแบบนี้มาเยอะมาก ส่วนใหญ่พอโอนไปมันก็เอาเงินเราออกและโอนไปบัญชี ตปท.ต่อ ซึ่งมันก็จะตามยาก...

แต่ประเด็นที่คิดคือ นี่เราไม่ใช่เคสแรกที่เจอแบบนี้นะ มันเกิดขึ้นหลายครั้งแล้ว แต่ทำไม? ทำไมยังจับตัวคนร้ายไม่ได้อีก?? ทุกครั้งที่เราหาข่าวอ่าน ก็จะเจอแบบนี้เยอะ แต่ไม่มีอันไหนบอก solution เลยว่าสุดท้ายเรื่องจบยังไง นี่มันเป็นปัญหาระดับชาติแล้วนะ จำนวนเงินก็ไม่ใช่น้อยๆ อยากฝากไว้ให้คิดค่ะ และหวังว่าเรื่องนี้ครั้งนี้อาจจะช่วยเตือนหลายๆ คนได้บ้าง บางคนที่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ แบบเรา TT ตอนนี้เราไม่รู้จะรู้สึกยังไง แต่ก็หวังแค่ว่าจะจับตัวเจ้าของบัญชีนี้ได้ ส่วนเงินก็อยากได้คืนอยู่แล้วแหละ เก็บมาทั้งชีวิต เฮ้อออออ"

อ่านโพสต์ต้นฉบับ


กำลังโหลดความคิดเห็น