กำแพงเพชร - ตำรวจเมืองกล้วยไข่ตามรวบคนรับจ้างเปิดบัญชีเงินฝากถึงบ้านเช่ากลางกรุง..รับเปิด 9 บัญชีแลกเงิน 9 พัน แต่อ้างไม่รู้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้หลอกเหยื่อสาวกำแพงเพชรโอนเงิน ด้านญาติผู้ต้องหามอบเงินคืนผู้เสียหาย บอกเห็นใจที่ถูกหลอก
วันนี้ (20 ม.ค. 65) พล.ต.ต.พิพัฒน์ ชุ่มมณีกูล ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร, พล.ต.ต.ฐิตวัฒน์ สุริยฉาย ผบก.สอท.4, พ.ต.อ.เอนก จันทร์ศร รอง ผบก.ภ.จว.กำแพงเพชร, พ.ต.อ.ธนัท แสงตันชัย ผกก.สภ.เมืองกำแพงเพชร พร้อมเจ้าหน้าที่เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นตำรวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ โทร.ข่มขู่-หลอกลวง น.ส.กนกกาญจน์ กิติวงศ์ อายุ 25 ปี ที่อยู่ 66/9 ต.ถ้ำกระต่ายทอง อ.พรานกระต่าย จ.กำแพงเพชร โอนเงินให้ 7,000 บาท
เจ้าหน้าที่สืบสวนแกะรอยจนจับกุมนางสาววาสนา ดำสมุทร อายุ 42 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดกำแพงเพชร ความผิดฐาน “ร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน, ร่วมกันฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นผู้อื่น” ได้ที่บ้านเช่าเลขที่ 157/87 หมู่บ้านพูลสินธานี 1 แขวงคลองสองต้นนุ่น เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ
เบื้องต้นผู้ต้องหาได้ให้สัมภาษณ์แก่ผู้สื่อข่าวว่าตนรับจ้างเปิดบัญชีจากคนรู้จัก โดยได้เงินบัญชีละ 1,000 บาท เป็นจำนวน 9 บัญชี โดยคนที่มาจ้างเปิดบัญชีแจ้งว่าจะนำไปเล่นเกมเท่านั้น ไม่ได้มีส่วนรู้เห็นในการนำบัญชีธนาคารดังกล่าวไปกระทำความผิดแต่อย่างใด และไม่ได้มีส่วนร่วมในขบวนการคอลเซ็นเตอร์ดังกล่าว ขณะที่ญาติของนางสาววาสนา ผู้ต้องหา ก็ได้นำเงินจำนวน 7,000 บาทคืนให้แก่ผู้เสียหายด้วย
ด้าน น.ส.กนกกาญจน์ กิติวงศ์ (ผู้เสียหาย) บอกว่าเดินทางมาเพื่อดูหน้าคนที่ตนได้โอนเงินเข้าบัญชีไป ซึ่งตนเองรู้สึกดีใจที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้อย่างรวดเร็วจนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้และจะได้สืบสาวไปถึงขบวนการนี้ต่อไป พร้อมทั้งฝากถึงประชาชนให้ระมัดระวังหากได้รับโทรศัพท์ให้ตั้งสติก่อนโอนเงิน จะได้ไม่ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพ
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ม.ค. 2565 เวลาประมาณ 09.00 น. ขณะ น.ส.กนกกาญจน์ ผู้เสียหาย ขณะอยู่ที่หอพัก ที่บริเวณ ถ.ประชาหรรษา ซ.18 ต.ในเมือง อ.เมืองกำแพงเพชร คนร้ายใช้โทรศัพท์ มีเสียงผู้หญิง บอกชื่อนางสาวมุขดา นิลสุวรรณ ถามผู้เสียหายว่า ได้ไปส่งพัสดุที่บริษัทขนส่ง สาขาเซ็นทรัล แอร์พอร์ต ปลายทางผู้รับ แอนนา หวัง กรุงปักกิ่ง ประเทศจีน หรือไม่ พร้อมอ้างว่าภายในกล่องพัสดุมีบัตรเอทีเอ็ม 12 ใบ หนังสือเดินทาง 7 เล่ม เสื้อผ้า 7 ชุด ซึ่งต้องสงสัยว่าจะใช้ในการกระทำความผิดกฎหมาย
ผู้เสียหายตอบไปว่าไม่ได้เป็นผู้ส่ง ปลายสาย (นางสาวมุขดา) จึงถามว่า สะดวกมาแจ้งความที่ สภ.เมืองเชียงใหม่หรือไม่ ผู้เสียหายบอกว่าไม่สะดวก ต้องทำงานทุกวัน นางสาวมุขดาก็ถามอีกว่า..จะให้โอนสายไปที่ สภ.เมืองเชียงใหม่หรือเปล่า ก่อนเพิ่มเพื่อนทางไลน์กับไลน์ชื่อ สภ.เมืองเชียงใหม่
เมื่อโทร.ทางไลน์ ได้มีชายไม่ทราบชื่อบอกเป็นร้อยเวร ผู้เสียหายพูดว่าจะขอแจ้งความ ชายดังกล่าวบอกว่าได้ทำบัตรหายรึเปล่า เคยสั่งของรึเปล่า ชายดังกล่าวก็บอกว่าขอหมายเลขบัตรประชาชนเพื่อตรวจสอบข้อมูล ต่อมาชายที่อ้างเป็นร้อยเวรแจ้งว่าผู้เสียหายพัวพันกับคดีฟอกเงินของนายสมศักดิ์ ศักดิ์ดี พร้อมส่งรูปให้ดูและบอกว่า..ผู้เสียหายขายเล่มสมุดบัญชีให้ชายดังกล่าวเล่มละ 12,000 บาท เพื่อเดินเงินเข้าบัญชี
จากนั้นได้ถามข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีธนาคารของผู้เสียหาย ผู้เสียหายบอกว่า มีเงินอยู่ในบัญชีจำนวน 7,783 บาท พร้อมทั้งให้ผู้เสียหายคุยกับสารวัตร ชื่อ “วัชธิดา กิ่งแก้ว สภ.เมืองเชียงใหม่” เสียงเป็นผู้หญิงพร้อมบอกว่า..พร้อมช่วย ต้องให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้าบัญชีส่วนกลางเพื่อตรวจสอบการเดินเงิน เลขบัญชี 117-3-640044 ธนาคารกสิกรไทย ชื่อนางสาววาสนา ดำสมุทร ผู้เสียหายหลงเชื่อ จึงได้โอนเงินผ่านแอปพลิชันไปเป็นจำนวน 7,000 บาท
ต่อมาชายที่แจ้งว่าเป็นร้อยเวรบอกว่าเงินไม่พอกับการตรวจสอบ ต้องการเงินเพิ่มอีก 50,000 บาท ผู้เสียหายหาเงินไม่ได้ จึงไปสอบถามญาติ และรู้ว่าตัวเองถูกหลอก จึงได้มาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองกำแพงเพชร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
หลังจากนั้นผู้เสียหายได้พยายามติดต่อกลับไลน์ สภ.เมืองเชียงใหม่ ชายดังกล่าวซึ่งแจ้งว่าเป็นร้อยเวร โทรศัพท์ทางไลน์ มาบอกเตือนภัยว่า..ทีหลังอย่ารับเบอร์แปลก ..พี่เป็นมิตรนะ ผู้เสียหายถามว่ามิตรอะไร ชายดังกล่าวบอกว่า..มิจฉาชีพ แล้วก็ตัดสายไป
