สามนิ้วสอนเด็กก้าวไกลกลับไปเรียน ป.ตรีให้จบ หลังสอบตกเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร

โซเชียลฯ ลุกเป็นไฟ "กาณฑ์ ศศิพัฒน์" ระบุ ชาวชุมพรคิดถูกแล้วที่กาพรรคประชาธิปัตย์ ถามพรรคก้าวไกลเอาคนไม่มีการศึกษามาลง ส.ส.ได้อย่างไร ย้ำคนใต้ไม่ใช่คนโง่ ถ้าเข้าถึงหัวใจประชาชนไม่ได้ไปทำอย่างอื่นเถอะ กองหนุนยอมกลืนเลือดขนาดไหน ด้านเด็กก้าวไกลโต้ไม่ควรดูถูกเรื่องการศึกษา ฟาดมาฟาดกลับ นี่การเมืองระดับชาติ มีปัญญาลง ส.ส. แต่ไม่มีปัญญาจบปริญญาตรีใบเดียว

วันนี้ (18 ม.ค.) เฟซบุ๊ก Karn Sasiphat Pongpraphapan ของนายศศิพัฒน์ พงษ์ประภาพันธ์ หรือ กาณฑ์ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง แนวร่วมกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า คณะราษฎร 2563 หรือม็อบสามนิ้ว โพสต์ข้อความหลังการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพร เขต 1 ที่พรรคก้าวไกลส่งนายวรพล อนันตศักดิ์ อายุ 25 ปี พนักงานส่งอาหาร (ไรเดอร์) ลงสมัครรับเลือกตั้ง และได้คะแนนเพียง 3,582 คะแนน

กาณฑ์ ศศิพัฒน์ ระบุว่า "ชาวชุมพรคิดถูกแล้วค่ะที่กาพรรคประชาธิปัตย์ ขอถามคำเดียวนะคะ ถ้ามีคนแบบนี้มาเป็นผู้สมัครเขตบ้านคุณ คุณกาไหมคะ สมมติถ้ามีผู้สมัครแบบนี้จากพรรคเพื่อไทย ประชาชนจะรุมสาปพรรคทันที พรรคก้าวไกลเอาเด็กกเฬวรากมาลง ส.ส.ได้อย่างไร? เอาคนไม่มีการศึกษา ไม่มีงานมีการทำ มาเป็นตัวแทนประชาชน พรรคก้าวไกล - Move Forward Party คุณดูถูกประชาชนมากๆ เลยนะ

คนใต้เป็นคนเ...ยมั้ย? ไม่รู้... แต่ที่รู้แน่ๆ คนใต้ไม่ใช่คนโง่ ไม่ต้องมาวิเคราะห์โครงสร้างเศรษฐกิจห่...เหวไรหรอก นายกฯ จะเป็นใคร มีนโยบายอะไร การเมืองในสภาฯ จะเป็นอย่างไร อยากทำการเมือง ลองเดินไปถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ ดูแลเอาใจใส่ เข้าถึงหัวใจประชาชนหรือยัง แค่นี้ทำไม่ได้ ก็ไปทำอย่างอื่นที่เป็นประโยชน์แทนเถอะ ได้มา 3,520 คะแนนก็มากเกินไปแล้วนะ คนชุมพรที่กาเขาต้องกลืนเลือด ยอมโดนล้อขนาดไหน ที่เอาเด็กเมื่อวานซืนมาเป็นตัวแทนเขาน่ะ ก่อนอยากจะปฏิรูปอะไร กลับไปเรียนหนังสือให้จบปริญญาซะก่อนนะน้องนะ"

อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่

ด้านเฟซบุ๊ก "วัน อยู่บำรุง" นายวัน อยู่บำรุง ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความระบุว่า "อุ๊ย" กาณฑ์ ศศิพัฒน์ จึงตอบกลับว่า "เพื่อไทยน่าส่งเล่นๆ นะพี่ อยากรู้ จะได้เท่าไหร่"

ขณะที่เฟซบุ๊ก "Nutchanon Payakaphan" ของนายณัฐชนน พยัฆพันธ์ แกนนำเครือข่ายเยาวชนภาคตะวันออกเพื่อประชาธิปไตย คนใกล้ชิดนายภาณุพงศ์ จาดนอก หรือไมค์ โพสต์ข้อความระบุว่า "เห็นด้วย"

ส่วนเฟซบุ๊ก "พรหมศร วีระธรรมจารี" ของ ฟ้า-พรหมศร วีระธรรมจารี นักธุรกิจ และแกนนำกลุ่มราษฎรมูเตลู โพสต์ข้อความระบุว่า "กปปส. = กูเปลี่ยนเป็นส้ม" ทำให้ กาณฑ์ ศศิพัฒน์ กล่าวว่า "ไม่ไหว" และกล่าวอีกว่า "คือในพรรคคงไม่เหลือใครแล้วอะ มีแต่..."

แต่เฟซบุ๊ก "Pratchaya Booranaisisak" ของนายปรัชญา บูรณศิริศักดิ์ ผู้ช่วย ส.ส.นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กทม.พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความระบุว่า "เอาจริงคุณไม่ควรดูถูกเรื่องการศึกษาหรอกนะครับ คนเราโอกาสพื้นฐานครอบครัวไม่เหมือนกัน" ทำให้ กาณฑ์ ศศิพัฒน์ กล่าวว่า "มันสมควรไหมครับ เรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไม่ได้ ก็ไม่ต้องสะเออะมาเป็น ส.ส.ครับ ส.ส. ปริญญาตรีควรเรียนให้จบครับ เด็กบางคน ทำงานไปด้วย เรียนไปด้วย จบมามีงานทำหาเลี้ยงครอบครัวได้เยอะแยะ โดยไม่ต้องอ้างพื้นฐานครอบครัว ยิ่งพื้นฐานครอบครัวแย่ ต้องยิ่งมานะบากบั่นเรียนให้จบ"

และยังกล่าวเพิ่มเติมว่า "แล้วเพื่อนคุณ ลงกำนัน ผู้ใหญ่บ้านหรือเปล่าล่ะครับ นี่มันการเมืองระดับชาตินะ มีปัญญาลง ส.ส. แต่ไม่มีปัญญาจบปริญญาตรีใบเดียว ผมในฐานะประชาชน ทำไมถึงไม่มีสิทธิไปวิจารณ์เขาครับ นักการเมืองเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องได้รับการวิพากษ์วิจารณ์จากเสียงประชาชน เรื่องการศึกษาเป็นเรื่องสำคัญ จะเป็น ส.ส. อยากแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง แค่ปริญญา 1 ใบตัวเองยังไม่มีปัญญาเรียนให้จบ นี่คือความรับผิดชอบพื้นฐาน เรื่องของตัวเองยังเอาไม่รอด จะสาระแนมาแก้ไขปัญหาประเทศเหรอครับ แค่นี้รับไม่ได้ ก็กลับไปเลี้ยงควายที่บ้านครับ มติกรรมการบริหารพรรคคุณมันมีปัญหาเอง พรรคอื่นเขาไม่มีปัญหาแบบนี้ สมควรแล้วที่แพ้เลือกตั้ง"

อีกข้อความหนึ่งระบุว่า "ผมไม่จำเป็นต้องลดตัวไปประชุมกับพรรคคุณ ส่วนไหนคือการบูลลี่ ผมไปเหยียดรูปร่างหน้าตา สรีระร่างกายส่วนไหนของเพื่อนคุณไม่ทราบ?" และกล่าวว่า "มันเป็นการจินตนาการในความคิดของคุณไปเองที่มากล่าวหาว่าผมบูลลี่ เอาเวลากลับไปเรียนออนไลน์ต่อเถอะ"

สำหรับนายวรพล อนันตศักดิ์ อายุ 25 ปี วุฒิการศึกษาสูงสุด มัธยมศึกษาตอนปลาย อาชีพสุดท้ายก่อนสมัครรับเลือกตั้ง อาชีพอิสระ ซึ่งนายวรพล หรือ โอ๊ต เป็นชาวบ้านหมู่ 3 ต.นาสัก อ.สวี จ.ชุมพร ประกอบอาชีพไรเดอร์ หรือพนักงานส่งอาหาร ของบริษัทไลน์แมน เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสร้างเครือข่ายพรรคอนาคตใหม่ในจังหวัดชุมพร และเคยเป็นผู้ช่วยของนายเสริฐพงษ์ ศรนุวัตร์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล

ที่ผ่านมา นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้นำนายสมชาย ฝั่งชลจิตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนภาคใต้, นายสุเทพ อู่อ้น ส.ส.บัญชีรายชื่อ กรรมการบริหารพรรค สัดส่วนแรงงาน, น.ส.สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.จังหวัดนครปฐม และโฆษกพรรค และนายองค์การ ชัยบุตร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลงพื้นที่หาเสียงช่วยนายวรพล กระทั่งนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ขึ้นรถแห่หาเสียงรอบตัวเมืองชุมพรเพื่อแนะนำนายวรพล

นายวรพลกล่าวกับมติชนออนไลน์ว่า เริ่มต้นทำงานการเมืองตั้งแต่เริ่มมีการตั้งพรรคอนาคตใหม่ แม้ว่าในสมัยอายุประมาณ 18 ปี เป็นนักเรียนมัธยมปลายโรงเรียนสวีวิทยา อ.สวี จ.ชุมพร จะเคยเข้าร่วมกับกลุ่ม กปปส.ชุมพรก็ตาม เพราะตอนนั้นเป็นลักษณะเฮตามเพื่อนและครูไปเท่านั้น ขณะนี้กำลังศึกษาระดับปริญญาตรี คณะรัฐศาสตร์ เอกการปกครอง เพิ่งเข้าเรียนปีแรก เนื่องจากต้องพักไปเป็นทหารเกณฑ์อยู่ 1 ปี พอปลดประจำการก็เข้าทำงานกับพรรคอนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล

อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ในโลกโซเชียลฯ ได้นำข้อความจากทวิตเตอร์ของนายวรพล ที่โพสต์เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 2563 กล่าวพาดพิงถึงสถาบันพระมหากษัตริย์มาโจมตี ทำให้นายวรพลได้เข้าลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สภ.เมืองชุมพร ให้ดำเนินคดีต่อผู้ที่เผยแพร่ข้อความในข้อหาหมิ่นประมาท และเตือนไปยังสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง และเพจเฟซบุ๊กหลายเพจนำสื่อและรูปภาพของตนไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาต ว่าไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนนำภาพและสื่อของตนไปใช้ และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

ก่อนการเลือกตั้งประมาณ 2 วัน ได้ปรากฏคลิปแม่ค้ารายหนึ่งในตลาดสดที่จังหวัดชุมพร กล่าวต่อว่านายวรพลระหว่างเดินเข้ามาหาเสียงในตลาด ว่าทำไมถึงไปชูสามนิ้วต่อต้านสถาบันพระมหากษัตริย์ ว่าร้ายต่างๆ นานา ไปจาบจ้วงด่าพ่อแม่พระองค์ท่าน ด่าท่าน ด่าราชวงศ์หมด ซึ่งไม่ถูกต้อง ถ้าใครมาด่าพ่อแม่เราจะเจ็บปวดขนาดไหน พระองค์ท่านโต้ตอบไม่ได้ ถูกเด็กเมื่อวานซืนด่าพ่อด่าแม่ ถ้ามีคนมาด่าพ่อแม่เธอจะเจ็บปวดไหม แล้วไปเข้าร่วมได้ยังไง ต้องช่วยมาปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์สิ

หลังการเลือกตั้ง นายวรพลโพสต์ข้อความในทวิตเตอร์ ระบุว่า "เลือกตั้งครั้งนี้ผมพยายามที่สุดแล้วครับ แต่เราไม่อาจเปลี่ยนจังหวัดแห่งนี้ได้จริงๆ จากที่ลงพื้นที่ เสียงเดียวที่ได้ยิน คืออยากเปลี่ยน แต่พอผลคะแนนออกมา ก็เหมือนเดิม สุดท้ายนี้ผมก็ขอยินดีกับสิ่งที่ทุกท่านเลือก ขอบคุณครับ"