“ปริญญ์” ค้านเก็บภาษีคริปโต ชี้ ไม่ช่วยรายได้เข้ารัฐ เพราะนักลงทุนหนีไปซื้อต่างประเทศ แนะต้องเปิดโอกาสพัฒนาอุตสาหกรรมการเงินยุคใหม่ให้เกิดขึ้นก่อน
วันที่ 11 ม.ค. 2564 นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมสนทนาในรายการ “คนเคาะข่าว” ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม ช่อง “นิวส์วัน” ในหัวข้อ “ภาษีคริปโต ใครได้-ใครเสีย?”
โดย นายปริญญ์ กล่าวว่า ควรยกเว้นการจัดเก็บภาษีคริปโต เท่านั้นไม่พอ ต้องหาช่องทางในการออกกฎหมายเพื่อลดหย่อนภาษีให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมการเงินยุคใหม่ด้วย เป้าหมายใหญ่เราต้องมองให้ดี ในอนาคตเศรษฐกิจยุคใหม่จะถูกขับเคลื่อนโดยอะไรบ้าง ไทยสามารถเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจยุคใหม่ โดยมีการเงินยุคใหม่เป็นตัวขับเคลื่อน
ในมิติการเงินยุคใหม่ เราเห็นอุตสาหกรรมบล็อกเชน ซึ่งเป็นหลังบ้านของคริปโต บล็อกเชนมีประโยชน์มหาศาลในหลายด้าน สำหรับด้านธุรกิจทางการเงิน มันทำให้คนตัวเล็กๆ เอสเอ็มอี สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนที่ถูกและเป็นธรรมได้
นวัตกรรมมักไม่ได้เกิดจากบริษัทยักษ์ใหญ่ แต่เกิดจากสตาร์ทอัป หรือเอสเอ็มอี ซึ่งมีความคล่องตัวทางธุรกิจ พวกนี้มีไอเดียดีแต่ทุนไม่พอ สถานการณ์บ้านเราจะไปกู้แบงก์ขอสินเชื่อก็ยากลำบาก ช่องทางที่เขาสามารถระดมทุนผ่านช่องทางดิจิทัล ก็คือ ตัว ICO (Initial Coin Offering) หรือ STO (Securities Token Offering) ซึ่งออกผ่านแพลตฟอร์มในตลาดสินทรัพย์ดิจิทัลที่เป็นรูปแบบเหรียญดิจิทัล ซึ่งก็มีหลายบริษัทเริ่มทำแล้ว เราต้องให้โอกาสคนตัวเล็กในการระดมทุนด้วย
นายปริญญ์ กล่าวอีกว่า พอเก็บภาษี แทนที่จะได้รายได้เข้ารัฐ แต่กลายเป็นว่า เงินไหลออกนอกประเทศ นักลงทุนมีตัวเลือก การขับเคลื่อนยุคใหม่เราไม่ได้ทำคนเดียว ต้องดูกฎเกณฑ์ประเทศอื่นด้วย ถ้าทำอะไรมากเกินกว่าประเทศอื่น นักลงทุนก็ไปซื้อกระดานต่างประเทศ หรือผู้ประกอบการยุคใหม่ระดมทุนในไทยเสียภาษี ก็ไประดมต่างประเทศ เกิดสมองไหลอีก
ส่วนที่มองว่าคริปโตเป็นเครื่องมือในการฟอกเงิน จริงๆ แล้วในระยะใกล้เรากำลังจะมีดิจิทัลบาท แบงก์ชาติกำลังมีโปรเจกต์ แล้วการฟอกเงินมีหมดทั้งเงินสด ที่ดิน หุ้น แล้วเงินสดหลบเลี่ยงง่ายกว่าดิจิทัลด้วยซ้ำไป
ตนไมได้ขัดหากต้องเสียภาษีในอนาคต แต่ก่อนเสียภาษี ควรต้องมีโอกาสที่ให้พัฒนาอุตสาหกรรมการเงินยุคใหม่ให้เกิดขึ้นก่อน