xs
xsm
sm
md
lg

#MGRTOP7 : ใหญ่กระโทกกระทำชำเรา | โอมิครอนเถลิงศกใหม่ | หมูแพงแบบไม่มีอะไรกั้น

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7

(สรุปข่าวประจำวันที่ 1 - 8 ม.ค. 2565)


อันดับ 1 - ใหญ่กระโทกกระทำชำเรา หน.รปภ.หื่นข่มขืนลูกบ้าน หนำซ้ำนิติฯ ขัดขวาง คอนโดดังเดอะพาร์คแลนด์ บางแค

เรื่องสะเทือนสังคมชาวคอนโดฯ โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่อยู่ตามลำพังไม่ปลอดภัยเสียแล้ว เมื่อเที่ยงคืนเศษวันที่ 4 ม.ค. ที่คอนโดมิเนียม เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม บางแค แขวงและเขตบางแค กรุงเทพฯ นายมนตรี ใหญ่กระโทก อายุ 41 ปี หัวหน้า รปภ. ใช้ช่วงเวลาหลังให้ช่างกุญแจแก้ไขประตูห้องแล้วเสร็จ ย้อนกลับมาที่ห้องก่อนใส่กุญแจมือข่มขืนกระทำชำเราเหยื่อจนสำเร็จความใคร่ เมื่อจะข่มขืนอีกรอบหญิงคนดังกล่าววิ่งลงไปโทรศัพท์ 191 ขอความช่วยเหลือจากตำรวจ แต่ฝ่ายนิติบุคคลอาคารชุดและ รปภ. กลับขัดขวางไม่ยอมให้ขึ้นไป ส่วนนายมนตรีนำกุญแจมือไปทิ้งแล้วหลบหนีอย่างลอยนวล

จากการตรวจสอบประวัตินายมนตรี พบว่าเคยต้องคดีข่มขืนกระทำชำเราเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 15 ปีที่ จ.สระแก้ว เมื่อปี 2556 เพิ่งพ้นโทษเมื่อปี 2560 สมัครงานกับบริษัทรักษาความปลอดภัย การ์ดเดอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด เมื่อปี 2563 แล้วมาก่อเหตุอีกครั้ง ตำรวจออกไล่ล่า พบนายมนตรีหนีกลับบ้านเกิดที่ อ.วังน้ำเย็น จ.สระแก้ว โดยหลบซ่อนในป่า ตำรวจจึงให้แม่ผู้ต้องหา ช่วยโทรศัพท์เกลี้ยกล่อม กระทั่งนายมนตรีเข้ามอบตัว ให้การรับสารภาพ อ้างทำไปเพราะอาการเมายาเสพติด ตำรวจฝากขังต่อศาลอาญาธนบุรี ใน 2 ข้อหา คือ ข่มขืนกระทำชำเรา และบุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล ก่อนส่งตัวคุมขังเรือนจำพิเศษธนบุรี


อันดับ 2 - โอมิครอนเถลิงศกใหม่ ชลบุรี-อุบลราชธานียอดพุ่ง ธนาธร-ลำไย ไหทองคำติดโควิด ศบค.ปรับ 69 จังหวัดสีส้ม

เข้าสู่ศักราชใหม่ 2565 สถานการณ์โควิด-19 กลับมารุนแรงอีกครั้งหลังสายพันธฺุ์โอไมครอนแพร่ระบาด อีกทั้งการผ่อนคลายมาตรการให้ประชาชนกลับภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลปีใหม่ ปรากฎว่าเริ่มต้นที่ จ.ชลบุรี ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่แซงหน้ากรุงเทพฯ ส่วนภาคอีสานหลังจากคลัสเตอร์กาฬสินธฺุ์เกิดขึ้นก่อนปีใหม่ ปรากฎว่าที่ จ.อุบลราชธานี เกิดคลัสเตอร์จากร้านอาหารกึ่งผับบาร์ที่ชื่อว่า เอกมัย 487 ที่เคยแพร่เชื้อสายพันธุ์เดลตามาก่อน พอกลับมาเปิดใหม่กลายเป็นแหล่งแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง 22 อำเภอ ต้องกลับมาเปิดโรงพยาบาลสนาม สั่งงดการเรียนการสอนแบบออนไซต์ 14 วัน ปิดลานกีฬาและโรงภาพยนตร์

ขณะที่กระทรวงสาธารณสุขประกาศยกระดับเตือนภัยจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ตามมาด้วยที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) แต่ปรับพื้นที่สีส้มจาก 39 จังหวัด เป็น 69 จังหวัด ห้ามจัดกิจกรรมมากกว่า 500 คน ห้ามดื่มสุราในร้านอาหาร ส่วนพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว 8 จังหวัด ดื่มสุราในร้านอาหารได้ไม่เกิน 3 ทุ่ม พร้อมและระงับการเข้าประเทศแบบเทสต์แอนด์โกออกไปก่อน ส่วนคนดังติดโควิดรอบนี้มีทั้ง ลำไย ไหทองคำ, แจม เนโกะจัมพ์, อองตวน ปินโต, มิกค์ ทองระย้า, ยุ้ย-จีรนันท์ มะโนแจ่ม, อะตอม ชนกันต์, นักแสดงสังกัด GMMTV ส่วนหนึ่ง รวมทั้งนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า


อันดับ 3 - หมูแพงแบบไม่มีอะไรกั้น เมนูพุ่งกระฉูด 5-10 บาท รัฐบาลสั่งห้ามส่งออก-จัดอีเวนต์หมูถูก ส.ส.แนะเปลี่ยนไปกินไก่

นับตั้งแต่ปลายเดือน ธ.ค. 2563 ถึงปัจจุบันพบว่าราคาเนื้อหมูต่อกิโลกรัมปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจากเว็บไซต์ kasetprice.com ในรอบ 15 วันที่ผ่านมา พบว่าหมูเนื้อแดงจาก 140 บาท เพิ่มเป็น 190 บาท สันนอกจาก 167.50 บาท เพิ่มเป็น 202.50 บาท หมูบดจาก 100-120 บาท เพิ่มเป็น 150 บาท ส่งผลทำให้ราคาอาหาร เมนูเนื้อหมูปรับขึ้นเมนูละ 5-10 บาท ประชาชนเดือดร้อนซ้ำเติมเศรษฐกิจตกต่ำจากโควิด-19 สาเหตุสำคัญมาจากโรคระบาดในสุกร ทำให้แม่พันธฺุ์และหมูขุนหายไปจากห่วงโซ่การผลิต อีกทั้งต้นทุนค่าเลี้ยงที่สูงขึ้น ผู้เลี้ยงรายย่อยไม่ได้รับความช่วยเหลือ ต้องปิดฟาร์มเหลือแต่ฟาร์มใหญ่ๆ

ด้านรัฐบาลทำได้แค่ห้ามส่งออกหมู และกำหนดให้ผู้เลี้ยงต้องแจ้งปริมาณ ราคา สถานที่เก็บและจัดทำบัญชีสินค้าและเนื้อหมูต่อสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ส่วนกระทรวงพาณิชย์ใช้วิธีจัดอีเวนต์โครงการพาณิชย์ลดราคาหมูช่วยประชาชน จำหน่ายหมูเนื้อแดงในราคา 150 บาท ทั้งหมด 667 หน่วยบริการ ขณะที่นักการเมืองอย่างนายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคพลังประชารัฐ เสนอเสนอแนวคิดถ้าหมูราคาแพง ก็เปลี่ยนไปกินไก่แทน เช่นเดียวกับนายสมบูรณ์ วัชรพงษ์พันธ์ นายกสมาคมผู้เลี้ยงไก่เนื้อ สนับสนุนแนวคิดนี้ จะได้ช่วยเหลือเกษตรกรผู้เลี้ยงไก่เนื้อ และเป็นโปรตีนที่มีประโยชน์ ย่อยง่าย หาซื้อได้ทั่วไป


อันดับ 4 - ทักษิณลั่นปี 65 อวยพรให้ได้กลับไทย พัลลภแฉถูกลบชื่อเพื่อไทย หมอชลน่านเคลียร์วุ่นอ้างมาตรการโควิด-19

ประเด็นร้อนการเมืองสัปดาห์นี้ กรณีที่ พล.อ.พัลลภ ปิ่นมณี อดีตนายทหารยังเติร์ก จปร.รุ่น 7 ออกมาแฉว่าถูกปลดออกจากพรรคเพื่อไทยโดยไม่รู้ตัว และไม่มีการแจ้งล่วงหน้ามาก่อน มารู้ที่หลังช่วงที่พรรคเพื่อไทยจัดประชุมใหญ่สามัญประจำปี ที่ จ.ขอนแก่น เมื่อ 28 ต.ค. 2564 ถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าร่วมประชุม เพราะถูกลบชื่อไปแล้ว เมื่อคาดคั้นไปยัง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กลับบอกว่า "ทักษิณให้ปลดออก" หมายถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อนถึง นพ.ชลน่านต้องบอกว่าที่ไม่ได้เชิญเพราะมาตรการโควิด-19 ยืนยันว่า พล.อ.พัลลภ ยังเป็นสมาชิกพรรค เพราะจ่ายค่าสมาชิกตลอดชีพ

อีกด้านหนึ่ง นายทักษิณจัดรายการเมื่อวันที่ 4 ม.ค. ระบุว่า ปี 2565 อวยพรให้ตนได้กลับบ้าน ส่วนคนที่ด่าไม่ต้องห่วง จะกลับไปอย่างสันติ ส่วนจะกลับเมื่อไหร่ จะกระซิบบอกอุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร คนเดียว เรื่องนี้แม้จะฮือฮาแต่พบว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่นายทักษิณกล่าวว่าจะกลับบ้าน แต่สุดท้ายไม่ได้กลับเพราะนายทักษิณหนีคดีทุจริต แม้คดีที่ดินรัชดาฯ ศาลสั่งจำคุก 2 ปี หมดอายุความแล้ว แต่ก็มีคดีอื่น เช่น หวยบนดิน จำคุก 2 ปี คดีเอ็กซิมแบงก์ปล่อยกู้รัฐบาลพม่า จำคุก 3 ปี คดีแก้ไขสัมปทานมือถือ จำคุก 5 ปี ทั้งหมดไม่รอลงอาญา และยังมีคดีคดีทุจริตการระบายข้าว กับการจัดซื้อเครื่องบินการบินไทย ในชั้่น ป.ป.ช.


อันดับ 5 - จุดจบทหารกร่าง ปลดฟ้าผ่า "อลงกรณ์ ปลอดดี" ออกจากราชการ ประพฤติชั่วร้ายแรงเมากร่างแอบอ้างเบื้องสูง

จุดจบของทหารกร่างรายนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ม.ค. พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ออกคำสั่งปลด น.อ.อลงกรณ์ ปลอดดี อายุ 52 ปี ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ ออกจากราชการ เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหาร ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ด้านศาลทหารมณฑลทหารบกที่ 14 ออกหมายจับ น.อ.อลงกรณ์ 4 ข้อหา ได้แก่ ดูหมิ่นเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ หมิ่นประมาทเจ้าพนักงานขณะปฏิบัติหน้าที่ ต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติหน้าที่ และ ข่มขืนใจเจ้าพนักงานให้ปฏิบัติการอันมิชอบด้วยหน้าที่ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ โดยเจ้าตัวได้เข้ามอบตัวแล้ว

สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2564 น.อ.อลงกรณ์ ไปหาเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างตรวจตราร้านอาหารโกดัง 168 โดยใช้ถ้อยคำที่หยาบคายและขว้างแก้วใส่ พร้อมอ้างชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วย ผบ.ตร. และขู่ว่าจะย้ายทั้งโรงพัก ต่อมามีคลิป น.อ.อลงกรณ์ อวดเบ่งกินฟรีที่สถานบันเทิงย่านเอกมัย กรุงเทพฯ โดยแอบอ้างเบื้องสูง ทำให้สารวัตรทหารต้องนำตัว น.อ.อลงกรณ์เข้ารับการธำรงวินัย ขณะที่ พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ และ พล.ร.ท.นฤพล เกิดนาค ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ เข้ารับการธำรงวินัย เพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว


อันดับ 6 - รีวิวคะแนนต่ำโดนฟ้อง 3 ล้าน โรงแรมเขาใหญ่ยื่นโนติส ขู่ให้ลบรีวิวอโกด้า ทนายตั้มย้ำถ้าสุจริตใจอย่าไปกลัว

กรณีพิพาทระหว่างโรงแรมกับลูกค้าเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 7 ม.ค. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด ทนายความชื่อดัง เปิดเผยว่า มีลูกค้าจองโรงแรมแห่งหนึ่งที่เขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ผ่านแพลตฟอร์มอโกดา หลังเข้าพักไปแล้วได้รีวิวโดยให้ 6 คะแนน ระบุถึงข้อบพกร่องต่างๆ ถูกทางโรงแรมโทรศัพท์ข่มขู่ ให้ทนายความส่งหนังสือให้ลบรีวิวในเว็บไซต์อโกดา เมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ทันที หลังลูกค้ารีวิวให้แค่ 6 คะแนน ระบุว่าคุณภาพไม่สมกับราคา โดยขู่ว่าหากไม่ลบจะเรียกค่าเสียหายวันละ 50,000 บาท และจะให้ชดใช้ค่าเสียหาย 3,000,000 บาทภายใน 15 วัน พร้อมกับให้ลงโฆษณาขอโทษในหนังสือพิมพ์ 7 วันติดต่อกัน

ผู้เสียหายได้เข้าปรึกษากับนายษิทรา ถามว่ารีวิวไปตามความจริงแล้วผิดด้วยเหรอ อโกดาต้องตอบ ทำไมเจ้าของโรงแรมถึงรู้ว่าใครที่รีวิว เพราะชื่อที่ล็อกอินก็ไม่ได้ระบุว่าเป็นใคร แถมไปพักโรงแรมนี้สักพักแล้วด้วย ต่อมานายษิทราให้สัมภาษณ์สื่อ ระบุว่า การใช้บริการโรงแรมหรือบริการที่เปิดให้รีวิว ถ้าแสดงความคิดเห็นหรือรีวิวโดยสุจริต ไม่ได้กลั่นแกล้ง บริการไม่ดีจะให้คะแนนเท่าไหร่ ถือเป็นสิทธิ์ที่สามารถทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย หากถูกข่มขู่มีสิทธิฟ้องกลับได้ ตอนนี้ได้รับแต่ยื่นโนติสมา ถ้ามีการฟ้องกันจริงก็จะช่วยเรื่องคดี เพราะถ้าโดนฟ้องมาจริงๆ ไม่ต้องเสียเงิน 3 ล้าน และอาจจะดำเนินคดีกลับได้ด้วย


อันดับ 7 - ดรามาสะปัน "กาแฟกระจอกผมไม่ขาย" แก้วละ 300 แพงสุด 900 พบคุณภาพไม่ถึง ชาวเน็ตขุดลึกชอบอวดรวย

ดรามากาแฟราคาแพงเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ม.ค. เมื่อกลุ่มเฟซบุ๊ก “หลงรักน่าน” มีสมาชิกรายหนึ่งโพสต์ข้อความวิจารณ์การท่องเที่ยวในหมู่บ้านสะปัน อ.บ่อเกลือ จ.น่าน หนึ่งในนั้นมีรถขายกาแฟจอดอยู่หนึ่งคัน ราคาแก้วละ 150-300 บาท พอไปถามว่าไม่มีราคาแบบร้านคาเฟ่อเมซอนบ้างเหรอ คนขายตอบแบบหัวเสียว่า "กาแฟกระจอกผมไม่ขาย" เรียกเสียงฮือฮาจากชาวโซเชียลฯ พอสมควร ด้านที่ชมรมกาแฟพิเศษน่าน NAN NEW WAVE ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า บุคคลดังกล่าวไม่ใช่คนในพื้นที่และไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ กับวงการกาแฟน่าน พร้อมจะร้องทุกข์กับ สคบ. เพื่อไม่ให้เสียภาพลักษณ์และชื่อเสียงกาแฟน่าน

ต่อมาคนขายกาแฟอ้างว่าเป็นเรื่องปกติมาก ไม่ได้โกรธ เข้าใจว่าไม่มีตังค์จ่ายแน่ ถ้าคิดว่าถูกกว่าก็ไปทำ ไม่ใช่โพสต์ด่าชาวบ้าน ส่วนที่จะฟ้องนั้นไม่จำเป็นเพราะไร้สาระ ถ้ารู้สึกว่าอยากอยู่สบายอย่ามาเที่ยว ให้อยู่บ้าน ขณะที่ชมรมกาแฟพิเศษน่าน ลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่าราคาสูงสุด 900 บาท เป็นกาแฟอาราบิกาคั่วกลางอ่อน คุณภาพโดยรวมประเมินว่ายังไม่ถึงราคา 900 บาท และตอบไม่ได้ว่าสายพันธุ์อะไร อย่างไรก็ตาม พบว่ามีชาวเน็ตขุดประวัติชายคนดังกล่าวว่า มีพฤติกรรมชอบไปร้านกาแฟในจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อแจกนามบัตร ชวนคุย ถามเรื่องส่วนตัว แต่พบว่าต้องการตีสนิทเพื่อหาผลประโยชน์จนเสียหายมาแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น