ปลัดกระทรวงกลาโหม รับคำสั่ง รมว.กลาโหม ลงนามปลด "อลงกรณ์ ปลอดดี" ทหารเรือกร่างออกจากราชการ ฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง เหลือเป็นนายทหารกองหนุน ไม่มีเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ
วันนี้ (7 ม.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม ได้ลงนามในคำสั่งกระทรวงกลาโหม ที่ 14/2565 เรื่อง ให้ปลดนายทหารสัญญาบัตรออกจากราชการ
ระบุว่า อาศัยอำนาจตามข้อบังคับกระทรวงกลาโหม (กห.) ว่าด้วยการบรรจุ ปลด ย้าย เลื่อนและลดตำแหน่งข้าราชการกลาโหม พ.ศ.2502 หมวด 1 ข้อ 4 (2) และข้อบังคับทหาร ที่ 11/16536 ลง 14 พ.ย. 2482 ว่าด้วยการแบ่งประเภท นายทหารสัญญาบัตร มาตรา 4 ข้อ 2 และข้อ 12 กับคำสั่ง กห.(เฉพาะ) ที่ 281/60 ลงวันที่ 27 พ.ค. 60 เรื่อง มอบอำนาจให้ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศ ทำการแทนและสั่งการในนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ผนวก ก ข้อ 1.43
ฉะนั้น จึงให้ปลด น.อ.อลงกรณ์ ปลอดดี ร.น. หมายเลขประจำตัว 1325801253 (พรรค นว.) ประจำ ฐท.สส. ออกจากราชการ เป็น นายทหารกองหนุน ไม่มีเบี้ยหวัด บำเหน็จบำนาญ สังกัดกรมกำลังพลทหารเรือ (กพ.ทร.) เนื่องจากกระทำผิดวินัยทหารฐานประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้ สั่ง ณ วันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2565 รับคำสั่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
กรณีดังกล่าว สืบเนื่องจากโลกโซเชียลฯ มีการแชร์คลิปชายรายหนึ่ง ทราบชื่อคือ น.อ.อลงกรณ์ ปลอดดี อายุ 52 ปี ผู้อำนวยการกองอสังหาริมทรัพย์ ฐานทัพเรือสัตหีบ เข้ามาหาเรื่องเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ออกตรวจป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดฝ่าฝืนคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี โดยใช้ถ้อยคำที่หยาบคายและขว้างแก้วใส่ พร้อมอ้างชื่อ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ อ้างว่ามีเพื่อนเป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 47 ขู่ว่าจะย้ายทั้งโรงพัก และอ้างว่าตนเองจบหลักสูตรนาวีซีลอเมริกาด้วย เหตุเกิดที่ร้านอาหาร โกดัง 168 พิกัดแยกปลาหมึก ทางเข้าตลาดสัตหีบ หมู่ 4 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 21.00 น.
ต่อมายังมีวีดีโอคลิปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวเอกมัย กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2564 เวลาประมาณ 21.00 น. มาหาเรื่องกับทางร้านเพื่อไม่ต้องจ่ายค่าอาหารและเครื่องดื่ม มีเนื้อหาแอบอ้างสถาบันเบื้องสูง อ้างว่าเป็นองครักษ์ ท้าให้มาจับกุมตัว จะได้รู้ว่าอีกฝ่ายนั้นกระจอก จะรื้อร้านเมื่อไหร่ก็ได้ ไปเรียกใครมาก็ได้ รวมทั้งทำนองว่าจะเข้าสถานที่แห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นเขตพระราชฐานให้ดู และระบุว่า "กูใหญ่ที่สุดในประเทศ" พร้อมถามว่าเป็นใคร ท้าให้ไปเรียกบ้านใหญ่ชลบุรี ซึ่งกล่าวพาดพิงถึงตระกูลคุณปลื้ม และให้ไปเรียกบ้านใหญ่นครปฐม ซึ่งกล่าวพาดพิงถึงตระกูลสะสมทรัพย์ เรียกใครมาก็ได้ในประเทศนี้ เรียกนายกรัฐมนตรีมาก็ได้ อ้างว่าเพื่อนของตนเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวหาว่าจะถูกปลดแต่ก็ไม่เห็นจะถูกปลด ตนโปรโมตมาจนจะคุมภาคตะวันออกทั้งหมด ประกาศกร้าวว่าเรียกใครมาก็ได้ประเทศนี้ มึงขี้ครอกประเทศนี้ ใครคุ้มกบาลมึงเรียกมา"
กรณีดังกล่าว พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) ได้รับรายงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมสั่งการให้หน่วยต้นสังกัด เรียกตัว น.อ.อลงกรณ์ เข้ารายงานตัวอย่างเร่งด่วน และให้เจ้าหน้าที่สารวัตรทหารเรือ ควบคุมตัวนายทหารคนดังกล่าว นำไปเข้ารับการธำรงวินัย ที่ศูนย์ธำรงวินัยกองทัพเรือ ต่อมา พล.ร.อ.สมประสงค์ และ พล.ร.ท.นฤพล เกิดนาค ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ ได้เข้ารับการธำรงวินัยเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว เมื่อวันที่ 27 ธ.ค. 2564