xs
xsm
sm
md
lg

อดีตหัวหน้า ศรภ.เชื่อข้อเรียกร้อง “ปิยบุตร” เพื่อซื้อเวลาไปจัดตั้งแนวทาง หวังหลอกเด็กใหม่

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้า ศรภ. เชื่อข้อเรียกร้องของ "ปิยบุตร" ที่ระบุเพื่อการประนีประนอม และหาทางออก ไม่ได้มาจากความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง มีลักษณะคล้ายกับการซื้อเวลาเพื่อไปจัดตั้งแนวทางที่จะหลอกเด็กใหม่

เมื่อวันที่ 17 ธ.ค. เฟซบุ๊ก "พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์" หรืออดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความระบุว่า "ฮีโร่นอกคุก การสื่อสารของนายปิยบุตรถึงทุกฝ่ายโดยอ้างว่า “เพื่อการประนีประนอม และหาทางออก” โดยมีข้อความถึงเยาวชน สรุปได้ว่า ต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ในแต่ละห้วงเวลา ถ้าเดินแบบเดิมไม่ต่างกับการเดินชนกำแพง ไม่สำเร็จแน่ ต้องพิจารณาดูว่าทำอย่างไรให้ฝ่ายอนุรักษ์ยอมที่จะฟัง ถกเถียงกันด้วยเหตุผล พร้อมกับเรียกร้องให้ฝ่ายอนุรักษ์เปิดใจให้กว้างและเข้าใจเยาวชนให้มากขึ้น

ข้อเรียกร้องของปิยบุตรนั้น อ่านดูแล้วเห็นได้ว่าไม่ได้มาจากความตั้งใจที่จะแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง มีลักษณะคล้ายกับการซื้อเวลาเพื่อไปจัดตั้งแนวทางที่จะหลอกเด็กใหม่ และยังเป็นการข่มขู่อีกว่า “จะเกิดการปะทะกันระหว่างรุ่น” คล้ายกับปิยบุตรเหมาเอาว่า เยาวชน 15 ล้านกว่าคนคิดเหมือนกับปิยบุตรทั้งหมด โดยระบุว่า “ปรากฏชัดแล้วว่าคนรุ่นหนึ่งมองสถาบันกษัตริย์ ไม่เหมือนกับคนอีกรุ่นหนึ่ง” มาลองคิดดูว่า ทำไมปิยบุตรจึงมีท่าทีแบบนี้

1. เยาวชนส่วนน้อยที่ออกมาเคลื่อนไหว ตามคำยุยงของปิยบุตรในระยะแรกนั้น ได้เลิกราไปเป็นส่วนใหญ่แล้ว เพราะเริ่มรู้ข้อเท็จจริงกันมากขึ้นว่าอะไรเป็นอะไร เริ่มรู้จักชาติไทยดีกว่าชาติฝรั่งเศสของปิยบุตร เด็กวัยนี้ที่ชอบแนวทาง ช่อ ทอน บูด นั้น ได้แบ่งตัวเองออกเป็นชั้นๆ เรียกพวกที่ออกมาก่อเหตุพ่นสี ตีกับตำรวจว่าเป็น “ตลาดล่าง” จึงถอยออกมา เป็นผลกระทบต่อแก๊ง 3 คนเป็นอย่างมาก เพราะเด็กตลาดบนแม้จะมีน้อยกว่าเด็กตลาดล่าง แต่ก็เป็นเด็กที่เรียนดี น่าเชื่อถือ มีแสงเป็นดาวฤกษ์อยู่ในตัวเอง เมื่อเด็กตลาดบนเริ่มถอย โครงสร้างค้ำจุน ช่อ ทอน บูด ก็เริ่มหมดไป

2. เยาวชนอีกส่วนหนึ่งในกลุ่มตลาดล่างก็เริ่มคิดได้ว่าถูกหลอกมาแท้ๆ สู้ไป โดยไม่ได้ทำประโยชน์อะไรเพื่อชาติ หรือประชาชนเลย แต่ทำไปเพื่อรับใช้ และ เสริมสร้าง “ความเป็นฮีโร่ ที่ไม่ยอมติดคุก” ของแก๊ง 3 คนเท่านั้น

3. ผู้หาประโยชน์จากเด็ก ไม่ได้มีแค่แก๊ง 3 คนเท่านั้น ยังมีพวกล่าเงินบริจาค ล่าเงินทุนจากนักการเมือง มาดื่มเหล้าเมาไวน์ หาความสนุกจากเด็กที่เข้ามาร่วมงานด้วย ซึ่งเยาวชนส่วนหนึ่งก็เริ่มจะรู้ตัวแล้ว หลอกกันได้ยากขึ้น

คนใกล้ตายมักจะเริ่มรับรู้ความเป็นจริงในบั้นปลายของชีวิต ว่าอะไรถูก อะไรผิด อะไรดี อะไรไม่ดี เป็นกฎแห่งกรรม แต่ถ้ารู้แล้วยังทำต่อไปอาจจะตกนรกทั้งเป็น มีเงินแต่ไร้สุข มีแต่ทุกข์อยู่นอกประเทศ มีคนยกยอมากมาย แต่ลับหลังก็แค่มาหลอกเอาเงินเท่านั้น พวกนี้คือ "พวกฮีโร่นอกคุก"

คลิกโพสต์ต้นฉบับ




กำลังโหลดความคิดเห็น