รวบตึงทุกเรื่องราว คัดข่าวเด็ด เบ็ดเสร็จในที่เดียว ... MGR Online ขอนำเสนอ “Top 7 ข่าวฮอตในรอบ 7 วัน” สรุปข่าวเด่น ประเด็นฮอตที่พลาดไม่ได้ เป็นประจำทาง mgronline.com และเฟซบุ๊ก MGR Online Live แฮชแท็ก #MGROnline #MGRTOP7
(สรุปข่าวประจำวันที่ 13-20 พ.ย. 2564)
- อันดับ 1 : นับถอยหลังหักดิบหัวลำโพง ศักดิ์สยามบัญชาย้ายรถไฟไปบางซื่อ โซเชียลฯ ค้านแหลกผลักภาระให้ประชาชน
สถานีรถไฟกรุงเทพ หรือที่เรียกกันว่า หัวลำโพง เป็นสถานีต้นทางไปยังภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคตะวันออก และภาคใต้ ที่มีอายุยาวนานกว่า 105 ปี กำลังจะถูกชี้ชะตาว่าจะอยู่หรือไม่ เมื่อมีนโยบายของนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จะย้ายให้รถไฟทุกขบวนปรับเส้นทางให้สิ้นสุดจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เป็นสถานีปลายทางที่สถานีกลางบางซื่อ ตั้งแต่วันที่ 23 ธ.ค. 2564 เพราะไม่ต้องการให้ปิดถนนรอรถไฟวิ่งผ่านเป็นปัญหาจราจรอีกต่อไป พร้อมเดินหน้าพัฒนาหัวลำโพงเป็นพื้นที่สาธารณะและพื้นที่เชิงพาณิชย์ เกิดกระแสต่อต้านจากโซเชียลฯ ถึงนโยบายดังกล่าวว่า เป็นการผลักภาระให้ประชาชน
ขณะที่สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย แถลงคัดค้านหยุดให้บริการรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง ด้วยเหตุผลคือ ประชาชนที่ใช้บริการรถไฟไป-กลับเดือดร้อน หากจำเป็นต้องปิดสถานีและหยุดให้บริการ ควรสอบถามผู้ใช้บริการก่อนหรือไม่ ส่วนที่ว่าขบวนรถไฟทำให้รถติดนั้นไม่จริง เพราะทางรถไฟมีมาก่อนถนน อีกทั้งการพัฒนาที่ดินหัวลำโพง 120 ไร่ ที่ใช้ในกิจการรถไฟ อาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย และด้อยค่าประวัติศาสตร์รถไฟไทยสมัยรัชกาลที่ ๕ ให้เลือนหายไป พร้อมเชิญชวนประชาชนคัดค้าน เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์สมเด็จพระปิยมหาราช พระราชทานกิจการรถไฟ เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน
- อันดับ 2 : รัฐธรรมนูญฉบับไอติม ถ้าไม่ชิมก็ละลาย สภาฯ โหวตคว่ำ 473 ต่อ 206 ถอนประกันรุ้ง ปนัสยาคดี 112
ความเคลื่อนไหวทางการเมืองในรอบสัปดาห์นี้ เริ่มจากการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ เสนอโดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ หรือไอติม และนายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวหน้า ซึ่งนายพริษฐ์ได้ยื่นต่อประธานรัฐสภา เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 135,247 คน สาระสำคัญคือ ยกเลิกสมาชิกวุฒิสภา ให้เหลือสภาผู้แทนราษฎรเพียงสภาเดียว ยกเลิกยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี เซตซีโร่ศาลรัฐธรรมนูญ องค์กรอิสระ และล้มล้างผลพวงการรัฐประหาร ปรากฎว่าที่ประชุมรัฐสภา เมื่อวันที่ 17 พ.ย. มีมติไม่รับหลักการร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญดังกล่าว ด้วยคะแนน 473 เสียงต่อ 206 งดออกเสียง 6 ถือว่าร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้เป็นอันตกไป
ขณะที่เมื่อวันที่ 15 พ.ย. ศาลอาญากรุงเทพใต้ เพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือรุ้ง แกนนำกลุ่มที่เรียกตัวเองว่า แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ระหว่างการสอบคำให้การคดีชุมนุมสวมเสื้อผ้าครอปท็อป ที่ห้างสยามพารากอน เขียนข้อความล้อเลียนที่แขนและเอว ในความผิดตามมาตรา 112 โดยศาลเห็นว่าก่อนถูกฟ้องคดีนี้ น.ส.ปนัสยา เคยกระทำการในลักษณะทำนองเดียวกับคดีนี้มาแล้วหลายคดี อีกทั้งหลังได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวในคดีอื่น กลับไปกระทำซ้ำ อาจไปกระทำการอันมีลักษณะเป็นความผิดเช่นเดียวกับคดีนี้อีก ก่อนออกหมายขังส่งตัวเข้าทัณฑสถานหญิงกลางต่อไป
- อันดับ 3 : คิดได้ไง...รถบรรทุกทหารฝ่าวิกฤตน้ำมันแพง บิ๊กตู่ไม่ยี่หระม็อบรถบรรทุก กดดันขอราคาน้ำมันดีเซล 25 บาท
นับเป็นครั้งที่ 2 ที่สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย จัดม็อบรถบรรทุก (Truck Power) เพื่อกดดันให้รัฐบาลตรึงราคาน้ำมันดีเซลที่ 25 บาทต่อลิตร หลังมติกระทรวงพลังงานยืนยันตรึงราคาน้ำมันดีเซลไม่ให้เกิน 30 บาทต่อลิตร โดยเมื่อวันที่ 16 พ.ย. รวมตัวกันที่กระทรวงพลังงาน ถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อยื่นหนังสือเรียกร้อง พร้อมระบุว่า หากไม่ได้คำตอบจะมาอีก ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่ากองทุนน้ำมันอยู่ในสภาพติดลบแล้ว มอบหมายกระทรวงคมนาคมไปจัดการเรื่องการขนส่งทางรถไฟ หรือจะเอารถ บขส. มาขนส่งสินค้าเพิ่มเติม และถ้าจำเป็นทหารก็พร้อมที่จะสนับสนุนช่วยขนส่งด้วย
ปรากฎว่ากองทัพบกสั่งตรวจสภาพรถบรรทุกทหารและยานยนต์รวม 3,700 คัน รับมือขนส่งสินค้าแทนรถสิบล้อตามนโยบายของรัฐบาล เช่นเดียวกับกองทัพเรือ ระบุว่า มีรถบรรทุกขนาดใหญ่จำนวนหนึ่ง ดัดแปลงรองรับภารกิจได้ทันที รอแค่เพียงคำสั่งที่ชัดเจนลงมา แต่ก็ถูกนักการเมืองฝ่ายค้านโจมตีว่าไม่ตรงกับภารกิจ แสดงว่าที่ผ่านมาไม่ได้ใช้ประโยชน์ ฝ่ายกองทัพบกยืนยันว่ารถปัจจุบันยังคงใช้งานในหลายภารกิจ เช่น ขนส่งคนไปฉีดวัคซีน งานจิตอาสา ขนของไปช่วยน้ำท่วม ช่วยภัยหนาว ส่วนนายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมการขนส่งทางบก ยืนยันว่าทำได้ ไม่ผิด พ.ร.บ.ขนส่งทางบก เพราะช่วยเหลือประชาชน
- อันดับ 4 : จับตาบิ๊กดีล ดีแทค-ทรู ร่วมกิจการ EcoPartnership ล้มยักษ์เอไอเอส อีกหน้าประวัติศาสตร์โทรคมนาคมไทย
เมื่อวันที่ 19 พ.ย. สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่าเทเลนอร์ (Telenor) ยักษ์ใหญ่โทรคมนาคมสัญชาตินอร์เวย์ ผู้ถือหุ้นใหญ่เครือข่ายดีแทค กำลังหารือกับเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เกี่ยวกับการควบรวมกิจการโทรคมนาคมในไทย มูลค่า 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หากข้อตกลงเสร็จสิ้น จะรวมการดำเนินงานดีแทคกับทรู ขณะที่ดีแทคและทรูชี้แจงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า จะได้รับการชี้แจงตามที่กำหนด ส่วนเทเลนอร์ กรุ๊ป ชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์นอร์เวย์ว่าอาจมีการดำเนินกิจการร่วมกันในรูปแบบอีโค พาร์ทเนอร์ชิพ (EcoPartnership) คาดว่าจะมีการแถลงความชัดเจนในวันที่ 22 พ.ย.นี้
สำหรับเครือข่ายดีแทค มีจำนวนลูกค้า 19.3 ล้านเลขหมาย เป็นอันดับ 3 รองจากเอไอเอส ที่มีจำนวนลูกค้า 43.7 ล้านเลขหมาย และทรู ที่มีจำนวนลูกค้า 32 ล้านเลขหมาย หากควบรวมกิจการสำเร็จ จะทำให้ทรูและดีแทคมีจำนวนลูกค้ากว่า 51 ล้านเลขหมาย เป็นอันดับ 1 แซงหน้าเอไอเอสทันที อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ เทเลนอร์ ในนามค่าย Digi ทำข้อตกลงกับบริษัทเอเชียต้า กรุ๊ป (Axiata Group) ผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือของมาเลเซีย ควบรวมกิจการธุรกิจโทรศัพท์มือถือ เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา ภายใต้ข้อตกลงมูลค่า 15,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อก้าวขึ้นมาเป็นค่ายมือถือรายใหญ่อันดับหนึ่งของมาเลเซีย
- อันดับ 5 : ดรามาโจโฉยูทูปเบอร์ดัง เจอนักเขียนท้า 5 พัน อยู่ป่าพร้อมมีดเล่มเดียว กรมอุทยานฯ เอือมขู่ดำเนินคดีทั้งคู่
กลายเป็นดรามาสายป่าไปซะแล้ว เมื่อชาวเน็ตจับผิดสารคดีการเอาตัวรอดตัวในป่า ของนายทรงธรรม สิปปวัฒน์ หรือโจโฉ ยูทูบเบอร์ที่มีผู้ติดตาม 2.4 ล้านคน ทำนองว่าแหกตาคนดู แค่เข้าป่าเกาะเล็กๆ แล้วกลับไปนอนบ้าน เตรียมหนูมากินในป่า ไม่ได้ดักจริงๆ โจโฉจึงท้าวางเดิมพัน 10 ล้านบาท จะลุยเดี่ยวเข้าป่า 10 วันให้ชม ปรากฎว่านายพรรณชัย คงสนิท นักเขียนนามปากกา คมฉาน ตะวันฉาย ออกมาโพสต์ว่า โจโฉไม่ได้เก่งกาจวิเศษวิโสอะไร คนเที่ยวป่าทำได้หมด ท้าขอแค่วันละ 5 พันบาทพอ ตัวเองพร้อมมีดเล่มเดียว ให้อยู่กี่วันก็ว่ามา เงินที่ได้จะเอาไปซื้อเครื่องฟอกไตให้โรงพยาบาล ต่อมาโจโฉรับคำท้า
ขณะที่ นายภูมิใจ ตั้งสง่า หรือดีเจภูมิ ประกาศสมทบทุนให้กับโจโฉอีก 50,000 บาท เพื่อให้ได้เอาตัวรอดในป่าแล้วนำเงินนี้ไป บริจาคซื้อเครื่องฟอกไตให้กับโรงพยาบาล พร้อมการันตีว่าโจโฉของจริง ได้ร่วมเดินป่ากันมาหลายครั้ง งานนี้ นายธัญญา เนติธรรมกุล อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เอือมทั้งคู่ ต้องออกมาปรามว่าการท้าทายกันว่าใครจะเข้าไปอยู่ในป่านาน 5-10 วันนั้นไม่เหมาะสม เพราะในป่าเต็มไปด้วยอันตรายจากสัตว์ป่า หรือหลงป่า แถมลำบากเจ้าหน้าที่ ต้องจัดกำลังกู้ภัยออกตามหากันอีก ย้ำว่าไม่ควรมาท้าทายแบบนี้ หากใครเข้าไปในป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจะดำเนินคดีทั้งคู่
- อันดับ 6 : เดอะวันประกันภัยสั่นสะเทือนวงการ ลูกค้าโวยส่ง SMS รายคน บีบยกเลิกประกันโควิด เจอ-จ่าย-จบ ใน 7 วัน
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. ลูกค้าบริษัท เดอะวัน ประกันภัย จำกัด (มหาชน) แสดงความไม่พอใจที่บริษัทฯ ได้ส่ง SMS แจ้งไปยังลูกค้า เสนอแนวทางการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของผู้เอาประกันภัย เพื่อไม่ให้ได้รับผลกระมบจากสภาพคล่องของบริษัทฯ สาระสำคัญก็คือ ให้ลูกค้าเปลี่ยนกรมธรรม์ประกันภัย COVID-19 ฉบับใหม่ คุ้มครองเฉพาะภาวะโคมา แทนประกันแบบเจอ-จ่าย-จบ หรือจะเลือกเป็นประกันอุบัติเหตุ ขอเงินคืนเต็มจำนวน และซื้อกรมธรรม์ประกันภัยอื่นโดยให้ส่วนลด 2 เท่า โดยให้แจ้งยินยันสิทธิภายใน 7 วัน เรียกเสียงฮือฮาในโลกโซเชียลฯ ที่อยู่ๆ บริษัทประกันก็เท สะเทือนความเชื่อมั่นต่อธุรกิจประกันภัย
ปรากฎว่าเมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายสุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) สั่งห้ามบริษัทประกันภัยเปลี่ยนหรือยกเลิกกรมธรรม์โดยลูกค้าไม่ยินยอม ส่วนกรณีเดอะวัน ประกันภัยขอปรับเงื่อนไขสามารถทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามภาคสมัครใจ ห้ามบังคับ หากลูกค้าไม่ยินยอมก็ยังได้รับความคุ้มครองตามเดิม อย่างไรก็ตาม สมาคมประกันวินาศภัยไทย แจ้งเตือนบริษัทสมาชิกที่มีประกันภัยโควิด-19 แบบ เจอ-จ่าย-จบ ให้ประเมินความเสี่ยงไปถึงเดือน มิ.ย. 2565 เพราะอาจส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องเช่นเดียวกับ บริษัท เอเชียประกันภัย 1950 ที่ถูกถอนใบอนุญาตก่อนหน้านี้
- อันดับ 7 : อำลาอาลัย "สมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์" หนึ่งในห้าขุนพลพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย สู่อาจารย์ใหญ่ มข.
เมื่อวันที่ 14 พ.ย. นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เสียชีวิตเมื่อเวลา 11.10 น. ที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา หลังเข้ารับการรักษาตัวด้วยภาวะเลือดออกในสมองมานานประมาณ 1 เดือน โดยศพของนายสมเกียรติได้ทำพิธีรดน้ำศพและตั้งบำเพ็ญกุศล ที่พุทธสถานสีมาอโศกนครราชสีมา (บวรสีมาอโศก) ต.หนองบัว อ.เมือง จ.นครราชสีมา ก่อนที่จะนำร่างของนายสมเกียรติไปเป็นอาจารย์ใหญ่ หรือใช้ประกอบการศึกษาแก่นักศึกษาแพทย์ ตามความประสงค์ของผู้เสียชีวิต ที่ได้บริจาคอุทิศร่างกายไว้ที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น ต่อไป
สำหรับสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ เกิดเมื่อวันที่ 12 ม.ค. 2493 เป็นชาว อ.ด่านขุนทด จ.นครราชสีมา จบปริญญาตรี การศึกษาบัณฑิต สาขาภาษาไทย-ประวัติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ระดับปริญญาโท ศึกษาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาหลักสูตรและการสอน มหาวิทยาลัยขอนแก่น เป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เคยเคลื่อนไหวในนามสมัชชาเกษตรกรรายย่อยภาคอีสาน ก่อนร่วมขับไล่รัฐบาลทักษิณ ชินวัตร 1 ใน 5 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มาตั้งแต่ปี 2549 และเคยได้รับการเลือกตั้งเป็น ส.ส.สัดส่วน พรรคประชาธิปัตย์ จากการชักชวนของนายไกรศักดิ์ ชุณหะวัณ
