xs
xsm
sm
md
lg

SET INDEX ปิด+6.42 จุด โบรก ฯ แนะลงทุนหุ้นปัจจัยเฉพาะตัว หลังปรับลงลึก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ตลาดหุ้นไทยปิดตลาดปรับตัว +6.42 จุด หรือ +0.39% โบรก ฯ แนะเลือกลงทุนหุ้นตามปัจจัยเฉพาะตัว และหุ้นที่ราคาลงลึกแล้ว จับตาประเด็นการควบรวมกิจการ หลัง บจ. สิ้นสุดการประกาศงบผลประกอบการรายไตรมาส

ตลาดหุ้นไทยปิดทำการซื้อขายวันที่ 18 พฤศจิกายน 2564 ปรับตัวขึ้น +6.42 จุด หรือ +0.39% โดยปิดตลาดที่ 1,651.02 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,537.81 ล้านบาท โดยในระหว่างวันดัชนีหุ้นไทยปรับตัวเคลื่อนไหวขยับขึ้นในแดนบวกอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เปิดตลาดในช่วงเช้า โดยปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 1,653.68 จุด และปรับตัวลดลงต่ำสุดที่ 1,642.50 จุด

ขณะที่ส่วนหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงในวันนี้เพิ่มขึ้นจำนวน 799 หลักทรัพย์ ไม่เปลี่ยนแปลง จำนวน 635 หลักทรัพย์ และปรับตัวลดลง 781 หลักทรัพย์

ขณะที่ปริมาณการซื้อขายขายจำแนกตามกลุ่มนักลงทุนพบว่า นักลงทุนในประเทศขายสุทธิกว่า -1,428.76 ล้านบาท ในทางกลับกันพบว่า นักลงทุนสถาบันซื้อสุทธิกว่า 751.39 ล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ ซื้อสุทธิกว่า 656.92 ล้านบาท และ บัญชี บล. ซื้อสุทธิกว่า 20.44 ล้านบาท

ส่วนหลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด 5 หลักทรัพย์ ได้แก่
1.TRUE มูลค่าการซื้อขาย 5,069.15 ล้านบาท ปิดที่ 4.38 บาท เพิ่มขึ้น 0.14 บาท
2.DTAC มูลค่าการซื้อขาย 2,353.83 ล้านบาท ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท
3.EA มูลค่าการซื้อขาย 2,218.66 ล้านบาท ปิดที่ 72.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท
4.CBG มูลค่าการซื้อขาย 2,217.38 ล้านบาท ปิดที่ 115.50 บาท ลดลง 2.50 บาท
5.PTTEP มูลค่าการซื้อขาย 1,880.57 ล้านบาท ปิดที่ 118.50 บาท ลดลง 0.50 บาท

ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวบวกเพิ่มขึ้นมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่
1.DELTA ปิดที่ 432.00 บาท เพิ่มขึ้น 10.00 บาทหรือ 2.37%
2.EA ปิดที่ 72.25 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาทหรือ 3.21%
3.DTAC ปิดที่ 41.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาทหรือ 5.13%
4.TQM ปิดที่ 107.00บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 1.42%
5.AEONTS ปิดที่ 197.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.50 บาทหรือ 0.77%
ด้านดัชนี SET100 ที่มีราคาปรับตัวลดลงมากที่สุด 5 อันดับ ได้แก่

1.CBG ปิดที่ 115.50 บาท ลดลง 2.50 บาทหรือ 2.12%
2.HANA ปิดที่ 91.75 บาท ลดลง 1.25 บาทหรือ 1.34%
3.KCE ปิดที่ 91.75 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 1.08%
4.SCB ปิดที่ 134.00 บาท ลดลง 1.00 บาทหรือ 0.74%
5.CRC ปิดที่ด 36.00 บาท ลดลง 0.50 บาทหรือ 1.37%

ส่วนดัชนี SET100 ปิดที่ 2,259.40 จุด เพิ่มขึ้น 7.06 จุด หรือ 0.31% ด้านดัชนี SET50 ปิดที่ 989.18 จุด เพิ่มขึ้น 2.66 จุด หรือ 0.27% และดัชนีตลาด mai ปิดที่ 564.02 จุด เพิ่มขึ้น 5.61 จุด หรือ 1.00%

นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บล.เคทีบีเอสที กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวขึ้นมายืนเหนือ 1,650 จุดได้ หลังตลาดต่างประเทศเริ่มทรงตัวจากรับรู้เงินเฟ้อพุ่งไปแล้ว และ Fund Flow ไหลเข้าในเอเชียมา 5 วันติดต่อกัน ส่งผลดีถึงตลาดหุ้นไทยไปด้วย โดยหุ้นที่มาช่วยหนุนตลาดฯเป็นหุ้นเกี่ยวข้องเทคโนโลยี และยานยนต์ไฟฟ้า (EV) หลังจากที่ค่ายรถยนต์เปิดเผยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าออกมาแสดงให้เห็นการเริ่มต้นอย่างจริงจัง

ขณะเดียวกันนักลงทุนบางส่วนก็ยังห่วงว่าทิศทางตลาดฯจะไปต่อได้หรือไม่ จึงยังคงเลือกเล่นหุ้นตามปัจจัยเฉพาะตัว และหุ้นที่ราคาลงลึกแล้ว อาทิ TRUE และ DTAC ที่มีประเด็นการควบรวมกิจการด้วย เป็นต้น อีกทั้งหลังสิ้นสุดการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนแล้วทำให้เห็นภาพว่าหุ้นใดน่าจะฟื้นตัวได้จากการให้ข้อมูลเพิ่มเติมของผู้บริหาร

ด้านตลาดหุ้นในภูมิภาคเอเชียวันนี้ส่วนใหญ่ติดลบ ขณะที่ตลาดยุโรปเทรดบ่ายนี้ก็เคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ ซึ่งตลาดในยุโรปจะอิงตามสหรัฐที่มีความกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อและราคาน้ำมันด้วย ด้านตลาดบ้านเราวันนี้ก็มีแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานออกมาหลังจากราคาน้ำมันปรับลง แต่เงินบาทแข็งค่าช่วยหนุนแรงซื้อ พร้อมแนะติดตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ

ทั้งนี้แนวโน้มการลงทุนในวันพรุ่งนี้ มองว่าตลาดหุ้นจะยังคงจะแกว่ง Sideway up ในกรอบ 1,645-1,660 จุด


กำลังโหลดความคิดเห็น