สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย คัดค้านการหยุดให้บริการรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพง ชี้ทำให้ประชาชนที่ใช้บริการในการมาทำงานไป-กลับจำนวนมากได้รับความเดือดร้อน และการพัฒนาที่ดินที่ใช้ในกิจการรถไฟอาจไม่ชอบด้วยกฎหมาย ชี้เป็นการด้อยค่าประวัติศาสตร์รถไฟไทยให้เลือนหายไป
วันนี้ (18 พ.ย.) สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทยออกแถลงการณ์หัวข้อ "ขอคัดค้านนโยบายการหยุดให้บริการรถไฟเข้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และหยุดขบวนการทำลายประวัติศาสตร์ของการรถไฟฯ" ระบุว่า กิจการรถไฟไทย หรือ "กรมรถไฟหลวง" ได้ก่อกำเนิดขึ้นนับตั้งแต่รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวรัชกาลที่ ๕ “พระปิยมหาราช” ซึ่งเกิดขึ้นจากสายพระเนตรอันยาวไกลของพระองค์ท่าน โดยมีประกาศพระบรมราชโองการสร้างทางรถไฟสยามตั้งแต่กรุงเทพฯ ถึงเมืองนครราชสีมา ลงวันที่ 1 มีนาคม ร.ศ. 109 ซึ่งตรงกับพุทธศักราช 2433 ทรงตระหนักถึงความสำคัญของการคมนาคมทางรถไฟ เพื่อให้เกิดความเจริญแก่บ้านเมืองเป็นสำคัญ ซึ่งเป็นหน่วยงานเพียงหน่วยงานเดียวที่พระองค์ท่านเสด็จฯ มากระทำพระฤกษ์ แซะดิน ตอกหมุด ตรึงรางรถไฟ ด้วยพระองค์เอง เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2434 มีพระราชดำรัสว่า
“เรารู้สำนึกแน่อยู่ว่าธรรมดาความเจริญรุ่งเรืองของประชาชนย่อมอาศัยถนนหนทางไปมากันเป็นใหญ่เป็นสำคัญ ได้เร็วขึ้นเพียงใด ก็เป็นการขยายชุมชนให้ไพศาลยิ่งขึ้นเพียงนั้น เราจึงได้อุตส่าห์คิดจะทำทางรถไฟให้สมกำลังบ้านเมือง”
ต่อมาเมื่อวันที่ 26 มีนาคม 2439 พระองค์เสด็จฯ มาในพระราชพิธีเปิดการเดินรถไฟปฐมฤกษ์จากสถานีกรุงเทพ ถึงสถานีอยุธยา คือการเดินรถไฟสายแรกเพื่อให้กิจการรถไฟฯ จารึกไว้ในประวัติศาสตร์แผ่นดินสยาม เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการเป็นสัญลักษณ์แห่งการนำพาสยามสู่ยุคแห่งการพัฒนาประเทศ เพื่อสร้างความเจริญเท่าเทียมนานาอารยประเทศ อันนำมาซึ่งความภาคภูมิใจของคนไทยเป็นอย่างยิ่ง ที่ทำให้ประเทศรอดพ้นจากการถูกยึดครองจากชาติมหาอำนาจตะวันตกในยุคล่าอาณานิคม
สถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) เริ่มก่อสร้างในปลายสมัยรัชกาลที่ ๕ เมื่อปี พ.ศ. 2453 ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปิดใช้บริการอย่างเป็นทางการ โดยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้เสด็จฯ ทรงกระทำพิธีกดปุ่มสัญญาณไฟฟ้าให้รถไฟขบวนแรกเดินเข้าสู่สถานีหัวลำโพง เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2459 สถานีหัวลำโพงจึงเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญยิ่งในการเดินทางของประชาชนด้วยขบวนรถไฟ เป็นสถานีจุดเริ่มต้นและปลายทางในการเดินทาง เป็นแลนด์มาร์กที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศไทยที่อยู่เคียงคู่กันโดยไม่สามารถแยกออกจากกันได้ และเป็นสัญลักษณ์แห่งพระอัจฉริยภาพที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวได้พระราชทาน “กิจการรถไฟหลวง” ให้แก่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าได้ใช้ประโยชน์อย่างถ้วนหน้า สร้างความเจริญและโอกาสให้แก่ประเทศไทยมาจนถึงปัจจุบัน
ตามที่ปรากฏเป็นข่าวเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ ได้เปิดเผยต่อสื่อมวลชนหลังจากเป็นประธานการประชุมติดตามนโยบายแนวทางการพัฒนาพื้นที่สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และแนวทางการพัฒนาตลอดแนวเส้นทางรถไฟบางซื่อ-หัวลำโพง ด้วย Application “Zoom” ว่าหลังจากที่ได้มีการเปิดใช้งานสถานีกลางบางซื่อเต็มระบบเพื่อเป็นศูนย์กลางการเดินทางด้วยระบบรางของประเทศไทยโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ให้การรถไฟฯ เร่งพิจารณาแนวทางการหยุดให้บริการรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพงโดยเร็ว เพื่อให้มีความชัดเจนในการเริ่มพัฒนาพื้นที่บริเวณสถานีหัวลำโพง ตามที่มีการเผยแพร่ผ่านสื่อออนไลน์
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) ซึ่งจัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 โดยมีวัตถุประสงค์เป็นไปตามมาตรา 40 (4) “เพื่อปกป้องรักษาผลประโยชน์ของการรถไฟฯ” จากนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในเรื่องนี้ สร.รฟท.ไม่เห็นด้วยกับนโยบาย และขอคัดค้านด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
1. ทำให้ประชาชนที่ใช้บริการในการมาทำงานไป-กลับ จำนวนมากได้รับความเดือดร้อน เนื่องจากจะทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนภาพรวมในวงกว้าง จากการไม่ได้รับความสะดวกในการใช้บริการเดินทาง เนื่องจากภารกิจหลักของการรถไฟฯ คือการให้บริการระบบขนส่งสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานของรัฐอันจําเป็นต่อการดํารงชีวิตของประชาชนจำนวนมากจากทั่วทุกส่วนภูมิภาคเข้ามาสู่กรุงเทพมหานคร และจากใจกลางตัวเมืองกลับไปสู่ทั่วทุกภูมิภาค ด้วยความสะดวก ปลอดภัย เพราะเป็นจุดเริ่มต้น และปลายทางของขบวนรถไฟชานเมืองในเส้นทางต่างๆ ที่มีประชาชนหลากหลายอาชีพ นักเรียน นิสิต นักศึกษาจำนวนมากใช้บริการเดินทางเข้ามาทำงานและเรียนในเขตกรุงเทพมหานคร ซึ่งมีฐานะทางเศรษฐกิจแตกต่างกันไป นอกจากนั้นยังเป็นสถานีเชื่อมต่อการเดินทางรถไฟในเส้นทางสายตะวันออก ใช้ในการเดินขบวนรถพิเศษเนื่องในโอกาสต่างๆ ที่สำคัญของประเทศและของการรถไฟฯ และเป็นพื้นที่อันควรค่ายิ่งแก่การอนุรักษ์ใช้เป็นพื้นที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ได้ หากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเห็นว่าจำเป็นต้องปิดสถานีและหยุดให้บริการรถไฟเข้าสถานีหัวลำโพงจริงๆ ควรสอบถามความเห็นของประชาชนผู้ใช้บริการก่อนจะดีกว่าหรือไม่
2. จากข้อมูลเหตุผลที่อ้างถึงว่าในการปิดสถานีและไม่ให้มีขบวนรถเข้ามาในสถานีรถไฟหัวลำโพงนั้นเพื่อแก้ปัญหาการจราจรติดขัดในพื้นที่ กทม. เนื่องจากขบวนรถไฟเป็นปัญหาที่ทำให้รถติด ซึ่งไม่เป็นความจริง แต่ในทางตรงกันข้ามกลับทำให้ประชาชนที่เดินทางจำนวนมากจากทั่วประเทศได้รับความสะดวกในการเดินทางเข้ามาในตัวเมืองชั้นใน แล้วทางรถไฟก็มีมาก่อนถนนใน กทม.เกือบทั้งหมด แล้วทำไมตอนสร้างถนนข้ามตัดผ่านทางรถไฟ ผู้เกี่ยวข้องไม่หาวิธีแก้ปัญหาจุดที่ถนนตัดผ่านกับทางรถไฟ และขอตั้งคำถามไปที่รัฐมนตรีฯ ว่าหากไม่มีขบวนรถไฟเข้ามาแล้ว บนท้องถนนใน กทม.การจราจรจะไม่ติดขัดใช่หรือไม่ ถ้ายังมีปัญหาการจราจรอยู่ใครจะเป็นผู้รับผิดชอบความผิดพลาดในเรื่องนี้
3. พื้นที่ในบริเวณสถานีรถไฟหัวลำโพงเป็นที่ดินที่เกี่ยวข้องที่ใช้สำหรับการเดินรถ มีวัตถุประสงค์ในการใช้เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน ดำเนินธุรกิจอันเกี่ยวกับการขนส่งของรถไฟ การนำมาใช้เพื่อประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ อาจเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดกับวัตถุประสงค์ตามพระราชบัญญัติการรถไฟแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2494 มาตรา 6 หากรัฐมนตรีมีความต้องการที่จะหาประโยชน์จากการพัฒนาที่ดิน เพื่อมาชดเชยผลการดำเนินงานที่ขาดทุนของการรถไฟฯ โดยจำเป็นต้องพัฒนาที่ดินบริเวณดังกล่าวแล้ว ในแนวทางไม่จำเป็นต้องปิดสถานีหัวลำโพง และหยุดให้บริการเดินรถไฟแต่อย่างใด เพราะการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์กับการขนส่งสาธารณะทางรถไฟสามารถดำเนินการควบคู่กันไปได้ อีกทั้งยังมีพื้นที่ มีที่ดินว่างเปล่าของการรถไฟฯ อีกมากมายหลายแปลงที่จะหาประโยชน์ หารายได้ให้แก่การรถไฟฯ ได้ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด คำถามคือ ทำไมไม่ทำ มีผู้มีอิทธิพลมากบารมีกี่รายที่หาประโยชน์เข้ากระเป๋าพวกพ้องของตนเอง และเห็นว่า การดำเนินการดังกล่าวอาจทำให้มีการทุจริตคอร์รัปชันตามมาได้ หรือว่า....การปิดสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง)…จะเป็นขบวนการทำลายคุณค่าทางประวัติศาสตร์ การด้อยค่าความสำคัญโดยทำให้ภาพของการเป็นกิจการแห่งรถไฟสยามเลือนหายไป หากไม่มีขบวนรถไฟเข้ามาแล้วจะเรียกว่าเป็นสถานีรถไฟได้อย่างไรกัน คงจะเหลือเพียงความเป็นหน่วยงานที่มีแต่หนี้สิน โดยที่ไม่กล่าวถึงเหตุผลที่มาของหนี้สินเหล่านั้น ว่ามาได้อย่างไร ใครต้องรับผิดชอบ ? ? ? พร้อมกับการยกเหตุผล (ข้ออ้างลอยๆ) ขึ้นมาประกอบในการจะเอาที่ดินใจกลางเมืองจำนวน 120 ไร่ ที่มีพระบรมราชโองการพระราชทานไว้เพื่อใช้ในกิจการดำเนินธุรกิจอันเกี่ยวกับการขนส่งของการรถไฟฯ ไปยกให้นายทุนเอกชนเช่าเพื่อหาประโยชน์ในเชิงพาณิชย์…โดยไม่คำนึงถึงประวัติศาสตร์ที่สำคัญที่ก่อให้เกิดความภาคภูมิใจ ความเจริญและความอยู่ดีกินดีของคนในชาติมามากกว่า 120 ปีซึ่งประเมินค่ามิได้….คนที่คิดทำลาย คิดดีแล้วหรือ....มันสมควรแล้วหรือ
สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟฯ ขอคัดค้านไม่เห็นด้วยกับนโยบายการหยุดให้บริการรถไฟเข้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) และขอแจ้งให้พี่น้องสมาชิก สร.รฟท. คนรถไฟทุกท่าน รวมทั้งพี่น้องประชาชนผู้ที่รักความเป็นธรรมในสังคมได้รับทราบ และได้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นร่วมกันออกมาคัดค้านนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่ให้การรถไฟฯ หยุดให้บริการรถไฟเข้าสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) ซึ่งเป็นขบวนการทำลายประวัติศาสตร์ของการรถไฟฯ เพื่อสืบทอดเจตนารมณ์พระราชปณิธานของสมเด็จพระปิยมหาราชที่มีมาอย่างยาวนาน และพระราชทาน “กิจการรถไฟ” ไว้เพื่อประโยชน์แห่งรัฐและประชาชน
อ่านโพสต์ต้นฉบับ