โซเชียลฯ เสียดาย ประเทศไทยปีนี้ตรงกับดวงจันทร์ข้างขึ้น 13 ค่ำ ดวงจันทร์ขึ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่หัวค่ำ จนถึงเวลาประมาณ 04.00 น. คืน 17-รุ่งเช้า 18 พฤศจิกายน 2564 มีแสงจันทร์รบกวนตลอดคืน จึงไม่สามารถสังเกตการณ์ปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต อัตราการตก 10 ดวงต่อชั่วโมง
วันนี้ (16 พ.ย.) เพจเฟซบุ๊ก “NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ” ได้โพสต์ระบุข้อความว่า “คืน 17-รุ่งเช้า 18 พฤศจิกายน 2564 จะเกิดปรากฏการณ์ฝนดาวตกลีโอนิดส์ หรือฝนดาวตกกลุ่มดาวสิงโต อัตราการตก 10 ดวงต่อชั่วโมง แต่ในปีนี้ตรงกับดวงจันทร์ข้างขึ้น 13 ค่ำ ดวงจันทร์ขึ้นจากขอบฟ้าตั้งแต่หัวค่ำ จนถึงเวลาประมาณ 04.00 น. มีแสงจันทร์รบกวนตลอดคืน จึงไม่สามารถสังเกตการณ์ได้
ทั้งนี้ ฝนดาวตกลีโอนิดส์ เกิดจากสายธารเศษฝุ่นของดาวหาง 55พี เทมเพล-ทัตเทิล (55P Tempel-Tuttle) ที่ยังหลงเหลืออยู่ในวงโคจรของดาวหางตัดผ่านวงโคจรของโลก ทำให้เศษฝุ่นของดาวหางเหล่านั้นเสียดสีกับชั้นบรรยากาศโลก เกิดการเผาไหม้จนเห็นเป็นแสงสว่างวาบคล้ายลูกไฟวิ่งพาดผ่านท้องฟ้า ทิศทางวงโคจรของฝนดาวตกลีโอนิดส์สวนทางกับทิศทางวงโคจรของโลกรอบดวงอาทิตย์ ทำให้ความเร็วของเม็ดฝุ่นที่เข้ามาเสียดสีกับบรรยากาศโลกมีความเร็วค่อนข้างมาก โดยมีความเร็วสูงถึง 71 กิโลเมตรต่อวินาที ฝนดาวตกลีโอนิดส์เป็นฝนดาวตกที่มีความสว่างมากที่สุด จึงได้รับการขนานนามว่า “ราชาแห่งฝนดาวตก ”
นอกจากฝนดาวตกลีโอนิดส์ที่จะได้ชมกันในเดือนนี้แล้ว กลางเดือนธันวาคมยังมีฝนดาวตกเจมินิดส์ หรือ ฝนดาวตกคนคู่ ตั้งแต่หลังเที่ยงคืนของวันที่ 13 ธันวาคม ต่อเนื่องไปจนถึงเช้ามืดของวันที่ 14 ธันวาคม 2564 คืนดังกล่าวก็มีแสงจันทร์รบกวนเช่นกัน แต่ดวงจันทร์จะตกลับขอบฟ้าประมาณหลังเที่ยงคืนของวันที่ 13 และจะสามารถสังเกตฝนดาวตกเจมินิดส์ได้หลังเวลา 01.30 น.เป็นต้นไป จนถึงรุ่งเช้า
คลิกชมโพสต์ต้นฉบับ