ใครมีเงินและใจถึงเชิญทางนี้ การบินไทยอัดแคมเปญสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส บัตรเบสิก และบัตรเงิน เดินทางด้วยการบินไทยและไทยสมายล์ 60 เที่ยวบินภายใน 30 เม.ย. 2565 จะได้อัปเกรดสมาชิกเป็นบัตรทอง รับสิทธิทั้งได้น้ำหนักกระเป๋าเพิ่มอีก 20 กิโลกรัม เช็กอินที่เคาน์เตอร์พิเศษ ได้ใช้ห้องรับรองการบินไทยระหว่างประเทศ และขึ้นเครื่องก่อนใคร นักเดินทางชี้ต้องบินให้ได้ตกเดือนละ 10 เที่ยวบิน
วันนี้ (1 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้จัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด (แคมเปญ) สำหรับสมาชิกรอยัล ออร์คิด พลัส บัตรเบสิก และบัตรเงิน ที่เดินทางกับการบินไทยและไทยสมายล์ เส้นทางภายในประเทศไทย ตั้งแต่ 60 เที่ยวบินขึ้นไป ระหว่างวันที่ 1 พ.ย. 2564 ถึง 30 เม.ย. 2565 สามารถอัปเกรดสถานะบัตรรอยัล ออร์คิด พลัส เป็นบัตรทองได้ โดยจะได้รับสถานภาพบัตรทองและสิทธิประโยชน์จากสถานภาพบัตรเป็นเวลา 2 ปี
สำหรับรหัสชั้นโดยสารที่ร่วมแคมเปญ ได้แก่ K, T, Q, H, M, B, Y ในชั้นประหยัด และ U ในชั้นประหยัดพรีเมียม โดยการเดินทางด้วยบัตรโดยสาร Flexi Smile Value Pack (รหัสชั้นโดยสาร K) ตามจำนวนเที่ยวบินที่กำหนดภายในระยะเวลาของแคมเปญ สามารถใช้ร่วมกับแคมเปญนี้ได้
อ่านโพสต์ต้นฉบับ คลิกที่นี่
ทั้งนี้ โดยปกติสมาชิกใหม่ รอยัล ออร์คิด พลัส หรือสมาชิกที่มีไมล์เอกสิทธิ์ (Qualifying Miles) ไม่ถึงเกณฑ์จะอยู่ในสถานะบัตรเบสิก แต่เมื่อเดินทางกับการบินไทย ไทยสมายล์ และสายการบินพันธมิตร สตาร์ อัลไลแอนซ์ สะสมไมล์เอกสิทธิ์ 10,000 ไมล์ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 15,000 ไมล์ ในระยะเวลา 24 เดือน จะได้รับการอัปเกรดเป็นบัตรเงิน ซึ่งจะได้สิทธิ์การได้ที่นั่งก่อนในขณะทำการสำรองที่นั่ง เมื่อรอการยืนยันที่นั่งแน่นอน สำหรับเที่ยวบินที่ที่นั่งเต็ม และได้รับน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระเพิ่มอีก 10 กิโลกรัม รับโบนัสไมล์ในทุกครั้งที่ได้รับหรือรักษาสถานภาพ 3,000 คะแนน
จากนั้นหากสะสมไมล์เอกสิทธิ์ 50,000 ไมล์ ในระยะเวลา 12 เดือน หรือ 80,000 ไมล์ ในระยะเวลา 24 เดือน หรือจากการเดินทางในเที่ยวบินระหว่างประเทศ 40 เที่ยวบินกับการบินไทยและไทยสมายล์ ในระยะเวลาต่อรอบ 12 เดือน จะได้รับการอัปเกรดเป็นบัตรทอง แต่การเดินทางด้วยบัตรโดยสารในรหัสชั้นโดยสาร G / V / W / L ไม่นำมาพิจารณาในการได้รับสถานภาพสมาชิกบัตรทอง รวมทั้งเที่ยวบินระหว่างประเทศของการบินไทยและไทยสมายล์ รหัสชั้นโดยสาร T, K, S, G, V, W, L จะไม่สามารถนำมาคำนวณการได้รับสถานภาพสมาชิกบัตรทองตามกฎเกณฑ์ 40 เที่ยวบินระหว่างประเทศกับการบินไทยและไทยสมายล์ ในระยะเวลาต่อรอบ 12 เดือน
สำหรับสิทธิพิเศษของบัตรทองที่น่าสนใจ ได้แก่ สิทธิ์การได้ที่นั่งแน่นอนในชั้นประหยัด เมื่อติดต่อสำรองที่นั่งกับการบินไทย ได้รับน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระเพิ่มอีก 20 กิโลกรัม สิทธิ์ในการเช็กอินที่เคาน์เตอร์พิเศษ และเมื่อเดินทางด้วยเที่ยวบินขาออกระหว่างประเทศที่ทำการบินด้วยเครื่องบินของการบินไทยภายในวันเดียวกัน จะได้ใช้ห้องรับรองของการบินไทย รอยัล ซิลค์ คลาส ที่สนามบินที่เปิดให้บริการ สำหรับสมาชิกและผู้ติดตาม 1 คน รวมทั้งสิทธิ์ในการขึ้นเครื่องก่อน รับโบนัสไมล์ในทุกครั้งที่ได้รับหรือรักษาสถานภาพ 5,000 คะแนน อภินันทนาการอัปเกรดชั้นโดยสารในเที่ยวบินไป-กลับของการบินไทย อภินันทนาการรางวัลบัตรโดยสารลดจำนวนไมล์พิเศษประจำปี รวมทั้งสิทธิ์การได้รับบริการก่อน เมื่อติดต่อศูนย์บริการทางโทรศัพท์ภายในประเทศไทย และติดต่อผ่านที่อยู่อีเมลพิเศษ เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม แคมเปญดังกล่าวเป็นที่วิจารณ์จากนักเดินทางว่า หากจะให้บินกับการบินไทยหรือไทยสมายล์ 60 เที่ยวบินภายในระยะเวลา 6 เดือน ต้องเดินทางเฉลี่ยไป-กลับเดือนละ 5 เที่ยวบิน หรือตกเดือนละ 10 เที่ยวบิน และต้องเป็นชั้นโดยสารที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นไปได้ยากที่จะออกเดินทางได้ทุกสัปดาห์ ขณะที่สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีแนวโน้มทรงตัว ทำให้มีผลต่อการตัดสินใจเดินทางออกต่างจังหวัดน้อยลง ขณะที่เส้นทางระหว่างประเทศยังไม่สามารถออกเดินทางได้ทันที จากมาตรการเข้า-ออกประเทศของแต่ละประเทศปลายทาง นอกจากนี้ การบินไทยเป็นสายการบินที่ให้บริการแบบฟูลเซอร์วิส ส่วนไทยสมายล์เป็นสายการบินไลต์พรีเมียม บัตรโดยสารจะสูงกว่าสายการบินโลว์คอสต์ เช่น แอร์เอเชีย ไทยไลอ้อนแอร์ และไทยเวียตเจ็ทแอร์ แต่มีน้ำหนักกระเป๋าสัมภาระให้ 20 กิโลกรัม