บลูเพย์ประกาศยุติให้บริการการชำระค่าบริการออนไลน์ทั้งหมด พร้อมให้สแน๊คทูโกบริหารจัดการตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติทั้งหมด พบปิดการใช้งานมายาวนานแล้ว ขณะที่ผลประกอบการย้อนหลังขาดทุนทุกปี
วันนี้ (30 ต.ค.) รายงานข่าวแจ้งว่า บริษัท บลูเพย์ จำกัด ผู้ให้บริการตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ BLUEmart และแอปพลิเคชันอี-วอลเลต BLUEpay ได้ประกาศว่า ขอยุติการให้บริการการชำระค่าบริการออนไลน์ทั้งหมด ได้แก่ ค่าสาธารณูปโภค บัตรเครดิต/สินเชื่อ ลีสซิ่ง ค่าโทรศัพท์และอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 30 ต.ค. 2564 เป็นต้นไป ขณะเดียวกัน ได้ให้บริษัท สแน๊คทูโก (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้บริหารจัดการและบริการต่างๆ ของตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติทั้งหมด ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564 เป็นต้นไป
ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาพบว่าตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติบางแห่งปิดการใช้งานมายาวนานแล้ว โดยเฉพาะตู้ที่ติดตั้งบนสถานีรถไฟฟ้า ขณะที่เฟซบุ๊กเพจ BluePay พบว่ามีผู้ใช้งานส่วนหนึ่งเรียกร้องให้บริษัทฯ คืนเงินที่คงค้างในแอปพลิเคชันเพราะไม่สามารถติดต่อได้
ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า สำหรับบริษัท บลูเพย์ จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 15 มิ.ย. 2559 ทุนจดทะเบียน 470 ล้านบาท วัตถุประสงค์ที่ส่งงบการเงินปีล่าสุด กิจกรรมอื่นๆ ที่ช่วยเสริมกิจกรรมการให้บริการทางการเงิน ซึ่งมิได้จัดประเภทไว้ในที่อื่น
งบการเงินปี 2559 มีรายได้รวม 129,295.34 บาท รายจ่ายรวม 791,266.04 บาท ขาดทุนสุทธิ 661,970.70 บาท
งบการเงินปี 2560 มีรายได้รวม 6,998,593.88 บาท รายจ่ายรวม 44,253,787.91 บาท ขาดทุนสุทธิ 37,255,194.03 บาท
งบการเงินปี 2561 มีรายได้รวม 86,970,339.77 บาท รายจ่ายรวม 246,257,170.33 บาท ขาดทุนสุทธิ 159,890,202.37 บาท
งบการเงินปี 2562 มีรายได้รวม 63,746,423.73 บาท รายจ่ายรวม 123,323,618.59 บาท ขาดทุนสุทธิ 59,640,665.81 บาท
งบการเงินปี 2563 มีรายได้รวม 6,420,971.01 บาท รายจ่ายรวม 81,801,120.90 บาท ขาดทุนสุทธิ 75,476,641.23 บาท