นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือครูเป็ด กรรมการบริหารพรรคกล้า โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว แนะนำ “พระมหา” อย่าอยู่บนความประมาท ควรมีสติ แนะหายไปฟื้นฟูจิตใจ ปัจจุบันที่อโคจรเยอะ อย่าหลงแสงสี สติฟิตสมบูรณ์แล้วค่อยกลับมา
จากกรณี “พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ” พระประจำวัดสร้อยทอง กรุงเทพมหานคร ได้ไลฟ์สนทนาธรรมกับ พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดัง โดยมียอดคนดูพร้อมกัน 2 แสนกว่า ซึ่งไลฟ์ดังกล่าวได้สนทนาธรรมภายใต้คอนเซ็ปต์ “ดังนั้น จะมาเป็น พส.เหมือนกันไม่ได้ ไม่ใครก็ใครจะต้องสู่ขิต” โดยคำว่า พส.นั้นเป็นคำติดปากของวัยรุ่นที่หมายถึง “พี่สาว” หรือ “เพื่อนสาว” แต่ในกรณีนี้จะหมายถึง “พระสงฆ์” นอกจากนี้ Official Page ของแบรนด์สินค้า สำนักข่าวคนดังต่างๆ เข้ามาร่วมชมไลฟ์และคอมเมนต์กันเป็นจำนวนมากในครั้งนี้โดยพร้อมเพรียงกันโดยมิได้นัดหมาย
อย่างไรก็ตาม พฤติกรรมดังกล่าวมีชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความคิดเห็นว่าเป็นการไม่เหมาะสม แต่บางกลุ่มก็มองว่าเป็นการสอนธรรมแบบใหม่ ล่าสุด พระมหาสมปอง ตาลปุตฺโต พระนักเทศน์ชื่อดัง ร่ำไห้กลางเฟซบุ๊กไลฟ์ถูกจ้องจับผิด จับสึกตลอดเวลา ยืนยันว่ามีเจตนาช่วยคนไม่มีอย่างอื่น ไม่เหลืองไม่แดงไม่สลิ่ม เผยแม่ที่ป่วยติดเตียงไม่สบายใจเมื่อได้ข่าว ด้านทวิตเตอร์ปั่นแฮชแท็ก #Saveพระมหาสมปอง กระหึ่ม
ทั้งนี้ นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือครูเป็ด กรรมการบริหารพรรคกล้าและศิลปินผู้คร่ำหวอดในวงการดนตรี ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว “ครูเป็ด moncheep” ในวันนี้ (14 ต.ค.) ในหัวข้อที่เกี่ยวกับพระสงฆ์ ว่า
“ผมเห็นข่าวพระสงฆ์บางรูปออกมาทำกิจกรรมบางอย่างที่ดูจะหมิ่นเหม่ต่อความควรไม่ควร และเมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์ก็มี 'หลุด' ออกมาให้เห็น
สาเหตุหลักของสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด สรุปได้คำเดียวเลยคือ...ความประมาท นักบอลต่อให้เทพขนาดไหน ถ้าประมาทไม่ค่อยซ้อมก็ฝีเท้าตกฟอร์มบู่กันทุกคน
ศัลยแพทย์มือทอง แต่ถ้าเรื้อห้องผ่าตัดไปนานสนิมก็จับหมด ต้องกลับมารื้อฟื้นฝีมือเพื่อความมั่นใจกันใหม่
เพื่อนผมหลายคนเป็นกัปตัน ช่วงโควิดไม่ได้บินนาน เขาก็ต้องไปซ้อมบินใน simulator อยู่เป็นประจำ
ยอดฝีมือในทุกสาขาอาชีพ ถึงแม้จะเก่งแค่ไหนเขาก็ประมาทไม่ได้ ต้องฝึกฝนทักษะลับฝีมืออยู่สม่ำเสมอ เพราะถ้าเผลอฝีมือก็จะตกไป
แล้วความเป็นมืออาชีพของพระสงฆ์อยู่ที่ไหน...อยู่ที่สติครับ เราคาดหวังว่าพระสงฆ์จะมีสติที่สมบูรณ์กว่าคนทั่วไป และนี่เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ท่านถูกวางอยู่ในสถานภาพที่น่าเคารพเหนือกว่าคนธรรมดา
แต่สติเป็นสิ่งที่มองไม่เห็น จับต้องได้ยาก รักษาให้อยู่ในสภาพที่สมบูรณ์ก็ยาก เผลอไผลนิดเดียวมันก็ลดลงได้ บกพร่องได้ ทางศาสนาพุทธจึงมีศีล มีข้อห้าม มีที่อโคจร มีความประพฤติที่เป็นโลกวัชชะ ฯลฯ...ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เพื่อป้องกันมิให้สิ่งแวดล้อมอันมิควรเหล่านั้นมาดึงให้สติของพระสงฆ์หลุดไป แล้วยิ่งสมัยนี้ที่อโคจรก็มีทั้ง on site และ online สำหรับท่านที่ใช้ปัญญาวิเคราะห์ ก็คงจะรู้ได้ว่าที่อโคจรออนไลน์คืออย่างไรบ้าง
แต่กับพระสงฆ์บางรูปแม้จะรู้ทั้งรู้ แต่ใจก็อาจจะประมาทว่าไม่เป็นไรน่า อาตมามีความตั้งใจดีและมีสติที่แข็งแรง แวะเข้าไปที่อโคจรออนไลน์เป็นครั้งคราวก็เพื่อหยิบยื่นธรรมะให้คนในสังคมนั้นได้เสพกันเสียบ้าง ไม่เป็นไรดอก...
แต่บางทีแวะเข้าไปบ่อยเกินก็ชักติดใจ โดนความสุข สีสัน ชื่อเสียงในโลกออนไลน์มันมอมเมาเอา สติก็บกพร่องไปโดยไม่รู้ตัว
อย่างที่บอกครับ...สติมันเป็นสิ่งที่จับต้องได้ยาก วัดความสมบูรณ์ได้ยาก กว่าจะรู้ว่ามันบกพร่องไปแล้วก็เมื่อมีอาการแสดงออก...ถ้าเป็นนักกีฬา อาการแบบนี้คือบาดเจ็บ คือไม่ฟิต...ก็คงได้รับคำแนะนำว่าอย่าเพิ่งลงสนาม ให้ไปเข้าโปรแกรมฟื้นฟูร่างกายสักพัก
เป็นพระสงฆ์ ก็ต้องเข้าโปรแกรมฟื้นฟูสติเหมือนกัน...ขอมองโลกในแง่ดีว่าท่านบวชพระมาจนได้เป็นมหา ผมก็เชื่อว่าท่านคงมีความตั้งใจและผ่านความเพียรพยายามมาไม่น้อย...ไปเข้าโปรแกรมฟื้นฟูสติ เรียกความตั้งอกตั้งใจความเข้มข้นกับตัวเองแบบเดิมๆ ของท่านคืนมา งดลงสนามสักระยะ สติฟิตสมบูรณ์แล้วค่อยกลับมานะครับ”