"การยาสูบแห่งประเทศไทย" ออกมาเปิดเผยสาเหตุที่บุหรี่ขาดตลาดเนื่องเพราะเครื่องจักรเสีย-พนักงานลาพักร้อน ระบุหากเครื่องจักรซ่อมเสร็จจะเป็นบุหรี่ล็อตใหม่และเสียภาษีในอัตราใหม่ ซึ่งจะแพงขึ้นอย่างแน่นอน
วันนี้ (9 ต.ค.) มีรายงานข่าวจาก "การยาสูบแห่งประเทศไทย" ออกมาเปิดเผยหลังบุหรี่ขาดตลาดในช่วงนี้ว่า การยาสูบฯ ได้หยุดส่งบุหรี่ให้กับร้านค้าส่งตั้งแต่ 1 ต.ค. เนื่องจากระบบสายพานของเครื่องจักรชำรุด ประกอบกับเปิดให้พนักงานลาพักร้อน ทำให้ไม่สามารถผลิตบุหรี่ออกมาจำหน่าย และต้องหยุดส่งชั่วคราว และคาดว่าหลังจากนี้จะใช้เวลาซ่อมแซมเครื่องจักรอีกประมาณ 1 สัปดาห์ จึงจะกลับมาผลิต และจำหน่ายบุหรี่ได้อีกครั้งช่วง 15-16 ต.ค.นี้ พร้อมกับปรับขึ้นราคาใหม่ด้วย
ด้าน นายณัฐกร อุเทนสุต โฆษกกรมสรรพสามิต เผยว่า ขณะนี้ได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่สรรพสามิตลงพื้นที่สำรวจตลาดบุหรี่แล้ว ในส่วนของราคาใหม่นั้น การยาสูบแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างการคำนวณและราคาขายปลีกใหม่ ขณะที่บุหรี่นำเข้าได้แจ้งการนำเข้ามาเรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะส่งผลให้กรมพิจารณาต้นทุนเร็วๆ นี้เพื่อนำมาจำหน่ายในราคาขายปลีกใหม่ ตามโครงสร้างภาษีใหม่ ตั้งแต่วันที่ 15 ต.ค.เป็นต้นไป
ที่ผ่านมาการยาสูบฯ ได้จัดส่งบุหรี่ให้กับร้านค้าส่งเป็นปกติจนถึง 30 ก.ย. ซึ่งบุหรี่ทั้งหมดยังเป็นของราคาเก่าอยู่ ดังนั้นควรจะขายปลีกในราคาเดิม แต่หากเครื่องจักรซ่อมเสร็จและกลับมาผลิตได้ ก็จะเป็นบุหรี่ล็อตใหม่และเสียภาษีในอัตราใหม่ ซึ่งราคาจะสูงขึ้นแน่ แต่จะแพงขึ้นซองเท่าไรยังไม่ทราบ ต้องรอการพิจารณาการแข่งขันด้านการตลาดก่อน แต่ราคาต้องขึ้นแน่นอนตามภาษีบุหรี่ใหม่ที่ปรับเพิ่มขึ้น