กรมสรรพสามิต เคาะอัตราภาษีบุหรี่ใหม่ คาดคลังชงเข้าครม. อนุมัติ วันนี้ (21 ก.ย.) เพื่อมีผลบังคับใช้ 1 ต.ค.64 เบื้องต้นคาดการณ์ราคาขายปลีกเพิ่มขึ้นซองละ 6-8 บาท
นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพสามิต เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมสรรพสามิตได้เสนอแนวทางการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่ให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลังพิจารณาแล้ว หลังจากนี้ คาดว่านายอาคม จะนำเรื่องการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่เสนอให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาเห็นชอบภายในเดือนนี้ เนื่องจากว่าโครงสร้างภาษีใหม่จะต้องมีผลบังคับใช้ภายในวันที่ 1 ต.ค.2564
พร้อมทั้งยืนยันว่า กรมสรรพสามิตได้มีการพิจารณาการปรับโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่อย่างรอบคอบแล้ว ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่เคยเกิดในอดีต และตอบโจทย์ใน 4 เรื่องหลัก คือ 1.ด้านสาธารณสุข 2.ด้านเกษตรกร ผู้ปลูกใบยาสูบจะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด 3.ด้านรายได้ของรัฐบาลจะต้องไม่ลดลง และ 4.ด้านการดูแล บริหารจัดการบุหรี่เถื่อน และบุหรี่ปลอม ภายใต้โจทย์ทั้ง 4 เรื่องนี้ โครงสร้างภาษีใหม่อาจจะไม่ใช่สิ่งที่กลุ่มผู้ค้าบุหรี่บางกลุ่มต้องการ เพราะว่ามีข้อเสนอที่สุดโต่งเกินไป
“ยังบอกไม่ได้ว่าโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่จะเป็นอัตราเดียว หรือ 2 อัตราเหมือนที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน แต่โดยภาพรวมภาระภาษีจะปรับเพิ่มขึ้น เพราะภาษีใหม่ต้องตอบโจทย์ทั้ง 4 เรื่องหลักดังกล่าว และกรมสรรพสามิตรู้ดีกว่าจุดยืนของแต่ละหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เป็นอย่างไร เช่น ในด้านสาธารณสุขจะมีความเป็นห่วงเรื่องสุขภาพ จึงอยากให้ขึ้นภาษีสูงๆ ซึ่งกรมฯ จะมองด้านสุขภาพอย่างเดียวไม่ได้ ต้องมองด้านอื่นควบคู่ไปด้วย เพื่อให้อุตสาหกรรมบุหรี่ทั้งอุตสาหกรรมยังเดินหน้าต่อไปได้” นายลวรณ กล่าว
รายงานข่าวแจ้งเพิ่มเติมว่า กรมสรรพสามิตได้เสนอให้กระทรวงการคลังนำโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่เสนอให้ที่ประชุม ครม. พิจารณาในวันที่ 21 ก.ย.2564 เพื่อจะได้มีเวลาให้ ครม. พิจารณาตัดสินใจ หากมีข้อปัญหาที่จะต้องเปลี่ยนแปลง หรือปรับปรุง จะมีเวลาพิจารณาในการประชุมครั้งต่อไป เพื่อให้มีผลบังคับใช้ได้ทันในวันที่ 1 ต.ค.นี้
โดยเบื้องต้นมีการคาดการณ์ว่า อัตราภาษีตามโครงสร้างภาษีบุหรี่ใหม่จะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 20% แน่นอน แต่คงไม่ถึง 40% อย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ ซึ่งจะส่งผลอาจทำให้ราคาขายปลีกบุหรี่ปรับเพิ่มขึ้นซองละ 6-8 บาท