วันนี้ (7 ต.ค.) นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม (ยธ.) ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว หลังได้รับข้อมูลจากพี่น้องประชาชน กรณีถูกเรียกเงินคืนจากโครงการเราชนะ ที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาให้ประชาชน เพราะช่วยผลักดันเศรษฐกิจฐานรากให้พ่อค้าแม่ค้า แต่ปรากฏว่า ถูกรัฐบาลเรียกเงินคืน 1 ล้าน 3 แสนบาท
ตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง ตรวจสอบเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะเจตนารมณ์ของโครงการเราชนะ ออกมาเพื่อช่วยพ่อค้าแม่ค้าผู้ประกอบการ ให้มีแรงและเม็ดเงินในช่วงวิกฤตโควิด-19 จึงอยากให้ช่วยชาวบ้านไม่ใช่มาไล่ฟ้องชาวบ้านแบบนี้ วอนนายกฯให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตนมองว่า สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ควรเอาเวลาไปไล่จับแชร์ลูกโซ่ที่หลอกลวงประชาชนดีกว่า ล่าสุด วันนี้มีผู้เสียหายบุก บก.ป.ร้องไห้ว่าถูกร้องกว่า 5,000 คน ในกฎหมาย พ.ร.ก.กู้ยืมเงิน ที่เป็นการฉ้อโกงประชาชนให้อำนาจตรวจสอบเพื่อป้องกัน ตามมาตรา 7 โดยตามระเบียบกระทรวงการคลัง ได้ออกระเบียบไว้ตั้งแต่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 ในกรุงเทพฯ ให้ผู้อำนวยการเศรษฐกิจกระทรวงการคลัง เป็นผู้ใช้อำนาจตามมาตรา 7 ในการตรวจสอบเรื่องแชร์ลูกโซ่ หรือการชักชวนหลอกให้ลงทุนต่างๆ ตนเองอยากให้ สำนักงานกระทรวงการคลัง ไปดำเนินการไล่จับกุมผู้ที่หลอกลงทุนสร้างความเดือดร้อน ดีกว่ามาไล่จับพ่อค้าแม่ค้าแบบนี้ เพราะไม่ได้ทำตามหลักธรรมาภิบาลเลย
ท้ายสุดนี้ ตนเองจึงเป็นกระบอกเสียงให้พี่น้องประชาชน ว่า หน้าที่ของรัฐควรคุ้มครองประชาชนไม่ใช่ซ้ำเติมประชาชน ในโครงการเราชนะ ไทยชนะ ม.33 ล้วนทำออกมาเพื่อช่วยประชาชน ดังนั้น เรื่องนี้ควรให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย วันนี้ตนเองเห็นประชาชนร้องทุกข์กองปราบปราม หลังถูกหลอกจากขบวนการแชร์ลูกโซ่ แต่กลับไม่เห็นมีหน่วยงานใดทำอะไรเลย ดังนั้น ตนจึงขอเอาข้อมูลนี้ออกมาให้สำนักงานกระทรวงการคลัง ว่า ท่านมีหน้าที่โดยตรงที่ต้องทำเรื่องนี้ ปกป้องชาวบ้านได้เป็นล้านคน ลดความเสียหายนับแสนล้านบาท เรื่องนี้ควรทำ ดีกว่าไปไล่จับชาวบ้านที่ทำมาหากินแบบสุจริต ตนจึงอยากให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังทบทวนด้วย จึงขอฝากท่านนายกฯสั่งการเพื่อผลประโยชน์ของประเทศและประชาชน ปล.ขอเอากฎหมาย และระเบียบมาแปะไว้ให้อ่านจะได้ไม่ต้องโยนกันว่าหน้าที่ใคร