หมอมนูญเผยข้อมูลยาต้านไวรัสโควิดชนิดเม็ดตัวแรก “โมลนูพิราเวียร์” รอผ่าน อย.สหรัฐฯ แนะประเทศไทยหากได้ยาชนิดนี้ ควรเลิกใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ทันที
วันนี้ (4 ต.ค.) เฟซบุ๊ก “หมอมนูญ ลีเชวงวงศ์ FC” หรือ นายแพทย์ มนูญ ลีเชวงวงศ์ หัวหน้าห้องไอซียูเฉพาะทางด้านโรคระบบการหายใจ ผู้ป่วยหนัก และโรคผู้สูงอายุ ประจำโรงพยาบาลวิชัยยุทธ ได้ออกมาระบุข่าวดีเกี่ยวกับยาต้านไวรัสโควิดชนิดเม็ดตัวแรก "โมลนูพิราเวียร์" โดย "หมอมนูญ" ได้ระบุข้อความว่า
"ข่าวดี คณะกรรมการที่ปรึกษาตัดสินให้ยุติการศึกษาวิจัยยาต้านไวรัส Molnupiravir โมลนูพิราเวียร์ทางคลินิกในมนุษย์ระยะที่ 3 วันที่ 1 ตุลาคมแทนที่จะเป็นปลายปี เนื่องจากผลการศึกษาพบว่ายาโมลนูพิราเวียร์เมื่อเปรียบเทียบกับยาหลอกมีประสิทธิภาพรักษาโรคโควิด-19 อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ
บริษัทเมอร์คกำลังยื่นขอการรับรองโมลนูพิราเวียร์จากองค์การอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (Food and Drug Administration) ให้ใช้เป็นกรณีฉุกเฉิน โมลนูพิราเวียร์จะเป็นยาต้านโควิดชนิดเม็ดตัวแรกที่ได้รับการรับรองจากทางการสหรัฐฯ (ในสหรัฐฯ ไม่มีการรับรองให้ใช้ยาฟาวิพิราเวียร์เหมือนบ้านเรา)
โดยบริษัทเมอร์คศึกษาและทดสอบการใช้ยาโมลนูพิราเวียร์ในกลุ่มคนติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศละตินอเมริกา ยุโรป และแอฟริการวม 775 คน มุ่งเน้นคนติดเชื้อที่ยังไม่ฉีดวัคซีน และคนที่มีความเสี่ยง เช่น คนสูงอายุ เบาหวาน โดยพบว่าผู้ติดเชื้อที่ได้รับยาแคปซูลโมลนูพิราเวียร์ขนาด 200 มิลลิกรัม 4 เม็ดวันละ 2 ครั้ง เป็นระยะเวลา 5 วัน ประมาณ 7.3% เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และไม่พบผู้เสียชีวิตจากโควิดในกลุ่มตัวอย่างนี้ตลอดการรักษา 29 วัน ขณะที่กลุ่มคนติดเชื้อที่ได้ยาหลอก (Placebo) มีผู้ที่เข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล 14.1% และมีผู้เสียชีวิตจากโควิด 8 ราย
ข้อมูลนี้น่าสนใจ ผู้ติดเชื้อที่ได้รับยาโมลนูพิราเวียร์ไม่มีใครเสียชีวิตเลย ในขณะที่คนที่ได้รับยาหลอกกลับมีผู้เสียชีวิต 8 ราย และยาโมลนูพิราเวียร์สามารถลดความเสี่ยงที่จะเข้านอนโรงพยาบาลได้ถึง 50% ยานี้มีผลข้างเคียงต่ำ ไม่แนะนำให้หญิงตั้งครรภ์ การรักษาต้องให้ยานี้เร็วที่สุดภายในเวลา 5 วันหลังเริ่มมีอาการ
ยาโมลนูพิราเวียร์ออกฤทธิ์ต่อไวรัสโควิดทั้งสายพันธุ์เดลตา แกมมา และมิว โดยทำให้รหัสพันธุกรรมของไวรัสโควิด-19 ผิดปกติ เวลาไวรัสก๊อปปี้ตัวเองจะไม่สามารถเพิ่มจำนวนได้ เรายังไม่มีข้อมูลใช้ยานี้นานๆ จะเกิดการดื้อยาหรือไม่
บริษัทเมอร์คตั้งเป้าผลิตยาให้ได้สำหรับ 10 ล้านคนภายในปีนี้ โดยทางการสหรัฐฯ เตรียมสั่งจองโมลนูพิราเวียร์แล้วสำหรับ 1.7 ล้านคน ราคายา 700 ดอลลาร์สหรัฐต่อคน เบื้องต้นบริษัทเมอร์คได้ทำสัญญากับฐานการผลิตยาหลายแห่งในประเทศอินเดีย เพื่อส่งยาโมลนูพิราเวียร์ราคาถูกให้แก่ประเทศที่มีรายได้น้อยถึงปานกลาง
นอกจากบริษัทเมอร์คแล้ว ยังมีอีกหลายบริษัท เช่น ไฟเซอร์ และโรช ก็กำลังศึกษายาต้านไวรัสชนิดเม็ดเช่นเดียวกันในการรักษาผู้ป่วยโควิด เมื่อไหร่ที่ประเทศไทยได้ยาโมลนูพิราเวียร์จากประเทศอินเดีย เราควรเลิกใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ทันที เพราะยาโมลนูพิราเวียร์มีประสิทธิภาพเหนือกว่าแน่นอน"