xs
xsm
sm
md
lg

“พีท คนเลือดบวก” อ้างโรคซึมเศร้าเพราะใช้ยาเสพติดเพื่อการศึกษา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“พีท คนเลือดบวก” นักรณรงค์ความเท่าเทียมผู้ติดเชื้อเอชไอวี เผยตัวเองอยู่ในภาวะซึมเศร้า อันเนื่องมาจากการใช้สารเสพติด มีวงเล็บเพื่อการศึกษา ชาวเน็ตถามองค์กรใด ตอบไปว่า “ส่วนตัว” ก่อนเปิดวอร์ รอบนี้มีแววได้ปะทะวงการกฎหมายไทย

วันนี้ (29 ก.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า เฟซบุ๊ก “พีทคนเลือดบวก - Pete Living With HIV Positive Undetectable” ของนายฐิฏิวัสส์ ศิรเศรษฐกร หรือ พีท คนเลือดบวก นักรณรงค์ความเท่าเทียมให้ผู้ติดเชื้อ HIV โพสต์ข้อความระบุว่า “เรียน สมาชิก Community, เพื่อนพี่น้องร่วมอุดมการณ์ ทั้งในและต่างประเทศ ทั้งระดับบุคคลและองค์กร

ผมต้องขออภัยทุกท่านที่ติดต่องานแล้วผมไม่ได้ตอบสนอง หรือล่าช้า

ขณะนี้ผมกำลังอยู่ในภาวะซึมเศร้า อันเนื่องมาจากการใช้สารเสพติด (เพื่อการศึกษา) ที่เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว ในเวลาตั้งแต่มิถุนายน 2020 และตอนนี้ผมกำลังใช้ความพยายาม สติกำลัง ในการจัดการและควบคุมอารมณ์ตัวเอง เพื่อก้าวข้ามภาวะอารมณ์ซึมเศร้าครั้งนี้อีกครั้ง

มันเป็นความรู้สึกคล้ายกันเมื่อตอนที่ผมเป็นซึมเศร้า แล้วกระโดดเข้ามาใช้สารเสพติด และอีกครั้งเมื่อผมต้องการที่จะพาตัวเองออก ผมกลับเจอสภาพสภาวะอารมณ์เดียวกันนี้ ในวันที่ผมต้องการจะยุติการศึกษา “การใช้สารเสพติดในปริมาณที่ทำให้เกิดการเสพติด” เพื่อสรุปองค์ความรู้ ความเข้าใจ ก่อนจะนำไปใช้สรุปรวบรวมเป็นองค์ความรู้เพื่อประโยชน์แก่ผู้คนต่อไป

แต่หากผมไม่สามารถรับมือกับอารมณ์ตัวเองได้ แล้วถูกกระแสของอารมณ์ที่แสนจะอ่อนไหว เชี่ยวกราก และเปราะบางนี้ จนมันทำให้ผมไม่สามารถมีชีวิตต่อไปได้ นั่นก็พึงทราบว่า ผมนั้นไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองให้รอดจากภาวะเลิกเสพติดได้ ผมก็คงไม่สามารถไปช่วยเหลือใครได้

ในช่วงเวลานี้ หากมีงานไหนที่ไม่หนักหนาเกินไป ไม่ฝืนสภาวะอารมณ์ความรู้สึกจนเกินไป ผมยังคงยินดีทำเช่นเดิม และอย่าได้มองผมว่าอยู่ในสภาพที่ไม่พร้อมจะรับผิดชอบใดๆ เสียทีเดียว เพราะมันคือการตัดสินผมไปทั้งหมด และมันเป็นการทำร้ายคนที่มีภาวะซึมเศร้าซ้ำหนักลงไปอีก

และ ณ ตอนนี้ผมได้พยายาม ความอดทน สติสัมปชัญญะ และทุกอย่างที่ผมมีอย่างถึงที่สุด เพื่อผ่านมันไปให้ได้ และผมจะกลับมาเป็น พีท ที่ส่งต่อแรงบันดาลใจ กำลังใจ และความหวังให้ทุกคนอีกครั้ง และในภาวะที่ยากลำบาก ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ เหมือนที่ผมเคยทำมาตลอด และเป็นอุดมการณ์ของผมเสมอมา..

จงใช้ชีวิตเพื่อช่วยเหลือชีวิตผู้คนให้ดีขึ้น แม้เพียงคนเดียวก็คุ้มค่า”

อย่างไรก็ตาม เมื่อมีชาวเน็ตถามว่าที่พีทกล่าวว่า “ใช้ยาเสพติดเพื่อการศึกษา” ขอทราบว่าศึกษาโดยองค์กรใด โดยได้รับอนุญาตจากใคร องค์กรใด หรือไม่อย่างไร พีทกล่าวว่า “เป็นการศึกษาส่วนตัวครับ ไม่อยู่ในการศึกษาโดยองค์กรหรือหน่วยงานใดครับ แต่อยู่ในความร่วมมือในทุกๆ ภาคส่วนทั้งในและต่างประเทศครับ” ทำให้กลายเป็นที่วิจารณ์จำนวนมากว่ามีการกระทำผิดกฎหมาย

ต่อมา พีท คนเลือดบวก โพสต์ข้อความเปิดศึกระบุว่า “ปี 2020 #พีทคนเลือดบวก ปะทะ วงการแพทย์ มาละรอบหนึ่ง! รอบนี้มีแววได้ปะทะวงการกฎหมายไทย! #ก็มาดิค้าบบบบบ”

ก่อนหน้านี้ เมื่อปี 2563 พีท คนเลือดบวก เปิดคอร์สสอนคนติดเชื้อเอชไอวีมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย สร้างความสับสนให้แก่สังคมอย่างมาก กระทั่ง นพ.ประพันธ์ ภานุภาค ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยโรคเอดส์ สภากาชาดไทย ต้องออกมาชี้แจงว่า ทฤษฎี U=U หรือ Undetectable=Untransmittable เพียงแต่บอกว่าการมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันกับผู้ติดเชื้อที่กินยาต้านไวรัสแล้วปลอดภัยจากการติดเชื้อเอชไอวี ไม่ได้บอกว่าสามารถมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกันก็ได้ การที่ผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่ตรวจไม่เจอแล้วจะไปมีเพศสัมพันธ์กับหลายคู่นอน ไม่ว่าจะป้องกันหรือไม่ป้องกันก็ตาม ไม่เกี่ยวกับ U=U

อ่านประกอบ : ตบหน้า “พีทเลือดบวก” กลางสี่แยก! กาชาดฯ แจง U=U ไม่ได้บอกว่าจะเซ็กซ์สดไม่ใส่ถุงก็ได้






กำลังโหลดความคิดเห็น