นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์โรคกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลกรุงเทพ ออกมาโพสต์ข้อความอัปเดตเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 หรือ บูสเตอร์โดส ทั่วโลก และการฉีดเข็มที่ 3 สำคัญแค่ไหน
วันนี้ (21 ส.ค.) นายแพทย์ ยงค์ศักดิ์ เลียงอุดม ศัลยศาสตร์ทางมือและจุลศัลยศาสตร์, ศัลยศาสตร์ออร์โธปิดิกส์โรคกระดูกสันหลัง โรงพยาบาลกรุงเทพ ออกมาโพสต์ข้อความลงในเพจส่วนตัว “ตามข่าวกับหมอยงค์” ในหัวข้อ “Booster shot update” โดยได้ระบุข้อความว่า
“ภูมิคุ้มกันจากวัคซีนจะลดลงตามเวลา และคนสูงอายุ และคนที่มีโรคภูมิคุ้มกันบกพร่อง หรือกินยากดภูมืจะมีภูมิคุ้มกันสร้างขึ้นน้อย จำเป็นที่จะต้องได้รับวัคซีนกระตุ้นเร็วกว่าปกติ ในอเมริกามีประชากรที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง 2.7%
อิสราเอลพบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีน Pfizer สองเข็มสำหรับ Delta variant ลดเหลือ 64% สายพันธุ์เดิมประสิทธิภาพอยู่ที่ 95% ในการศึกษาที่รายงานในเดือนมิถุนายน
การศึกษาใหม่ของอิสราเอล พบว่า ในคนที่อายุมากกว่า 65 ปี ที่ฉีดวัคซีน Pfizer ตั้งเเต่เดือนมกราคม 2021 การป้องกันการป่วยและเข้าโรงพยาบาลจะลดลงเหลือ 55% ปัจจัยคงเป็นเรื่องอายุ และภูมิคุ้มกันที่ลดลงตามเวลาเเละสายพันธุ์ Delta
การศึกษาจากเมือง Jiengzu เเละ Fudan University พบว่า การฉีด Sinovac 2 dose หลัง 6 เดือน ภูมิคุ้มกันจะลดลงอย่างมาก และลดลงตามระยะเวลาเช่นกัน อาจไม่พอสำหรับ Delta variant
ที่จุฬาฯพบว่า ภูมิคุ้มกันจาก Synovac 2 dose เริ่มลดลงทำให้เกิด breakthrough infection ไวรัสลงปอดมากขึ้น
จากการศึกษาของ Pfizer ที่ยังไม่ได้ทำ peer review พบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนในการป้องกันการติดเชื้อแบบมีอาการจะอยู่ที่ 96% สองเดือนหลังจากได้เข็มที่สอง แล้วภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดลงทุก 2 เดือน ที่ 6 เดือน ประสิทธิภาพจะเหลือ 84% ซึ่งยังสูง
การศึกษาของ Oxfords พบว่า ในระยะแรกประสิทธิภาพของวัคซีน AZ สองเข็มจะน้อยกว่า Pfizer 2 เข็ม 15% แต่ใน 3 เดือนจะมาอยู่ในระดับเดียวกัน หลัง 4 เดือนวัคซีน ASTRA จะมากกว่า Pfizer และสำหรับประสิทธิภาพในการป้องกันการป่วยนอนโรงพยาบาลสำหรับวัคซีน AZ สองเข็มจาก 68% ในสายพันธุ์ Alpha เป็น 61% ในสายพันธุ์ Delta และวัคซีน 2 เข็มของ Pfizer ประสิทธิภาพจะลดลงจาก 85% เป็น 75%
ด้วยเหตุที่ภูมิคุ้มกันลดลงตามเวลาและการมาของ Delta variant ทำให้อเมริกา อังกฤษ อิสราเอล มีนโยบายฉีดวัคซีน booster เป็น dose ที่ 3
ประชาชนอิสราเอลที่อายุมากกว่า 60 ปี จำนวนมากกว่า 600,000 คน ได้วัคซีนเข็มที่สองมาแล้วนานกว่า 5 เดือน อิสราเอลจึงจะฉีดวัคซีน dose ที่ 3 ให้แก่คนอายุเกิน 60 ปี เป็นชาติเเรก
อิสราเอลเริ่มฉีดวัคซีน Pfizer กระตุ้นเป็นเข็มที่สามสำหรับคนที่อายุสูงมาก หรือคนที่มีโรคประจำตัวที่ทำให้ภูมิคุ้มกันตำ่ โดยการฉีดเข็มที่สามจะห่างจากเข็มที่สอง 8 อาทิตย์
อิสราเอลฉีดวัคซีนเข็มที่สามไปเเล้ว 1 ล้าน dose จากประชาชน 9 ล้านคน และประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเป็น 86% อิสราเอลฉีดวัคซีนเข็ม 3 เพื่อป้องกันการที่จะต้อง lockdown อีก ซึ่งจะสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจอย่างมาก
อังกฤษกำลังจะเรื่มฉีดวัคซีน dose ที่ 3
ในว้นที่ 6 กันยายน 2021 สำหรับประชาชน 32 ล้านคน ที่มีอายุมากกว่า 50 ปี เเละผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง การฉีดจะกระทำพร้อมกับฉีดวัคซีน Flu ไปในคราวเดียวกัน ในแขนคนละข้าง
อเมริกาจะเริ่มฉีดวัคซีน dose ที่ 3 กับทุกคนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็ม โดยจะเริ่มในกลุ่มคนที่ฉีดวัคซีนมาแล้ว 8 เดือน
ทั้งบริษัท Pfizer และ Moderna ได้แสดงผลวิจัยที่แสดงให้เห็นถึงภูมิคุ้มกันที่เพิ่มขึ้นมากเมื่อฉีดวัคซีนกระตุ้นเซ็มที่สาม ซึ่งมากพอที่จะต่อสู้กับ Delta variant การกลายพันธุ์ของ Delta variant จำเป็นต้องใช้วัคซีนที่สร้างภูมิคุ้มกันที่สูงจึงจะได้ผล
การกลายพันธ์ของRBD บางตำแหน่ง ในหนาม spike protein ทำให้ภูมิคุ้มกัน antibodies ยึดติดกับหนาม spike ของไวรัสไม่ดี ไม่แน่น ทำให้เป็นเหตุให้ต้องใช้จำนวน antibodies ที่สร้างมากขึ้น และทำให้วัคซีนที่สร้าง antibodies ได้น้อยใช่ไม่ได้ผล
นักวิทยาศาตร์ จาก John Hopkins แสดงความสงสัยถึงความจำเป็นในการฉีดวัคซีน dose ที่ 3 เพราะจากข้อมูลที่มีอยู่ภูมิคุ้มกันยังสามารถป้องกันการป่วยหนักและการตายได้เป็นอย่างดี breakthrough infection ส่วนใหญ่จะมีอาการน้อย และคำถามเรื่องจริยธรรมในขณะที่ทั่วโลกยังต้องการวัคซีนอยู่มาก
จากการศึกษาของบริษัท J&J วัคซีน J$ J มีประสิทธิภาพ 85% มีประสิทธิผลอย่างน้อย 8 เดือน การศึกษาที่ South Africa ใน 480,000 คน วัคซีน J&J ให้ประสิทธิภาพป้องกันไม่ให้ป่วยเข้าโรงพยาบาลสำหรับ Delta variant 71% และสำหรับ Beta variant อยู่ที่ 67%
การฉีดวัคซีนสลับชนิดในระหว่าง dose ที่หนึ่งและ dose ที่สองกำลังเป็น trend ที่เกิดขึ้นในหลายๆ ประเทศ
หลายๆประเทศที่ฉีดวัคซีนเชื้อตายจากจีน Sinovac หรือ Sinopharm เริ่มตระหนักว่าภูมิคุ้มกันที่เกิดขึ้นไม่มากพอที่จะหยุดการระบาดของ COVID-19 ถึงแม้ว่าจะป้องกันไม่ให้ป่วยหนักหรือตาย จึงมีการฉีดวัคซีนเข็มสองสลับเป็น วัคซีน AZ หรือ mRNA วัคซีน เช่นไทย อินโดนีเซีย เวียตนาม และ UAE อุรุกกวัย และตุรกี
อุรุกกวัยซึ่ง 61% ของประชาชนฉีดวัคซีน Sinovac อุรุกวัยจะฉีดวัคซีน Pfizer กระตุ้น ประเทศตะวันตกไม่มีการฉีดวัคซีนเชื้อตายจากจีน นอกจาก ฮังการี เซอร์เบีย จึงไม่มีปัญหาภูมิคุ้มกันตำ่จากวัคซีนเชื้อตาย เยอรมัน แคนาดา ฉีดวัคซีนสลับเพราะต้องการให้ภูมิมากขึ้น และเพื่อแก้ไขปัญหาในการบริหารวัคซีนที่มีอยู่
ผลการศึกษาที่พิมพ์ ในนิตยสาร Lancet ได้แสดงให้เห็นถึงภูมิคุ้มกันที่ดีมากขึ้นเมื่อใช้วัคซีน AZ ตามด้วยวัคซีน mRNA
วัคซีนสองเข็มของ Pfizer จะสร้างภูมิคุ้มกัน antibodies ได้สูงสุด วัคซีนสลับ เข็มหนึ่งและเข็มสอง mix&match โดยใช้วัคซีน Az กับวัคซีน Pfizer จะให้ภูมิคุ้มกัน antibodies มากกว่าวัคซีน AZ สอง dose แต่การฉีดวัคซีนด้วย 3 วิธีการล้วนให้ภูมิคุ้มกันที่สูง
แต่มีการศึกษาใหม่ที่ผลออกมาพบว่า การฉีดวัคซีน AZ สลับ mRNA วัคซีนได้ผลภูมิคุ้มกัน antibody สูงสุดมากกว่าวัคซีน mRNA 2 doses แต่การใช้วัคซีน AZ สลับกับวัคซีน Pfizer จะได้ประโยชน์จากภูมิคุ้มกันที่สูงทั้ง antibody และ จาก cell immunity
แคนาดาและเยอรมันให้ฉีดวัคซีนเข็มแรกด้วยวัคซีน AZ และเข็มที่สองเป็น mRNA วัคซีน จะให้ภูมิคุ้มกันดีกว่าใช้วัคซีนชนิดเดียวกัน เพราะวัคซีน AZ มีการตอบสนองสร้างภูมิคุ้มกัน cell immunity ได้ดีกว่าวัคซีน mRNA แต่วัคซีน mRNA มีการตอบสนองการสร้าง antibodies ได้ดีที่สุด เมื่อรวมกันจึงได้ผลดียิ่งขึ้น
ผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร nature medicine แสดงผลภูมิคุ้มกันที่ดี ทั้ง antibodies และ cell immunity ที่มากพอที่จะช่วยกลุ่มผู้ป่วยที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่องจากตัวโรคหรือจากการใช้ยากดภูมิ เช่น กลุ่มปลูกถ่ายอวัยวะ
อังกฤษกำลังพิจารณาการฉีดวัคซีนสลับระหว่าง วัคซีน AZ และวัคซีน mRNA สำหรับกลุ่มคนที่ยังไม่ได้วัคซีน เพราะผลที่ดีเลิศ
กรมวิทยาศาสตร์การเเพทย์ได้แสดงผลการศึกษาของวัคซีน mix&matches ในวัคซีนเชื้อตายในระดับ laboratory study ซึ่งมีจำนวน 125 คน และอาสาสมัครมักเป็นคนอายุไม่มากเฉลี่ย 40 ปี สร้างภูมิคุ้มกันได้ดี พบว่าวัคซีน SV+SV ได้ภูมิคุ้มกันต่ำสุด วัคซีน AZ ตามด้วย SV ก็ไดภูมิคุ้มกันที่ตำ่ NT 50 อยู่ที่ 25.84 วัคซีน SV ตามด้วย AZ ภูมิคุ้มกันจะสูงเท่า AZ+ AZ คือ NT50 อยู่ที่ 78 และ 76 ซึ่งจะสอดคล้องกับ study ที่เคยทำมาแล้วที่อังกฤษ คือ ต้องคิดว่าการฉีดวัคซีนเชื้อตายเป็นการติดเชื้อแบบอ่อนๆ แล้วตามกระตุ้นด้วยวัคซีน AZ ใน study จากอังกฤษถ้าฉีดวัคซีน AZ ภายหลังติดเชื้อเเบบมีอาการภูมิคุ้มกันจะเพิ่มขึ้นถึงหกเท่า
ดังนั้น จึงไม่มีที่ใช้สำหรับการกระตุ้น dose ที่สองด้วย Sinovac หลังวัคซีน AZ สำหรับการฉีดวัคซีน 3 เข็ม พบว่า SV+SV แล้วตามด้วย Sinopharm ได้ NT50 อยู่ที่ 61.27 ซึ่งตำ่กว่า SV+SV แล้วตามด้วย วัคซีน AZ ค่า NT 50จะสูงกว่ากันมากคือ 271.68 การฉีดวัคซีนเชื้อตาย 3 เข็มก็ดูจะมีที่ใช้
มาดูการศึกษาจากศิริราช ซึ่งเป็นการศึกษาระดับ laboratories เช่นกัน โดยวัดระดับ anti RBD Ig G หลังได้วัคซีน ผลลัพธ์จะออกมาคล้ายกัน คือ วัคซีน AZ ตามด้วย SV ผล antiRBD IgG จากระดับ 147 ขึ้นไปที่ 222 ซึ่งจะตำ่ใกล้เคียงกับ SV+SV ซึ่งอยู่ที่ 229 และจะเทียบไม่ได้เลยกับวัคซีน SV เเล้วตามด้วย วัคซีน AZ จะขึ้นจาก 24 เป็น 1,355 หน่วย
สำหรับการฉีดวัคซีนเข็มที่สามก็ผลใกล้เคียงกัน วัคซีน SV+SV แล้วตามด้วยวัคซีน AZ จะขึ้นจาก 52 เป็น 1,500 หน่วย
แต่ SV+SV และตามด้วย Sinopharm ซึ่งเป็นวัคซีนเชื้อตายด้วยกัน anti RBD Ig G ขึ้นจาก 44 เป็น 218
แต่อาจารย์ธีรวัตน์ จากจุฬาฯ ติงว่า การวัดระดับ antibody ในการศึกษา ไม่ใช่ truly neutralize antibody สำหรับไวรัส Delta จึงยังไม่แน่ใจในผลที่ใช้ SV ตามด้วย AZ
หัวหน้า CDC แถลงต่อรัฐสภาว่า หลังจากฉีดวัคซีนเข็มที่ 3 มีโอกาสที่ภูมิคุ้มกันจะคงอยู่ตลอดไปไม่ต้องฉีดวัคซีนเป็นรายปี ซึ่งจะเป็นเหมือนหลังจากฉีดวัคซีน hepatitis B ซึ่งมีผลวิจัยสนับสนุน การศึกษาที่สำคัญจาก Washington University ที่ตีพิมพ์ในนิตยสาร Nature โดยพบว่าหลังจากฉีด mRNA วัคซีน 15 อาทิตย์ ในคนที่ศึกษา 14 คน พบว่าใน germinal center ของต่อมน้ำเหลือง เซลส์ memory B cell ยังทำงานอย่างแข้งขันอยู่ ซึ่งตามปกติหลังจากฉีดวัคซีน 2-4 อาทิตย์เซลล์ ความจำ memory B cell จะไม่ทำงาน
ซึ่งนักวิจัยอธิบายว่า เมื่อมีเชื้อโรค COVID-19 เข้ามา เซลล์ memory B cell ในต่อมน้ำเหลืองจะถูกกระตุ้นให้สร้างภูมิคุ้มกัน ซึ่งจากการวิจัยนี้มีแนวโน้มอาจว่าหลังฉีดวัคซีน mRNA ภูมิคุ้มกันจะคงอยู่เป็นเวลาหลายปี ผ่านการทำงานของ memory B cell ถึงแม้ภูมิคุ้มกัน antibodies ที่สร้างไว้เดิมจะลดลงแล้วแต่สามารถสร้างใหม่จากเซลล์ความจำ memory B cell เมื่อเชื้อ COVID-19 รุกรานเข้ามา โดยไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน ปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นเฉพาะภายหลังฉีดวัคซีน mRNA ของ Pfizer และ Moderna แต่อาจไม่เกิดขึ้นกับวัคซีนชนิดอื่นๆ”