พบภาพมุมสูงเด็กชายวัย 14 จุดประทัดยักษ์โยนใส่ตำรวจแต่ระเบิดคามือจนนิ้วขาด ก่อนพบติดโควิด ย้ำชัดไม่มีใครยัดใส่มือ แม่ยืนยันลูกชายเป็นคนเงียบ เรียบร้อย ไม่พูดไม่จากับใคร ไม่เคยเห็นแสดงออกทางการเมือง เสียใจมากเมื่้อรู้ข่าว
วันนี้ (12 ส.ค.) จากกรณีที่ในโลกโซเชียลฯ มีการแชร์ภาพและคลิปชายรายหนึ่ง สวมเสื้อสีน้ำเงิน จุดประทัดยักษ์เพื่อที่จะโยนใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ปรากฏว่า ประทัดยักษ์ระเบิดคามือ ทำให้มือซ้ายเป็นแผลเหวอะหวะ ต้องใช้น้ำดื่มบรรจุขวดล้างแผลก่อนนั่งซ้อนรถจักรยานยนต์ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลรามาธิบดี ระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมที่อารมณ์ค้างหลังกลุ่มที่เรียกตัวเองว่ากลุ่มทะลุฟ้า ยุติการชุมนุม แสดงความไม่พอใจเข้าโจมตีตำรวจควบคุมฝูงชน และเผาทำลายทรัพย์สินราชการ เช่น ป้อมตำรวจ รถยกของ สน.ดินแดง เหตุเกิดที่ปากทางอุโมงค์ดินแดง ถนนอโศก-ดินแดง แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพฯ
ต่อมา พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุที่ได้รับบาดเจ็บ เป็นเยาวชนอายุ 14 ปี สวมใส่เสื้อช็อปอาชีวะได้จุดประทัดยักษ์ แต่เกิดพลาดระเบิดใส่มือข้างซ้ายของตนเอง ทำให้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจสอบที่โรงพยาบาล พบว่า ได้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้อง ICU และแพทย์ได้ทำการตรวจหาเชื้อโควิด-19 ผลการตรวจเบื้องต้นพบว่าติดเชื้อโควิด-19 และยังโต้กลับเฟกนิวส์ เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้เอาประทัดยักษ์ยัดใส่มือแต่อย่างใด หนึ่งในผู้ชุมนุมเป็นผู้จุดประทัดยักษ์เอง แต่เกิดพลาดระเบิดใส่มือข้างซ้ายของตนทำให้ได้รับบาดเจ็บ
อ่านประกอบ : แชร์สนั่น! ม็อบปาประทัดยักษ์ใส่ตำรวจ ระเบิดคามือจนนิ้วขาด เหตุเกิดแยกดินแดง
ม็อบผวา! มือปาระเบิดพลาดติดเชื้อโควิด รองโฆษก สตช.ยันข่าวเฟกนิวส์ ตร.ยัดระเบิดใส่มือ
ล่าสุด เฟซบุ๊ก “เปาบุ้นจุ้น” ได้เผยแพร่ภาพมุมสูง ระบุว่า “ภาพมุมสูงวินาที ระเบิดคามือ ตัดเรื่องมโนที่ว่า ตำรวจเอาระเบิดยัดใส่มือน้อง หรือเรื่องที่ว่า น้องโดนยิงด้วยกระสุนยาง เลยทำให้ขว้างระเบิดออกไปไม่ได้นะ”
ชมโพสต์คลิก
อีกด้านหนึ่ง รายงานข่าวจาก สถานีโทรทัศน์ท็อปนิวส์ ระบุว่า ชายคนดังกล่าวเป็นเพียงเด็กชาย อายุ 14 ปี ยังไม่บรรลุนิติภาวะ และกำลังศึกษาอยู่ในระบบสำนักส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (กศน.) หรือศึกษาผู้ใหญ่ เมื่อลงพื้นที่บ้านของเด็กชายคนดังกล่าว พบแม่ที่ประกอบอาชีพเป็นแม่ค้า กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า ไม่เคยรู้มาก่อนว่าลูกชายมีแนวคิดรุนแรง หรือเข้าไปมีส่วนร่วมกับการชุมนุมขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เพราะนิสัยส่วนตัว ลูกชายเป็นคนเงียบ เรียบร้อย ไม่พูดไม่จากับใคร และไม่เคยแสดงความคิดเห็นทางด้านการเมืองให้ได้ยิน เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นจึงรู้สึกเสียใจมาก เพราะนอกจากจะเสียมือซ้ายไป 1 ข้าง ยังต้องเผชิญกับการติดเชื้อโควิด-19 จึงอยากขอใช้เวลาดูแลลูกชายเงียบๆ เพียงลำพัง
สำหรับพื้นเพของเด็ก อาศัยอยู่กับยายย่านสำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ เนื่องจากพ่อแม่แยกทางกัน โดยมีแม่ซึ่งทำอาชีพเป็นแม่ค้า พนักงานขายสินค้าในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ทำหน้าที่ส่งเสียเลี้ยงดู ซึ่งแม่ไม่เคยรับรู้มาก่อนว่าลูกมีพฤติกรรมเข้าร่วมกับม็อบปะทะกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ในการชุมนุมขับไล่รัฐบาล ขณะที่ยายของเด็กชายคนดังกล่าว ให้ข้อมูลกับตำรวจว่า รู้สึกตกใจมาก ไม่คิดว่าหลานจะเข้าร่วมกับม็อบก่อเหตุรุนแรง ภายหลังได้รับแจ้งข้อมูลของหลานจากโรงพยาบาล ก่อนจะติดต่อไปยังแม่เด็ก ให้มาดูแลลูกอย่างใกล้ชิด