เจ้าท่าเชียงใหม่ เร่งหา 2 นักซิ่งเจ็ตสกีแม่น้ำปิงมารับโทษ เผย หากต้องทำกิจกรรมในลำน้ำ หรือจัดการแข่งขันต้องขออนุญาตก่อน ด้านชาวบ้านหวั่นคนทำตามเยอะ และทำให้ตลิ่งทรุดตัวตามมา
เมื่อวันที่ 9 ส.ค. เพจเฟซบุ๊ก “กูรูเชียงใหม่ เรื่องเชียงใหม่กูรู้” ได้แชร์คลิปวิดีโอจากชาวบ้านที่อยู่อาศัยริมฝั่งแม่น้ำปิง ช่วง ตำบลสันผีเสื้อ อำเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวัดเชียงใหม่ หลังจากพบว่ามีการนำเจ็ตสกีมาขับขี่ในแม่น้ำปิงช่วงดังกล่าว ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา และเริ่มมาถี่ขึ้น โดยมีลักษณะที่มีผู้ขับขี่เจ็ตสกีสองลำขับขี่อย่างรวดเร็ว ส่งเสียงดัง และมีลักษณะเหมือนกับการเร่งเครื่องแข่งกันอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจว่าจะส่งเสียงรบกวนชาวบ้านที่อยู่ริมแม่น้ำปิง รวมทั้งชาวบ้านที่หาปลาริมตลิ่ง ทั้งที่ตกปลา และใช้เรือเล็กหาปลาอยู่ เนื่องจากช่วงที่มีการใช้ความเร็วก็จะเกิดคลื่นแรงกระแทกเข้ามาสองฝังแม่น้ำปิง
ล่าสุด เผยความคืบหน้าระบุว่า นายพงษ์ธร ชำนิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาเชียงใหม่ ซึ่งลงตรวจสอบในกรณีดังกล่าว เผยว่า “เหตุการณ์ลักษณะนี้มีความผิด เพราะส่งเสียงดังสร้างความรำคาญให้กับชาวบ้านในพื้นที่ ขณะนี้ได้มีการตรวจสอบใบอนุญาตการจดทะเบียนเจ็ตสกี ของจังหวัดเชียงใหม่ มีเพียง 1 ลำ เมื่อปี 2563 และในปี 2564 นี้ ในจังหวัดเชียงใหม่ มีการขอต่อทะเบียนเจ็ตสกีเพียง 2 ลำ ซึ่งเป็นเรือที่นำมาจากพื้นที่อื่น และขอต่อทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างเร่งตรวจสอบท่าเรือบริเวณริมน้ำปิงหาจุดที่เจ็ตสกีสองลำนี้ลงแม่น้ำปิงและติดตามตัวคนขับต่อไป และกรณีเจ็ตสกีสองลำที่ขับเร่งความเร็วแข่งกันในแม่น้ำปิงที่จังหวัดเชียงใหม่ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หากใครพบเห็นเหตุการณ์ลักษณะนี้สามารถแจ้งตำรวจได้ทันที และสำหรับการกีฬาที่ไม่มีเครื่องยนต์ก็สามารถใช้งานได้เป็นปกติอยู่แล้ว แต่หากต้องมีการทำกิจกรรมในลำน้ำ เช่น การจัดการแข่งขันต่างๆ ก็จะต้องมีการขออนุญาตกับทางเจ้าท่าก่อนจึงจะทำกิจกรรมได้”
ขณะที่ชาวบ้านริมแม่น้ำปิงตรงจุดเกิดเหตุ (ขอสงวนนาม) เปิดเผยว่า ที่ผ่านมา ไม่เคยพบการนำเจ็ตสกีมาขับขี่ในแม่น้ำปิงมาก่อน จะมีก็เพียงเรือหาปลาขนาดเล็กของชาวบ้าน และเรือพายออกกำลังกายบ้าง และก่อนหน้านี้ ก็จะมีเรือนำเที่ยวของเอกชนบ้าง แต่ในช่วงโควิดไม่มีนักท่องเที่ยวก็แทบจะไม่มีเรือนำเที่ยวผ่านไปมาเลย ส่วนเจ็ตสกีสองลำนี่ก็เพิ่งพบไม่กี่วันที่ผ่านมา หากขับขี่ปกติไม่เร่งเครื่องใช้ความเร็วก็ไม่เดือดร้อนอะไรกับชาวบ้าน แต่ที่พบคือมีสองลำเร่งเครื่องเสียงดังและขี่แข่งกันด้วยความเร็วทำให้เกิดคลื่นน้ำซัดเข้ามายังริมตลิ่งไม้ จะยังไม่มีผลกระทบอะไรมาก แต่ถ้าหากหลายคนเข้าใจว่าทำได้แล้วมีคนนำมาขี่กันมากขึ้น เชื่อว่า มีผลกระทบกับริมตลิ่งที่อาจเกิดการทรุดตัวได้แน่นอน
คลิกโพสต์ต้นฉบับ