เพจการเมือง "สติค่ะลูกกกก" จับโกหกทวิตเตอร์ดัง โพสต์เชิงไสยศาสตร์ในวัง และอ้างว่าเคยติดคุก ที่สมศักดิ์ เจียมฯ แนะนำให้อ่าน พบช่วงที่อ้างว่าติดคุก ยังเล่นทวิตเตอร์ได้ ด้านเพจแฉร่างทรงดังถาม "วงในจริงหรือเปล่า" ย้ำไม่มีบาตรแตก บนพระเมรุมาศไม่มีพิธีอะไรที่เป็นความลับ และไม่มีการเปลี่ยนแบบแพลน เอาภาพมาถามกลับ คนที่บอกประจำหลุมที่ 2 อยู่ตรงไหน
วันนี้ (7 ส.ค.) จากกรณีที่ผู้ใช้ทวิตเตอร์ III ฟ้าฝน ver. เกรี้ยวกราด ได้โพสต์เรื่องเล่าในเชิงไสยศาสตร์ในวัง และคุกแห่งหนึ่ง อ้างว่าเคยถูกลงโทษจนตัวเองมีภาวะ PTSD ต้องลาออกจากงาน โดยมีนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล ผู้ต้องหาคดีมาตรา 112 ปัจจุบันลี้ภัยที่ประเทศฝรั่งเศส เป็นคนแนะนำให้อ่าน แต่ออกตัวไม่รับรองว่าข้อความทั้งหมดเป็นความจริง เอามาให้ทุกคนร่วมกันพิจารณา ปรากฎว่ามีผู้สนับสนุนม็อบราษฎรให้ความสนใจตามอ่านจำนวนมาก
ปรากฎว่า เฟซบุ๊ก "สติค่ะลูกกกก" โพสต์ไทม์ไลน์ของผู้ที่ใช้นามว่า III ฟ้าฝน ver. เกรี้ยวกราด ระบุว่า "หลายคนคงได้เห็น #เรื่องเล่าtwitter ที่ไม่รู้เบื้องหลังคีย์บอร์ดนั้นคือใครด้วยซ้ำ มาเล่าเรื่องไสยศาสตร์ในวัง บลาๆๆ ช่วงเมื่อวานนี้ แล้วคนก็เชื่อไปต่างๆนาๆ เป็นตุเป็นตะมาก แต่คุณว่าแปลกดีไหม อ้างว่าตัวเองติดอยู่ในคุก ... ตอนช่วงราว 4 - 6 พ.ค. 62 ถึง เดือน ส.ค. 62 (ราว 3 เดือน) โดนริบโทรศัพท์ด้วย แล้วเอาที่ไหนมาเล่นทวิตเตอร์ในวันที่ 12 พ.ค. 62 ที่อ้างว่าติดคุกอยู่ แค่นี้ก็ชัดแล้วว่า… เรียนจบเอกมโนต่อโทไม่เนียน #ร่วมด้วยช่วยแชร์ให้คนรู้ความจริง #โกหกไม่เนียน"
สำหรับไทม์ไลน์ของ ทวิตเตอร์ III ฟ้าฝน ver. เกรี้ยวกราด ระบุว่า 23 พ.ย. 2560 เปิดทวิตเตอร์ครั้งแรก, 25 พ.ย. 2560 ข้อความที่ทวิตส่วนใหญ่จะเป็น #MissUniverse, 26 พ.ย. 2560 พบร่องรอยการรีทวีต แจกฟอลฟรี เกาะแฮชแท็ก #MissUniverse, แต่ช่วงเหตุการณ์ที่ถูกกล่าวอ้างว่าอยู่ในคุก ตั้งแต่ พ.ค. ถึง ส.ค. 2562 ยังมีการเคลื่อนไหวในทวิตเตอร์ วันที่ 12 และ 16 พ.ค. 2562 กระทั่งวันที่ 17 พ.ย. 2563 กลับมาเคลื่อนไหวอีกครั้ง รีทวีต No Salim Shopping List จากนั้นรีทวีตส่วนใหญ่เป็นเรื่องการเมือง เรื่องม็อบ กระทั่งวันที่ 4 ส.ค. 2562 ออกมาทวิตเกี่ยวกับวัง
ขณะที่เฟซบุ๊ก "คุณท้าวศรีสุวรรณภิรมย์ภักดี" ซึ่งโพสต์เรื่องราวเกี่ยวกับการตีแผ่ร่างทรงและพิธีกรรมต่างๆ มีผู้กดถูกใจกว่า 242,897 คน ได้โพสต์ข้อความถามหาเจ้าของทวิตเตอร์ ระบุว่า "มีคนส่งประเด็นนี้มาให้อิชั้นอ่านเยอะมาก และอิชั่นขอขยายความให้เข้าใจตามนี้นะเจ้าคะ
ประเด็นแรก เรื่อง ฝังบาตรแตก ในการสร้างพระเมรุมาศ คือตามจริงในพิธีพราหมณ์การปักหมุดด้วยไม้มงคล ถ้าเปรียบทั่วไปคือการลงเสาเอกเหมือนที่เราทำก่อนปลูกบ้าน สิ่งที่ใส่ในก้นหลุมไม่ใช่บาตรแตก เป็นเพียงหมุดไม้ และพอเสร็จงานก็มีพิธีถอนออก ซึ่งพิธีนี้ไม่ต้องมีเจ้านายเข้ามาทำ ยกให้เป็นหน้าที่ของพราหมณ์และผู้ที่ได้รับมอบหมายงานก่อสร้าง ไม่มีพิธีสะกดวิญญาณใดๆ ในที่นั้นมีสื่อมวลชนและคนอื่นๆร่วมงานมากมาย
ประเด็นที่สอง บนพระเมรุมาศไม่มีพิธีอะไรที่เป็นความลับ เว้นแต่การเชิญพระหีบนอน ส่วนตอนถวายเพลิง ไม่มีการดับไฟ แต่ที่ไม่ให้ถ่ายทอด เพราะข้างบนคือร้องไห้กันอยู่ แค่ไม่อยากให้เห็นภาพที่ไม่สวยงาม และข้างบนนี้ก็ไม่มีพิธี ขอสมบัติอะไรทั้งสิ้น มีแต่พระราชาคณะพิจารณาผ้าไตร และพิธีถวายน้ำมะพร้าวที่ไม่ได้ถ่ายทอดออกไป แค่นั้นเจ้าคะ
ประเด็นที่สาม พระเมรุมาศมีการวางแผนแบบแปลนล่วงหน้าก่อนการก่อสร้าง มีการพิจารณาแล้วสมบูรณ์จนเสร็จ 100% ก่อนการก่อสร้าง ไม่มีการมาเปลี่ยนแบบเตา แบบแปลนอะไรเลย 905 เป็นผู้ดำเนินการจนเรียบร้อย
อิชั้นอยากจะถามคนที่อ้างตัวว่าวงใน อิชั้นอยากทราบว่า ในเท่าอิชั้นหรือเปล่าเจ้าคะ"
ต่อมาโพสต์ข้อความ ระบุว่า "ต้องตั้งคำถามใหม่นะเจ้าคะ ว่าการที่เราจะปฏิรูปสังคมส่วนรวมให้ก้าวไปสู่สภาวะสังคมสมัยใหม่ยังไงให้เดินไปพร้อมกันได้ โดยที่เราไม่จำเป็นต้องใช้ตัวบุคคล ตัววัตถุ ความเชื่อ เข้ามาเป็นเครื่องมือ สุดท้ายเราจะเสียคนเก่ง คนมีความสามารถและโอกาสไป โดยไม่เกิดประโยชน์อะไรเลย"
กระทั่งได้โพสต์ภาพพิธีปักหมุดสร้างพระเมรุมาศ พร้อมกับข้อความระบุว่า "คนที่บอกประจำหลุมที่ 2 อยู่ตรงไหน เอาปากกามาวงให้ทีเจ้าค่ะ" และโพสต์คอมเมนต์ว่า "หมุดเอกทำจากไม้ทองหลาง ปักลงบนดิน ตอกด้วยสามเกลอที่ทำจากไม้สัก ตรงกึ่งกลางพระเมรุมาศเป็นหมุดแรก ขณะที่หมุดรอง 8 หมุด ทำด้วยไม้พะยูง มีบุคคลสำคัญ 8 ท่าน เป็นผู้ปักหมุด ทุกหมุดลึก 20 เซนติเมตร แต่ละหมุดจะทำพิธีลงอักขระจากจากวัดสุทัศฯ โดยมีพระมหาราชครูพิธีศรีวิสุทธิคุณ เป็นพราหมณ์ผู้อ่านโองการบวงสรวง ไม่มีการขุดหลุมใดๆ มีแต่การตอกหมุดลงไป"
อีกข้อความหนึ่ง ระบุว่า "สถานที่เกิดเหตุที่มีการพาดพิงถึงคือจุด วัดราชบพิธฯ วันงานที่นี่ไม่เคยมีการสร้างพลับพลา สร้างห้องน้ำ สร้างห้องเปลื้อง เพราะที่นี่มีหอพลับพลาสำหรับเปลื้องหมวกพระมาลาอยู่แล้ว และเจ้าพนักงานได้ขอใช้ห้องน้ำและห้องด้านล่างอาคารนี้เป็นที่ประทับรับรองชั่วคราว ซึ่งไม่มีการสร้างขึ้นมาใหม่อย่างแน่นอน และหากต้องมีการสร้างพลับพลาที่ประทับรับรองชั่วคราว จะไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับทางกรมโยธา เพราะเรื่องนี้อยู่ในความรับผิดชอบของกองงานพิธี เรามีพลับพลาชั่วคราวสำเร็จพร้อมใช้งานอยู่แล้ว หากต้องใช้ไม่จำเป็นต้องสร้างใหม่เลยเจ้าค่ะ ส่วนรอบนอกมีการตั้งเต็นท์สำหรับให้ข้าราชการนั่ง ไม่มีการสร้างพลับพลาใดๆ รถห้องน้ำมีจอดรอให้ใช้งานอยู่ด้านนอก
การแจกโบว์ดำ ประเด็นนี้อิชั้นก็พึ่งเคยได้ยินตอนนี้เอง บ้านใหญ่ถ้าจะมีการทำโทษเราไม่เคยได้ยินคำว่า แดกหัว คำว่า แจกโบว์ จะใช้คำว่าโดนซ่อมแทน (ธำรงวินัย) ซึ่งการโดนซ่อมก็จะต้องเป็นผู้ที่กระทำความผิดจริงๆ
ส่วนประเด็นเรือนจำทวีวัฒนาอิชั้นเข้าไปอ่านแล้ว ได้แต่ถอนหายใจ หลายคนที่ยังปฏิบัติหน้าที่อยู่ตรงนั้น ยังทักมาหัวเราะกับอิชั้นถึงเรื่องนี้ว่าทำไมไม่มีใครรู้ทั้งๆ ยืนอยู่ตรงนี้ตลอด อิชั้นก็เลยงงตามเจ้าคะ"
ก่อนส่งท้ายด้วยข้อความว่า "จบ 3 เรื่องที่อยากจะพูดแล้ว ไม่ต้องมาผลักให้อิชั้นไปเป็นสลิ่ม ไม่ต้องมาผลักให้อิชั้นไปเป็นสามกีบนะเจ้าคะ เพราะอิชั้นยังเชื่อว่า การจะเดินไปข้างหน้าได้ เราไม่สามารถเดินไปคนเดียวได้ ยังไงเราก็ต้องไปพร้อมกัน เพียงแต่ตอนนี้ยังมีเส้นบางๆมากั้นเอาไว้กันอยู่ อย่าไปด่าคนที่เค้าคิดเห็นต่างว่าโง่ เพราะทุกคนย่อมเชื่อในความของตนเอง มีเหตุผลของตัวเอง #ถึงอิชั้นจะเป็นรุ่นเก่าแต่ความคิดของอิชั้นไม่เก่านะเจ้าคะ"