เปิดเอกสารกำกับยาภาษาไทย วัคซีนไฟเซอร์ พบต้องเจือจางกับน้ำเกลือก่อนใช้ ตามที่หมอโอภาสบอก 1 ขวดมี 6 โดส ขั้นตอนสุดยุ่งยาก คว่ำขวดวัคซีนขึ้นลงช้าๆ อย่างเบามือ 10 ครั้ง ห้ามเขย่า หลังจากเจือจางต้องใช้ภายใน 6 ชั่วโมง
วันนี้ (30 ก.ค.) จากกรณีที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาบริจาควัคซีนโคเมอร์เนตี (COMIRNATY) ของบริษัทไฟเซอร์-ไบออนเทค หรือที่เรียกกันเป็นภาษาชาวบ้านว่า วัคซีนไฟเซอร์ จำนวน 1.54 ล้านโดส โดยได้จัดส่งทางอากาศมาถึงประเทศไทยเมื่อเช้านี้ ซึ่งแผนการกระจายวัคซีนไฟเซอร์แบ่งออกเป็น บุคลากรการแพทย์ที่ดูแลผู้ป่วยโควิด-19 ทั่วประเทศ 700,000 โดส, กลุ่มเสี่ยง ผู้สูงอายุ ผู้มี 7 โรคเรื้อรัง อายุ 12 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ตั้งแต่ 12 สัปดาห์ขึ้นไป ในจังหวัดระบาดสูง 645,000 โดส, ชาวต่างชาติในไทย เน้นผู้สูงอายุ มีโรคเรื้อรัง และผู้จำเป็นต้องเดินทางไปต่างประเทศ 150,000 โดส, เพื่อทำการศึกษาวิจัย 5,000 โดส และสำรองส่วนกลาง 40,000 โดส
ก่อนหน้านี้ นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงวัคซีนไฟเซอร์ว่า เมื่อวัคซีนมาถึงแล้วจะนำไปเก็บที่คลังวัคซีนที่กำหนด ซึ่งต้องเก็บในอุณหภูมิ -70 องศาเซลเซียล และจะมีการสอนวิธีการผสมการฉีดวัคซีน เพราะวัคซีนไฟเซอร์จะไม่เหมือนวัคซีนที่เราใช้ ไม่ว่าจะแอสตร้าเซนเนก้า หรือซิโนแวคที่ดูดจากขวดและเก็บรักษาที่ 2-8 องศาเซลเซียสก็สามารถนำมาฉีดประชาชนได้เลย แต่วัคซีนไฟเซอร์ตัวนี้ต้องเก็บที่อุณหภูมิ -70 องซาเซลเซียส จากนั้นจะขนส่งไปยังหน่วยฉีดเพื่อเก็บที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียล ซึ่งขั้นตอนเก็บ 2-8 องศาเซลเซียสนี้วัคซีนจะอยู่ได้ไม่นาน ประมาณ 4 สัปดาห์ เวลาเอาออกมาต้องรีบใช้ และการใช้จะแตกต่างกัน ต้องมีการผสมน้ำเกลือ เพราะเป็นวัคซีนเข้มข้น จึงต้องผสมน้ำเกลือให้ได้ตามสัดส่วนและดูดจากขวดใหญ่ไปฉีดให้ประชาชน โดย 1 ขวดจะฉีดได้ 6 คน
รายงานข่าวแจ้งว่า ในโซเชียลมีเดียมีการเผยแพร่เอกสารกำกับยาภาษาไทยของบริษัท ไฟเซอร์ (ประเทศไทย) จำกัด บางช่วงบางตอนที่เกี่ยวข้อง ระบุว่า ชื่อผลิตภัณฑ์ โคเมอร์เนตี (Comirnaty) ชนิดเข้มข้นสำหรับกระจายตัวสำหรับฉีด วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอ สำหรับป้องกันโรคโควิด-19 (นิวคลีโอไซด์ที่ถูกดัดแปลง) ใน 1 โดส (0.3 มิลลิลิตร) ประกอบด้วยตัวยาสำคัญ คือ วัคซีนเอ็มอาร์เอ็นเอโควิด-19 ห่อหุ้มด้วยอนุภาคไขมันขนาดนาโน บรรจุอยู่ 30 ไมโครกรัม ยานี้บรรจุในขวดแก้วสำหรับใช้หลายครั้ง และจะต้องเจือจางก่อนใช้ ใน 1 ขวด (0.45 มิลลิลิตร) บรรจุวัคซีนสำหรับฉีด 6 โดส โดสละ 0.3 มิลลิลิตรหลังเจือจางแล้ว
สำหรับการละลายก่อนการเจือจาง ขวดวัคซีนสำหรับใช้หลายครั้งถูกเก็บในตู้แช่แข็งและจะต้องละลายจากการแช่แข็งก่อนเจือจาง จะต้องนำขวดวัคซีนที่ถูกแช่แข็งไปวางไว้ในสภาวะที่มีอุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส ถึง 8 องศาเซลเซียสเพื่อให้ละลายจากการแช่แข็ง บรรจุภัณฑ์ที่มีขวดวัคซีนบรรจุอยู่ 195 ขวดอาจจะใช้เวลาละลายจากการแช่แข็งนาน 3 ชั่วโมง หรืออีกทางหนึ่งสามารถวางขวดวัคซีนที่แช่แข็งให้ละลายไว้ได้ที่อุณหภูมิสูงถึง 30 องศาเซลเซียส เป็นเวลา 30 นาทีสำหรับใช้ทันที
ทั้งนี้ สามารถเก็บขวดวัคซีนที่ยังไม่ได้เปิดใช้ได้นานถึง 1 เดือน ที่อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียสถึง 8 องศาเซลเซียสนี้ อาจทำการขนส่งได้ แต่ต้องใช้ระยะเวลาไม่เกิน 12 ชั่วโมง
นำขวดวัคซีนที่ละลายจากการแช่แข็งแล้วไปวางในอุณหภูมิห้องและคว่ำขวดวัคซีนขึ้นลงช้าๆ อย่างเบามือ 10 ครั้งก่อนที่จะเจือจาง ห้ามเขย่า
ก่อนเจือจาง วัคซีนชนิดกระจายตัวที่ละลายจากการแช่แข็งแล้วอาจมีอนุภาคอสัณฐานทึบแสงสีขาวถึงสีออกเหลืองอ่อนได้
การเจือจาง จะต้องเจือจางวัคซีนที่ละลายจากการแช่แข็งแล้วในขวดเดิมด้วยสารละลายโซเดียมคลอไรด์* 9 มิลลิกรัม/มิลลิลิตร (0.9%) ชนิดฉีดปริมาตร 1.8 มิลลิลิตร โดยใช้เข็มฉีดยาชนิด 21 gauge หรือเข็มฉีดยาที่มีปลายแคบกว่า และใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ
ปรับความดันในขวดวัคซีนให้สมดุลก่อนถอนเข็มฉีดยาออกจากจุกยางของขวดวัคซีน โดยดูดอากาศปริมาตร 1.8 มิลลิลิตรเข้าไปในกระบอกฉีดยาเปล่าสำหรับเจือจาง
คว่ำขวดวัคซีนชนิดกระจายตัวที่เจือจางแล้วขึ้นลงช้าๆ อย่างเบามือ 10 ครั้ง ห้ามเขย่า
วัคซีนที่เจือจางแล้วควรมีลักษณะเป็นวัคซีนชนิดกระจายตัวที่มีสีขาวถึงสีออกเหลืองอ่อน (off-white) ซึ่งไม่มีอนุภาคที่สามารถเห็นได้ด้วยตาเปล่า ห้ามใช้วัคซีนที่เจือจางแล้วหากเห็นว่ามีอนุภาคหรือเปลี่ยนสี
ควรจดบันทึกวันที่และเวลาที่ถูกต้องไว้บนขวดวัคซีนที่เจือจางแล้ว หลังจากเจือจาง ให้เก็บวัคซีนไว้ที่อุณหภูมิ 2 องศาเซลเซียส ถึง 30 องศาเซลเซียส และใช้วัคซีนภายใน 6 ชั่วโมงรวมเวลาการขนส่งใดๆ
ห้ามแช่แข็งหรือเขย่าวัคซีนชนิดกระจายตัวที่เจือจางแล้ว หากนำไปแช่เย็น ควรทิ้งวัคซีนชนิดกระจายตัวที่เจือจางแล้วให้มีอุณหภูมิห้องก่อนนำไปใช้
การเตรียมวัคซีนโคเมอร์เนตีที่ขนาดยา 0.3 มิลลิลิตรสำหรับใช้หนึ่งครั้ง หลังจากเจือจาง จะมีวัคซีนบรรจุในขวดวัคซีน 2.25 มิลลิลิตร ซึ่งจะสามารถดูดวัคซีนจากขวดวัคซีนได้ 6 โดส โดสละ 0.3 มิลลิลิตร
โดยใช้เทคนิคปราศจากเชื้อ ทำความสะอาดจุกยางของขวดวัคซีนโดยใช้แผ่นฆ่าเชื้อสำหรับทำความสะอาดสำหรับใช้ครั้งเดียว
ดูดโคเมอร์เนตี 0.3 มิลลิลิตรออกจากขวดวัคซีน
ควรใช้กระบอกฉีดยาและ/หรือเข็มฉีดยาที่มีปริมาตรยาตกค้างต่ำ (low-dead-volume) เพื่อให้สามารถดูดวัคซีนออกมาจากขวดวัคซีนได้ 6 โดส กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยาที่มีปริมาตรยาตกค้างต่ำควรมีปริมาตรยาตกค้างไม่ต่ำกว่า 35 ไมโครลิตร
หากใช้กระบอกฉีดยาและเข็มฉีดยาแบบมาตรฐาน วัคซีนหนึ่งขวดอาจมีปริมาตรไม่เพียงพอสำหรับการดูดวัคซีนโดสที่หก
ขนาดวัคซีนสำหรับฉีดแต่ละโดสต้องมีปริมาตร 0.3 มิลลิลิตร
หากปริมาณวัคซีนที่เหลืออยู่ในขวดวัคซีนไม่เพียงพอสำหรับการฉีดวัคซีนเต็มโดสที่ขนาด 0.3 มิลลิลิตร ให้ทิ้งขวดวัคซีนและวัคซีนใดๆ ที่เหลือในขวด
ทิ้งวัคซีนใดๆ ที่ไม่ได้ใช้ภายใน 6 ชั่วโมง หลังจากเจือจาง
การกำจัดยา ควรทิ้งผลิตภัณฑ์ยาที่ไม่ได้ใช้หรือของเสียใดๆ ตามข้อกำหนดของท้องถิ่น
หมายเหตุ : * สารละลายโซเดียมคลอไรด์ ข้อมูลจาก pobpad.com ระบุว่า เป็นสารน้ำที่มีส่วนผสมของเกลือและน้ำ โดยจะประกอบไปด้วยสารละลายโซเดียมคลอไรด์ (Sodium Chloride: NaCl) ในความเข้มข้น 0.9 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคล้ายคลึงกับความเข้มข้นของโซเดียมในเลือดและน้ำตา บางครั้งอาจเรียกน้ำเกลือว่าสารละลายไอโซโทนิก เนื่องจากมีความสมดุลกับน้ำในเซลล์ร่างกาย จึงเหมาะในการนำไปทำความสะอาดอวัยวะบางส่วนที่ใช้น้ำเกลือได้ โดยผลิตภัณฑ์นี้สามารถหาซื้อได้ง่ายและมีราคาถูก