พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ออกมาชี้แจงประเด็นดรามาฉีดเข็ม 3 ให้ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ชี้เป็นเจ้าหน้าที่ด่านหน้ารับผู้ป่วยจากพื้นที่สีแดงกลับบ้าน อีกทั้งไม่ได้ไปเบียดเบียนวัคซีนหลัก เอาเศษจากโดสที่เหลือ 1-2 โดสต่อขวดมาฉีด
ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์เต้น! ตั้ง กก.สอบฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ เข็ม 3 ให้ตำรวจ หลังทัวร์ลงไม่ใช่บุคลากรการแพทย์
จากกรณีโซเชียลมีเดียได้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อกระแสข่าวการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า (Astra Zeneca) ให้แก่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์นั้น ต่อมา นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงฉีดวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้าเข็ม 3 ให้ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ เนื่องจากโดนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเพราะไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ ขณะโฆษกตำรวจภาค 3 แจงเป็นการฉีดให้ 11 ตำรวจจิตอาสาขับรถหนุนภารกิจรับ-ส่งผู้ป่วยโควิดกลับบ้าน ด้าน สสจ.ชี้เป็นการฉีดให้ผู้ให้บริการด่านหน้าเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและความปลอดภัย
ล่าสุดวันนี้ (26 ก.ค.) มีรายงานว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ออกมากล่าวถึงเหตุการณ์ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ให้ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ยอมรับว่าเป็นเรื่องจริง แต่เพื่อรองรับโครงการใหม่ที่เพิ่งตั้งขึ้นมา ชื่อ "โครงการทำดีด้วยหัวใจ สู้ภัยโควิดด้วยศรัทธา" ซึ่งจะให้ จนท.ตำรวจทุก สภ.สมัครใจเข้ามาเป็นอาสาไปรับผู้ป่วยโควิด-19 ระดับสีเขียวที่พื้นที่สีแดง กลับมารักษาตัวที่บุรีรัมย์ ซึ่งมีโรงพยาบาลสนามรองรับไว้แล้ว
ปัจจุบันมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสมัครใจเข้าร่วมโครงการแล้ว 9 สภ. ซึ่งแต่ละ สภ.จะแบ่งเป็นกลุ่ม หนึ่งกลุ่มจะมี 11 นาย มีหัวหน้าชุด 1 นาย หน้าที่หลักคือต้องขับรถขนผู้ต้องหาของตำรวจ ซึ่งจะมีห้องแยกระหว่างคนขับกับผู้โดยสารชัดเจน โดยไม่ต้องไปดัดแปลงรถ ไปรับผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในพื้นที่สีแดง กรุงเทพฯและปริมณฑล แต่ต้องเป็นผู้ป่วยระดับสีเขียว อาการไม่หนัก กลับมารักษาตัวที่ จ.บุรีรัมย์ เพื่อลดความแออัดของผู้ป่วยที่ไม่มีเตียงรักษา ซึ่ง จนท.ทั้งหมดถือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง จึงจัดให้มีการฉีดเข็มที่ 3 ให้ นอกจากนี้ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์ยังเปิดเผยอีกว่า วัคซีนที่นำมาฉีดให้ จนท.ตำรวจนั้นไม่ได้ไปเบียดเบียนจากวัคซีนหลักมาฉีด แต่เป็นวัคซีนที่เหลือเศษจากขวดวัคซีนประมาณ 1-2 โดสต่อขวด เพราะวัคซีนแต่ละขวดจะมีปริมาณมากกว่า 10 โดสอยู่แล้ว