ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์เต้น! ตั้ง กก.สอบข้อเท็จจริงฉีดวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า เข็ม 3 ให้ตำรวจ สภ.ใหม่ไชยพจน์ หลังโซเชียลฯ วิจารณ์หนักไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์ ขณะโฆษกตำรวจภาค 3 แจงเป็นการฉีดให้ 11 ตำรวจจิตอาสาขับรถหนุนภารกิจรับ-ส่งผู้ป่วยโควิดกลับบ้าน ด้าน สสจ.ชี้เป็นการฉีดให้ผู้ให้บริการด่านหน้าเพื่อสร้างขวัญกำลังใจและความปลอดภัย
วันนี้ (25 ก.ค.) กรณีโซเชียลมีเดียได้มีการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักต่อกระแสข่าวการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มที่ 3 ยี่ห้อแอสตร้าเซนเนก้า (Astra Zeneca) ให้แก่ตำรวจ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ทั้งที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์นั้น
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ลงนามคำสั่งจังหวัดบุรีรัมย์ ที่ 5417/2564 ลงวันที่ 25 ก.ค. 2564 เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพื่อดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว
รายละเอียดหนังสือคำสั่งระบุว่า ด้วยปรากฏข้อมูลตามสื่อสังคมออนไลน์ (เฟซบุ๊ก) กรณีว่ามีกระแสข่าวการฉีดวัคซีนในพื้นที่ของอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ จังหวัดบุรีรัมย์ ให้แก่เจ้าหน้าที่ให้บริการด่านหน้าอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนของหน่วยงานภาครัฐ จังหวัดบุรีรัมย์
ฉะนั้น อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 54 และมาตรา 57 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 จึงแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีว่ามีกระแสข่าวการฉีดวัคซีนในพื้นที่ของอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ ให้แก่เจ้าหน้าที่ให้บริการด่านหน้าอื่นที่ไม่ใช่บุคลากรทางการแพทย์โดยตรง ในการเฝ้าระวังป้องกันควบคุมการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยมี นายไชยวัฒน์ จุนระพงศ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานกรรมการ
ให้มีอำนาจและหน้าที่ดำเนินการรวบรวมพยานเอกสารที่เกี่ยวข้องกับกระแสข่าวเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาให้ถ้อยคำ พร้อมจัดส่งเอกสารชี้แจงข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา และสรุปข้อเท็จจริงพร้อมเสนอความเห็นให้ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ทราบโดยด่วน
พร้อมกันนี้ นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ทำหนังสือด่วนที่สุด ที่ บร 0018.1/14363 ลงวันที่ 25 ก.ค. 64 เรื่อง การแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เรียน ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เพื่อแจ้งให้รับทราบถึงการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าว และจะรายงานผลการสอบข้อเท็จจริงให้ทราบต่อไป
ทางด้าน พล.ต.ต.ไพศาล ลือสมบูรณ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 และโฆษกตำรวจภูธรภาค 3 ได้เปิดเผยทางเฟซบุ๊กส่วนตัวว่า ขอชี้แจงกรณีเมื่อวันที่ 23 ก.ค. 64 เพจเฟซบุ๊กของ สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ จ.บุรีรัมย์ ได้โพสต์ข้อความว่า “พ.ต.อ.สุเอก ฉินธนทรัพย์ ผกก.สภ.บ้านใหม่ไชยพจน์ ได้ประสานการฉีดวัคซีนกระตุ้นภูมิเข็มที่ 3 ยี่ห้อ AstraZeneca กับทางสาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ โดยมีเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลดำเนินการฉีดวัคซีนให้แก่ข้าราชการตำรวจแล้ว จำนวน 11 นาย อาการผลข้างเคียงไม่มี” ทำให้มีกระแสวิพากษ์วิจารณ์มากมายนั้น
ตำรวจภูธรภาค 3 ขอชี้แจงว่า ด้วยสถานการณ์การติดเชื้อและแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) มีอัตราเพิ่มสูงขึ้น และประชาชนผู้ติดเชื้อในบางพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนอยู่ในภาวะวิกฤตโดยไม่มียานพาหนะรับและส่งตัวเพื่อได้รับการรักษายังสถานพยาบาล และเพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนและอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนเป็นการเร่งด่วน จึงให้แต่ละสถานีตำรวจสำรวจสถานภาพยานพาหนะประจำหน่วย และตำรวจที่ต้องทำหน้าที่พลขับยานพาหนะที่มีจิตอาสาเพื่อสนับสนุนภารกิจร่วมกับกรมการแพทย์ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ หน่วยแพทย์ฉุกเฉินหรือสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) เมื่อหน่วยงานด้านสาธารณสุขในพื้นที่มีความต้องการขอรับการสนับสนุน
พ.ต.อ.สุเอกได้ชี้แจงสถานการณ์และเหตุผลความจำเป็นที่เข้าร่วมเป็นจิตอาสาในภารกิจนี้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาทราบและเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว ปรากฏว่ามีตำรวจที่อาสาปฏิบัติภารกิจนี้ จำนวน 11 นาย จึงได้แจ้งให้สาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์ทราบ ทางสาธารณสุขอำเภอบ้านใหม่ไชยพจน์จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมวัคซีนมาฉีดให้แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 11 นายเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม ความมั่นใจให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ต้องทำหน้าที่เป็นพลขับยานพาหนะรับและส่งตัวผู้ติดเชื้อเพื่อไปส่งสถานพยาบาลต่างๆและหากต้องไปรับผู้ติดเชื้อจากกรุงเทพมหานครและปริมณฑลกลับมาส่งที่บ้านในจังหวัดบุรีรัมย์ก็พร้อมปฏิบัติในทันทีเมื่อได้รับการประสานแจ้งที่สถานีตำรวจ
“จึงขอเพียงความเห็นใจและเห็นใจผู้อาสาปฏิบัติด้วยครับ” พล.ต.ต.ไพศาลกล่าว
ขณะที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงเรื่องดังกล่าวว่า ตามที่ปรากฏว่ามีการเผยแพร่ผ่านระบบคอมพิวเตอร์และสื่อสังคมออนไลน์เรื่องการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า (AstraZeneca) เข็มที่ 3 ในเขตพื้นที่ของจังหวัดบุรีรัมย์ ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ขอชี้แจงดังนี้
เนื่องจากมีการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 มากขึ้น รัฐบาลจึงมีนโยบายในการฉีดวัคซีนให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และบริการด่านหน้าเพื่อเป็นการกระตุ้นภูมิคุ้มกันให้มีศักยภาพในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคมากขึ้น ตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ประกอบกับมีข้อสั่งการของกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2564 ที่ให้มีการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 แก่บุคลากรการแพทย์และสาธารณสุข
จึงเป็นเหตุให้สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์และโรงพยาบาลในสังกัดทุกแห่งจัดเตรียมวัคซีนจำนวน 7,964 โดส เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และผู้ให้บริการด่านหน้า และได้ดำเนินการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้ากระตุ้นเข็มที่ 3 ให้แก่บุคลากรทางการแพทย์และบริการด่านหน้าแล้วจำนวน 3,533 คน เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจและความปลอดภัยแก่บุคลากรการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าตามนโยบายดังกล่าว