ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต ที่ปรึกษา ศบค. โพสต์เฟซบุ๊กยอมรับไม่สามารถบังคับบริษัท AstraZeneca ให้ส่งวัคซีนตามที่เราต้องการได้ ยันมีการเจรจาต่อรองอยู่ตลอดและจะหาวิธีที่ทำให้ประเทศไทยได้ประโยชน์สูงสุด วอนให้กำลังใจคนทำงาน อย่าด่ากันเลย
จากกรณีที่มีข้อมูลในโลกโซเชียลว่าไทยต้องการวัคซีนโควิด-19 จากบริษัท แอสตร้าเซนเนก้า เพียงเดือนละ 3 ล้านโดสเท่านั้น กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลเน็ตเวิร์ก ต่อมาปรากฏเอกสารจดหมายถึง Mr. Sjoerd Hubben รองประธานด้านกิจการระหว่างประเทศ แอสตร้าเซนเนก้า ประเทศอังกฤษ ลงนามโดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยืนยันข้อเท็จจริงการเจรจาข้อตกลงจัดหาวัคซีนโควิด-19 จำนวน 10 ล้านโดสต่อเดือน
อ่านข่าวประกอบ - เปิด จม.ฝั่งไทยขอ “แอสตร้าฯ” ส่ง 10 ล้านโดสต่อเดือน หลังโซเชียลปั่นหนัก ไทยต้องการแค่ 3 ล้านโดส
อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ผศ.ดร.วรัชญ์ ครุจิต รองคณบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา คณะนิเทศศาสตร์และนวัตกรรมการจัดการ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) และที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค.โพสต์เฟซบุ๊ก “Warat Karuchit” ออกมาเปิดเผยถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ บริษัท AstraZeneca บอกว่าสามารถส่งวัคซีนโควิด-19 ให้ประเทศไทยได้แค่ 5-6 ล้านโดสต่อเดือน จากเดิมที่เคยพูดคุยกันไว้ที่ 10 ล้านโดสตั้งแต่เดือนที่ 2 โดยที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร ศบค.ได้ระบุข้อความว่า
“เป็นความจริงครับ ที่สัญญาที่เรามีไม่สามารถบีบบังคับให้ AZ ส่งให้เราได้เท่าที่เราอยากได้ ซึ่งทำให้แผนฉีดวัคซีนที่เราวางไว้รวนไปเลย
เป็นความจริงครับ ที่เราไม่สามารถจะห้ามส่งออกวัคซีนได้ง่ายๆ ไหนจะเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเรื่องวัตถุดิบที่ต้องนำเข้า แต่ผมคิดว่ายังไม่มีข้อสรุปเลยนะครับ ว่าเราจะได้ AZ มาครบเมื่อไหร่ เราไม่ได้นิ่งเฉย เขาบอกอย่างไรก็ยอมตามนั้นทุกอย่าง ยังมีการเจรจาต่อรองอยู่ตลอดเวลา ซึ่งตลาดวัคซีนผู้ซื้อเสียเปรียบอยู่แล้ว แต่การที่ทางบริษัทแจ้งมาอย่างนี้ก็อาจเป็นการต่อรองเงื่อนไขรูปแบบหนึ่งที่ทางไทยเองก็ต้องคิดหาหนทางต่อรองกลับไปด้วยเงื่อนไขที่ดีที่สุดกับประเทศ
ผมเองยังเชื่อว่าไม่มีใครรู้หรอกครับว่าเราจะได้ครบ 61 ล้านโดสเมื่อไหร่ ปีนี้หรือปีหน้า แต่ละเดือนมีเหตุการณ์เปลี่ยนแปลงมากมาย อาจจะมีวัคซีนใหม่ ทั้งของไทยและของที่อื่น หรือที่อื่นอาจได้พอและไม่ต้องการ AZ เท่าตอนนี้แล้ว แต่ในระหว่างนั้นเราก็ต้องปรับแผนตามทรัพยากรวัคซีนที่เรามีครับ
และคนคิดบวกอย่างผมยังมีความหวังว่าจะได้วัคซีนเร็วขึ้นกว่า พ.ค. ปีหน้าตามข่าว และได้มากกว่า 5-6 ล้านโดสในเดือนนี้ (คิดเสียว่าเป็นอย่างต่ำก็แล้วกัน) และในเดือนต่อๆ ไป พร้อมทั้งได้แผนใหม่ที่ดีพอๆหรือมากกว่าเดิม เพราะประวัติศาสตร์บอกเราว่า คนไทยเป็นชาติที่เก่งในเรื่องของการเจรจาต่อรอง และการปรับตัว
เพราะฉะนั้นเรามาให้กำลังใจคนทำงานกันดีกว่าครับ ให้สามารถเจรจาต่อรองได้มากขึ้น และปรับแผนให้ได้ดีที่สุด เพราะต่อให้ด่าแค่ไหนก็ไม่ได้วัคซีนมาเร็วขึ้นครับ”